วัยรุ่นเจ้าถิ่นโชว์กร่าง! ยกพวกรุม ทำร้ายกู้ภัย ที่เข้าช่วยเหลือคนเจ็บในที่เกิดเหตุย่านบางพลีน้อย
***กลายเป็นประเด็นร้อนทางโซเซี่ยวในขนาดนี้และกำลังถูกชาวเน็ตวิพากวิจารณ์กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อมีเพจของอาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ้งอำเภอบางบ่อ ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวที่อาสากู้ภัยเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวนสภ.บางพลีน้อยหลังจากที่ถูกทำร้ายร่างกาย โดยโพสต์ข้อความพร้อมกับรูปภาพ ระบุข้อความว่า
**ขอประนามการกระทำในครั้งนึ้**
เวลาประมาณ 18:30 อาสาฯป่อเต็กตึ๊งบางบ่อ ออกปฎิบัติการตามคำสั่งกู้ชีพปราการ ตรวจสอบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนคนเดินเท้า ซอยวัดหอมศีล ระหว่างปฏิบัติหน้าที่นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล จุฬารัตน์ 11 แล้ว มีอาสาฯป่อเต็กตึ๊งบางบ่อ อยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อรักษาที่เกิดเหตุและวัตถุพยาน ถ่ายภาพเพื่อรอพนักงานสอบสวนของ สภ.บางพลีน้อย ขณะกลับฐานได้มีบุคคลมาก่อก่วน ด้วยการมาดึงกุญแจรถ อาสาฯป่อเต็กตึ๊งบางบ่อ ทางอาสาฯได้ไปขอกุญแจคืนกลับถูกกล่าวหาว่าจะไปทำร้ายร่างกายบุคคลดังกล่าว ขณะนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คนอ้างว่าเป็นหลานของบุคคลที่เข้ามาก่อกวน ได้เข้ารุมทำร้ายด้วยการชกต่อย ทางอาสาฯไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด ขณะนี้ทางอาสาฯที่ถูกทำร้ายได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางพลีน้อย เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
**ทางเพจใคร่ขอถามท่านที่มาก่อกวนและทำร้ายร่างกายอาสาฯ
1.เราไปช่วยผู้บาดเจ็บตามระบบกู้ชีพไม่ได้มาหาเรื่องใคร
2.มาดึงกุญแแจรถกู้ภัยและยึดใว้ หากมีเหตุที่จะต้องไปช่วยเหลือผู้ป่วยผู้ได้รับบาดเจ็บ จะทำให้เกิดผลอย่างไร
3.อ้างตัวใหญ่โตว่ารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ ท้าทายว่า "เรียกมาให้หมดพวกกู้ภัยมึงเนี่ย กูจะได้ปิดซอยตี" คำพูดแบบนึ้ออกจากคนที่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่อย่างนั้นหรือ
#ช่วยแชร์ออกไปให้โลกรู้ว่ากู้ภัยไปช่วยคนแล้วถูกต่อย
#เค้าท้าทายป่อเต็กตึ๊งมาให้หมดเค้าจะปิดซอยตี
#ใครไม่รู้จักวัดหอมศีลแอดมินจะพาไป
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์ลงทำให้มีชาวเน็ตแห่แชร์และเข้ามาคอมเม้นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างพากันประนามการกระทำของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทำร้ายกู้ภัยในครั้งนี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเราเดินทางไปพบกับนาย ศุภชัย คำสี อาสาสมัครกู้ภัยที่ถูกทำร้ายร่างกาย โดยพบว่าเจ้าตัวมีบาดแผลฟกซ้ำตามร่างกายและมีบาดแผลปูดบวมที่คางและต้นคอ จากการถูกรุมทำร้ายร่างกาย เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า ตนเองและเพื่อนอาสาสมัครได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถคนเดินทางภายในซอยวัดหอมศิล ก็นำกำลังไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ เมื่อเดินทางไปถึงก็พบว่ามีคนเจ็บ 1 ราย จึงปฐมพยาบาลและให้อาสาอีกชุดนำส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้น ตนเองจึงเฝ้าอยู่ที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นเหตุที่มีรถจยยมาชนคนเดินเท้าได้รับบาดเจ็บ จะต้องมีทางพนักงานสอบสวนมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นกำนันในพื้นที่พยามเข้ามาเคลียร์ในที่เกิดเหตุและจะให้คนขับรถซึ่งเป็นคู่กรณีและอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา ขับรถออกจากที่เกิดเหตุไปโดยไม่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองเห็นว่าเป็นเหตุแห่งทางคดี เพราะมีผู้บาดเจ็บและมีคู่กรณี อีกทั้งหวั่นว่าจะมีการทำลายวัตถุพยานและหลักฐานในที่เกิดเหตุหรืออาจมีการเปลี่ยนตัวคนขับ จึงนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานให้กับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการปฎิบัติงานในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานตามปกติเหมือนที่เคยปฎิบัติมา หลังจากที่ตนเองถ่ายรูป จึงทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจและมีหญิงรายหนึ่งเดินไปชักกุญแจแจออกจากรถตนเอง เมื่อตนเองเห็นเช่นนั้นจึงเข้าไปแย่งกุญแจรถกลับและบอกกล่าวกับหญิงคนดังกล่าวให้คืนกุญแจและไม่มีสิทธ์มาชักกุญแจรถตนเองไปแต่กลับถูกหญิงคนดังกล่าวผลักอกจนไปติดกับท้ายรถจากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นไม่ต่ำ 5 คน กรูกันเข้ามาทำร้ายร่างกายตนเองจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นตนเองได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนไว้แล้วและขอเรียกร้องความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำคดีตรงไปตรงมา เนื่องจากฝ่ายผู้ก่อเหตุมีการข่มขู่และอ้างเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังทางด้าน พ.ต.อ.ปิยวุฒิ แก้วมณี ผกก.สภ.บางพลีน้อย ผ่านทางโทรศัพท์ ระบุเบื้องต้นได้รับรายงานเรื่องนี้ในเบื้องต้นแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ตนเองจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและสั่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายโดยจะต้องดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทุกคนโดยไม่สนว่าเป็นใครหากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายและฝากถึงน้องๆอาสากู้ภัยว่าความเป็นธรรมมีอยู่ในสังคมแน่นอน
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=197229625317236&id=101022331604633