จิตใจโหดเฮียมเกินมนุษย์!!!
มันโหดร้ายเกินไป เจอข่าวนี้ต้องช่วยกันเเชร์ตามหาตัวคนร้าย.
เหตุเกิดตั้งแต่ปี 56
2 สามีภรรยาดังกล่าว หลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ทรมาน หรือทารุณกรรมโหดร้าย พรากผู้เยาว์ และกักขังหน่วงเหนี่ยวเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ทั้งสองได้ใช้เงิน 1 แสนบาท เเละขอประกันตัวออกไป #จนกระทั่งเวลาผ่านไป ทั้ง 2 ยังคงหนีประกัน หายไปอย่างไร้วี่แววครับ
#ไม่น่าเชื่อยังมีคนใจคออำมหิตโหดเกินคนอยู่อีกหรือทำยังกะเขาไม่ใช่คน.....ลักพาตัวเด็กมาเป็นทาสนานกว่า 5 ปี
จับขังในกรงหมา เอาน้ำร้อนลวก
ชาวบ้านช่วยเหลือพาส่งตำรวจ ตำรวจกลับพามาส่งคืนนายทาส
นายทาสโกรธ จับหัวโขกผนังกระโหลกแตก และ ตัดหูให้แหว่งเพื่อสั่งสอนฯลฯ
วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชร ถนนเทศา 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร หลังได้รับแจ้งว่าทางบ้านพักฯ ได้รับตัว ด.ญ.แอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ชาวกระเหรี่ยง ที่ถูกสามีภรรยาชาวไทยคู่หนึ่ง ลักพาตัวมาบังคับให้เป็นคนรับใช้ กักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ในบ้านพักใน อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นานกว่า 5 ปี โดยหากเหยื่อสาวรายนี้ขัดคำสั่งก็จะถูกสามีภรรยาใช้วิธีทารุณกรรมต่าง ๆ อาทิ จับขังในกรงสุนัข ใช้น้ำร้อนราดตัวจนเป็นแผลเป็นทั่วร่างกาย
เมื่อไปถึงพบนายธนวัฒน์ สถิตย์ หัวหน้าบ้านพักฯ กำลังนั่งสอบถามเรื่องราวจาก ด.ญ.แอ ที่อยู่ในสภาพเป็นแผลเป็นจากการถูกน้ำร้อนลวกทั่วร่างกาย ที่บริเวณหน้าอก หน้าท้อง ต้นขา หัวเข่า และส้นเท้าทั้ง 2 ข้าง มีแต่รอยแผลเป็นที่เป็นก้อนเนื้อนูนขึ้นมาแทนที่ผิวหนังเดิม อีกทั้งแขนทั้ง 2 ข้าง ถูกน้ำร้อนลวกจนเนื้อเชื่อมติดกับลำตัว จนไม่สามารถยกแขนหรือขยับได้ เป็นที่น่าเวทนาและสลดหดหู่ใจของผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามด.ญ.แอ ให้รายละเอียดว่า พ่อแม่ตนเป็นคนงานชาวกระเหรี่ยงทำงานอยู่ในไร่อ้อยแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เมื่อช่วงปี 51 ขณะนั้นตนอายุ 7 ขวบ มีสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เป็นเจ้าของไร่ที่อยู่ติดกับไร่ที่พ่อแม่ตนทำงานอยู่ ได้เดินเข้ามากวักมือเรียกตนให้เข้าไปหา ด้วยความที่เป็นเด็กยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร จึงเดินตามไป และถูกสามีภรรยาคู่นั้นพาตัวมาที่บ้านพัก ก่อนบังคับให้ทำงานบ้านมาจนถึงขณะนี้เป็นเวลานานกว่า 5 ปีแล้ว ส่วนบาดแผลเกิดจากถูกน้ำร้อนราดตัว และถูกจับขังในกรงสุนัขจนถึงเช้า ก่อนที่เจ้าของบ้านจะใช้น้ำเกลือมาล้างแผลและหายามาทาให้โดยไม่ได้พาตนส่งโรงพยาบาล.
อ้างอิงจาก: แหม่มโพธิ์ดำ, Subaru Richman