ทำ hifu ดีไหม? ก่อนตัดสินใจทำต้องรู้อะไรบ้าง ช่วยยกกระชับใบหน้าได้จริงไหม?

การทำ hifu ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่าง ๆ เช่น ดารานักร้อง ต่างก็หันมาทำไฮฟู่กันมากขึ้น เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับขึ้นได้อย่างเห็นผล โดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่เป็นอันตรายเพราะใช้คลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูงในการทำ

ทำ Hifu ดีไหม? ตัวเราเหมาะที่จะทำไฮฟู่หรือเปล่า

Hifu คือ ตัวช่วยในการจัดการความหย่อนคล้อย ริ้วรอย และยังเหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับผิวในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า คอ เหนียง ต้นขา ต้นแขน และเป็นคนที่กลัวการผ่าตัด และกลัวเข็ม และด้วยเหตุที่ว่าแต่ละคนอาจมีลักษณะความหย่อนคล้อยของผิวที่แตกต่างกันออกไป จึงควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ให้ช่วยวิเคราะห์สภาพผิวหน้า เพื่อเลือกวิธีการอันเหมาะสมที่จะช่วยจัดการกับปัญหาได้อย่างดีที่สุด

Hifu คือ อะไร? ทำแล้วได้ผลจริงไหม?

Hifu คือ หัตถการที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนี้ที่สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย จัดการปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากวัยที่เพิ่มขึ้น

 

Hifu คือ คลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง (เป็นคลื่นลักษณะเดียวกับเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจครรภ์)

หลักการทำงานของ Hifu Macrofocus คือ การยิงคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์เข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้น อันได้รับการพัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ทางการแพทย์ที่ใช้ดูครรภ์ ลักษณะคล้ายการดึงหน้า เพื่อทำให้ผิวชั้นที่ยิงนั้นเกิดการหดตัว เสมือนกับการเย็บลงไปที่เนื้อของเรา

สามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตาและรอบดวงตาได้โดยตรง เพราะคลื่นเสียงตัวนี้จะไม่ทำอันตรายต่อสายตามนุษย์ และยังปลอดภัยสูง จะไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก เนื่องจากไม่ใช่เลเซอร์และไม่ใช่คลื่นแสง และจะช่วยให้ผิวดูยกกระชับมากยิ่งขึ้น ใบหน้าจึงดูอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

รีวิว การปรับรูปหน้าให้เข้ารูป กระชับด้วย Hifu

(หมายเหตุ : ภาพ After คือภาพผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการทำ hifu เสร็จทันที)

รีวิว hifu ย้อนวัยให้หล่อ ดูดี มีเสน่ห์แบบพี่ชาคริต ที่ V Square Clinic (14 สาขา)

 

ตัวอย่างรีวิวผลการรักษา Hifu เหนียง 300 line ด้วยเครื่อง ultraformer III

 

ตัวอย่างรีวิวผลการรักษา Hifu ใต้ตา ร่องแก้ม 300 line + ฟิลเลอร์ใต้ตาร่องแก้ม 2cc

ตัวอย่างรีวิวผลการรักษา Hifu ลดไขมันกระชับแก้มด้วยเครื่อง ultraformer III  

 ตัวอย่างรีวิวผลการรักษา Hifu ใต้ตา ร่องแก้ม 300 line + ฟิลเลอร์ใต้ตาร่องแก้ม 2cc

การทำ Hifu ช่วยในเรื่องอะไรได้บ้าง?

การทำ Hifu คือเครื่องมือที่ใช้แก้ปัญหาเรื่องการหย่อนคล้อยของใบหน้า จากคอลลาเจนและอีลาสตินที่ยืดออกด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อทำไฮฟู่แล้วใบหน้าจึงได้รับการยกกระชับให้ดูเด็กลงได้

เนื่องจากเครื่องมืออย่าง hifu จะไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ กระตุ้นคอลลาเจนในทุก ๆ ชั้นผิวได้ ทำให้ผิวหนังที่ถูกสร้างขึ้นใหม่มีความกระชับมากกว่าเก่า รูขุมขนดูเล็กลง ผิวหน้าเรียบเนียน ช่วยให้ผิวหน้ากลับมาเนียนนุ่ม หน้าดูใสขึ้น และยังช่วยชะลอความหย่อนคล้อยที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าอีกด้วย

นอกจากผิวหน้าแล้ว ยังช่วยลดริ้วรอยที่คอ กระชับไขมันบริเวณเหนียง ในครั้งแรกที่ทำก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน 

มีผลเสียหรือไม่ หากอายุยังไม่ถึง 25 ปี แต่อยากจะทำ hifu?

คนที่อายุยังน้อยและเริ่มทำ Hifu Macrofocus จะสามารถช่วยชะลอการเกิดร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องใต้ตาได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นตัวการที่จะทำให้ใบหน้าดูมีอายุและดูโทรมลง โดยเราสามารถเริ่มทำ hifu ได้ตั้งแต่อายุ 20 กว่า ๆ

คนเราเมื่อมีวัยเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป elastin เริ่มยืดออก ส่งผลให้ใบหน้าทุกคน 90% จะเริ่มหย่อนคล้อยลง ตามมาด้วยปัญหาร่องแก้ม ร่องใต้ตา

 

ถ้าเราไม่ดูแลให้ผิวหน้ากระชับ จะส่งผลให้ความหย่อนคล้อยเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ เนื่องจากผิวหน้าทุกคนจะเริ่มหย่อนลงตามวัยที่มากขึ้น (เกิดการยุบลงของกระดูกและเนื้อ) 

หากปล่อยให้อีลาสตินยืดออกต่อไปอีกเรื่อย ๆ ความหย่อนคล้อยของผิวหน้าก็จะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ทางที่ดีเราจึงควรทำให้ใบหน้าเกิดความกระชับอยู่ตลอดเวลา โดยเริ่มดูแลตั้งแต่ยังอายุน้อย

นอกจากนี้ การทำ hifu ยังช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้ ช่วยยกแนวคิ้วให้ดูสูงขึ้น แก้ปัญหาคิ้วตก ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง ลดคางสองชั้นหรือเหนียงใต้คางอันเกิดจากความหย่อนคล้อยและไขมันสะสม และยังช่วยแก้ปัญหาความหมองคล้ำบนใบหน้าได้อีกด้วย

ทำHifu อย่างไรดี ถึงจะปลอดภัยและเห็นผล?

• สำหรับคนที่มีใต้ตาลึกหรือมีร่องแก้ม หากต้องการเห็นผลแบบรวดเร็ว ชัดเจน แนะนำว่าการฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่าการทำ hifu หรือ ulthera และยังประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าด้วย เมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและร่องแก้มแล้ว จะเห็นได้ว่าปัญหาริ้วรอยตามบริเวณที่ฉีดจะดีขึ้นได้อย่างทันทีถึง 80-90%
• หลังการฉีดฟิลเลอร์ สามารถทำ hifu เพื่อเก็บรายละเอียดได้
• สำหรับคนที่ไม่อยากฉีดฟิลเลอร์เพราะกลัวเข็มฉีดยา ก็สามารถเริ่มทำ Hifu Macrofocus / Ulthera ได้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง เนื่องจากต้องทำอย่างต่อเนื่อง หลาย ๆ ครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์เรื่องลดริ้วรอยได้ใกล้เคียงกับการฉีดฟิลเลอร์

การทำ Hifu เจ็บไหม?

หากดูจากคำโฆษณาของคลินิกหลายแห่งที่บอกว่า การทำ Hifu/Ulthera ไม่เจ็บและสามารถเห็นผลได้อย่างทันที ซึ่งไม่เป็นความจริงครับ

เพราะความเป็นจริงแล้ว คำถามที่ว่าการทำ Hifu เจ็บไหม ต้องตอบว่าเจ็บ รวมทั้งอาการหลังทำ hifu คือจะมีอาการบวมเล็กน้อยก่อน และจะค่อย ๆ ยุบบวมไปได้เอง

การที่คนไข้จ่ายเงินค่ารักษาค่อนข้างสูง ย่อมต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการทำ Hifu ให้ได้ประสิทธิภาพ ระหว่างทำจะต้องมีความรู้สึกปวดตึงตรงบริเวณใต้ชั้นผิว อันเป็นเครื่องบ่งบอกถึงว่า การยิงคลื่นเสียงได้เข้าไปถึงชั้น SMAS (ชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ) ถึงจะยกกระชับผิวได้จริง

มักมีคนบอกว่า การทำHifu/Ulthera  ยิ่งเจ็บ ยิ่งสวย เพราะหากต้องการให้ผลลัพธ์จากการทำ Hifu Macrofocus อยู่ได้นานถึง 1 ปี จะต้องแลกมาด้วยความเจ็บที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งปรกติแล้วผลจะอยู่ได้นาน 6 เดือนโดยประมาณ

หากมีการปรับใช้พลังงานให้ลดลง หรือใช้เครื่องทำ hifu ที่ไม่ได้มาตรฐาน ย่อมจะทำให้ได้ผลน้อยลงและผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานอย่างที่ควรจะเป็น จึงเป็นเหตุผลที่คลินิกบางแห่งบอกว่าการทำ hifu นั้นไม่เจ็บ

ทำ Hifu ต้องใช้กี่ชอตถึงจะเห็นผล?

การทำ hifu ต้องยิงกี่ช็อตจึงจะเห็นผล? คือคำถามที่คนจำนวนไม่น้อยยังคงไม่ทราบ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างตรงจุด แนะนำว่าควรปรึกษากับแพทย์ให้ช่วยประเมินก่อนทำ เพราะปัญหาแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน เช่น ใบหน้ามีความหย่อนคล้อยมากน้อยเพียงใด มีปริมาณไขมันมากแค่ไหน และมีสภาพผิวเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะส่งผลต่อการรักษาด้วยการทำไฮฟู่ 

ตัวอย่างรีวิวผลการรักษา Hifu ถุงใต้ตา ร่องแก้มลึก ด้วยเครื่อง ultraformer III

ผลที่ได้จากการทำ Hifu อยู่ได้นานกี่เดือน?

หลังจากทำ Hifu Macrofocus แล้วจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ในระยะ 2-3 เดือน ส่วนระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานเพียงใดนั้น โดยปกติแล้วจะอยู่ได้นาน 5-6 เดือน แต่ถ้าเราสามารถทนความเจ็บได้มากและดูแลตัวเองได้ดีหลังทำ hifu ผลก็จะอยู่ได้นานถึง 1 ปี

 

รีวิว ผลการรักษาด้วยเครื่อง ultraformer III (Macrofocus Hifu) ช่วยลดไขมันใต้คางได้

หลังจากทำ hifu เสร็จทันทีก็จะเห็นผลประมาณ 20% อันเกิดจากการหดตัวของชั้นผิว เพราะความร้อนที่ Focus ลงใต้ผิว 60°C-70°C หลักการของการยิง hifu จะคล้ายกับเนื้อที่เรานำไปวางลงบนกระทะร้อน เนื้อก็จะหดตัว แต่ไม่ทำให้ผิวชั้นบนร้อน และจะไม่ทำให้ผิวเกิดอาการไหม้ 

สามารถทำ Hifu ได้ทั่วทั้งร่ายกายจริงไหม?

การทำ hifu จะมีหัวที่ยิงให้เลือกหลายแบบ แพทย์จะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับระดับความลึกของผิวในบริเวณที่ต้องการรักษา ซึ่งสามารถยิงได้ทุกบริเวณที่เราต้องการเพิ่มความกระชับให้มากยิ่งขึ้น และแบ่งเป็น 2 ส่วนสำหรับบริเวณที่ยิงแล้วจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน คือ

• จุดต่าง ๆ บนใบหน้า : ร่องมุมปาก ร่องแก้ม พวงแก้ม เหนียง คอ กรอบหน้า หน้าผาก เปลือกตาบน และใต้ตา
• บริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย :  หน้าท้อง สะโพก เอวต้นแขน และต้นขา 

ผลข้างเคียงของการทำ hifu คืออะไร?

• การทำ Hifu Macrofocus ขณะทำจะรู้สึกปวด ๆ อุ่น ๆ บริเวณใต้ผิว และบริเวณผิว แต่จะไม่แสบหรือร้อนผิว
• สามารถใช้ยาชาทาจะช่วยลดความเจ็บปวดขณะทำลงได้
• ผลข้างเคียงคือ หลังการทำ Hifu Macrofocus อาจมีรอยแดงเกิดขึ้นได้บ้าง แต่ภายใน 1 – 2 ชั่วโมงรอยแดงก็จะหายไปได้เอง
• ไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้น หลังการรักษาคนไข้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปรกติ 

Hifu สามารถทำร่วมกับหัตถการอะไรได้บ้าง?

ไม่จำเป็นว่าจะต้องเลือกทำแค่ Hifu อย่างเดียว หรือเลือกทำเพียงใดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ สำหรับการยกกระชับใบหน้าในแต่ละครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เราสามารถทำ Hifu ควบคู่ไปกับการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เมโสแฟต ร้อยไหม 

ข้อควรปฏิบัติ หลังทำ Hifu

หลังทำ hifu ห้ามทำอะไรบ้าง?

• หลังการทำ hifu ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัดกลางแจ้งประมาณ 1-2 อาทิตย์ เพื่อช่วยให้คอลลาเจนใต้ผิวฟื้นฟูได้ดีขึ้น
• ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งงดสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันการยับยั้งการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง
• ควรปกป้องผิวจากการโดนแสงแดดทำร้าย ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเป็นประจำ รวมทั้งสามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ
• สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ ในกรณีที่มีอาการตึงผิวหรือเมื่อยเกิดขึ้น
• หลีกเลี่ยงการนวดหน้า และการถูใบหน้าแรง ๆ 

การทำ Hifu เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่กลัวเข็ม ไม่อยากฉีดฟิลเลอร์ และเหมาะกับคนที่มีริ้วรอยยังไม่มากนัก บริเวณร่องใต้ตาและร่องแก้มยังไม่ลึกมาก และสนนราคาก็ไม่สูงมาก ทำได้บ่อยครั้ง นอกจากนี้หลังการทำ Hifu คนไข้ก็ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นได้อีกด้วย