ไหวไหม ? ค่ารถไฟฟ้าวันละ 200 บาท
ปัจจุบันกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีรถไฟฟ้าหลากสายทั้งที่เปิดให้บริการแล้ว, อยู่ระหว่างทดลองวิ่ง และบางสายก็กำลังก่อสร้าง แน่นอนว่าปัจจัยหลักที่จะทำให้ผู้โดยสารเลือกใช้บริการ นอกจากความรวดเร็วในการเดินทางแล้ว ยังมีอีกหนึ่งข้อสำคัญคือ “ค่าโดยสาร”
ค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว
สายสีเขียว 16-59 บาท *อยู่ระหว่างเจรจาค่าโดยสารใหม่
- แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ 15-45 บาท
- สายสีทอง 15 บาทตลอดสาย
โดยรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการทดลองวิ่ง เตรียมความพร้อมระบบ มีแนวโน้มว่าจะเก็บค่าโดยสารในราคา 14-42 บาท ส่วนสายสีเหลือง สายสีชมพู สายสีส้ม ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ค่าโดยสารยังไม่มีการประกาศออกมาเป็นทางการแน่ชัด
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า ในอีก 1-4 ปีข้างหน้า กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีรถไฟฟ้าให้บริการอย่างน้อย 9 สาย แต่แนวโน้มของ ‘ตั๋วร่วม’ หรือบัตรใบเดียวใช้รถไฟฟ้าได้ทุกระบบ ยังคงดูริบหรี่ แม้จะมีการพูดคุยกันมานานเกือบทศวรรษ ส่งผลให้คนเดินทาง ยังต้องจ่ายค่าโดยสารในราคาที่สูง เนื่องจากการเดินทางเปลี่ยนสาย จะถูกคิดค่าแรกเข้าใหม่ทุกครั้ง โดยค่าแรกเข้าแต่ละสายมีตั้งแต่ 14-17 บาท ยกเว้นการเดินทางข้ามสายสีม่วง-น้ำเงิน ที่ปัจจุบันไม่มีค่าแรกเข้า
หากสมมติว่า วันหนึ่ง ‘ตั๋วร่วม’ ได้ฤกษ์คลอด แต่ทำหน้าที่เป็นเพียงบัตรที่แตะได้ทุกระบบ แต่ไม่ยกเว้น ‘ค่าแรกเข้า’ คนเดินทางก็ยังต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ต่อไป แต่หากมีการเจรจากันเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยแท้จริง คนเดินทางก็จะจ่ายแรกเข้าเพียงส่วนเดียว จากนั้นเป็นการคิดค่าโดยสารตามระยะทาง
ตัวอย่างเช่น ค่าโดยสารปัจจุบัน
นาย A บ้านอยู่รังสิต ทำงานย่านชิดลม มาทำงานโดยรถไฟฟ้าสายสีแดง (รังสิต-บางซื่อ 42 บาท) ต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-สวนจตุจักร 19 บาท) ต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-ชิดลม 44 บาท) ใน 1 วัน นายเอ จะเสียค่าโดยสาร 42+19+44 = 105 บาท หรือไปกลับวันละ 210 บาท
แต่หากวันหนึ่ง ‘ตั๋วร่วม’ ที่ทุกคนเฝ้ารอมานานแสนนาน เกิดขึ้นจริง และคนเดินทางเสียค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียว (สมมติว่า ค่าแรกเข้าราคากลางอยู่ที่ 14-16 บาท)
นาย A จะจ่ายค่าโดยสารเพียง 42+2+28 บาท หรือเพียงเที่ยวละ 72 บาท ไปกลับวันละ 144 บาท ประหยัดลงมาได้ประมาณ 60 บาท/วัน หรือ 1 เดือนทำงาน 26 วัน นาย A จะสามารถประหยัดค่าเดินทางได้ประมาณ 1,700 บาทเลยทีเดียว
เมื่อโปรเจกต์รถไฟฟ้าของรัฐบาลเสร็จสมดั่งใจหมายแล้ว อย่าลืมหันกลับมาเหลียวมองค่าโดยสารคนเดินทางที่ต้องจ่ายในแต่ละวัน มิเช่นนั้นประชาชนเขาจะมองเอาว่า สร้างมาเพื่อนายทุน ไม่ได้สร้างมาเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ และ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จะจัดเสวนา "ค่าโดยสารรถไฟฟ้าหลากสี กับราคาที่ประชาชนต้องแบกรับ" เวลา 10.00 - 11.45 น. เพื่อให้มีแนวทางควบคุมราคาค่าโดยสารให้มีความเป็นธรรมและเหมาะสม เนื่องจากในอนาคตอันใกล้ ถ้ามีการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายใหม่และเปิดช่วงต่อขยาย จะยิ่งส่งผลให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงมากยิ่งขึ้น จะกระทบผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง ไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ และรถไฟฟ้าจะมีผู้ใช้บริการน้อยลง ต่ำกว่าศักยภาพที่ควรรองรับได้
อ้างอิงจาก: Suchatinee Aaltonen, ช่องONE