ความจริงที่ ร.10 ไม่เคยเปิดเผย
ภาพบรรยากาศประชาชนเฝ้ารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงพระราชกรณียกิจ ณ วัดศรีรัตนศาสดารามเมื่อวานนี้ คงเข้าไปตราตรึงอยู่ในใจของคนไทยหลายคนที่ยังจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ที่ช่วยให้คนไทยมีแผ่นดินอยู่จนถึงทุกวันนี้
คงไม่มีใครคาดคิดว่าวันนึง ประชาชนคนสามัญจะได้มีโอกาสได้สัมผัสเจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดินได้ใกล้ชิดถึงเพียงนี้ หากเปรียบเทียบกับในอดีต การจะมีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน มีข้อห้ามมากมาย แม้แต่จะเงยหน้ามาสบพระพักตร์ยังไม่สามารถทำได้ แต่ในปัจจุบันที่โลกพัฒนาและเปลี่ยนแปลง สถาบันฯ มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและสังคมไทย หลายกฏเกณฑ์ถูกผ่อนปรน ช่องว่างระหว่างประชาชนและสถาบันสามารถใกล้ชิดกันได้ขึ้น ดังที่เราได้เห็นภาพและคลิปวิดีโอมากมายที่เหล่าพสนิกรแสดงออกถึงความจงรักภักดี ณ เวลานี้
แต่ท่ามกลางกลุ่มคนที่จงรักภักดี ก็ยังคงมีกลุ่มคนอีกพวกที่กำลังท้าทาย เคลือบแคลงสงสัยในสถาบัน หรือแม้กระทั่งทำการใส่ร้าย ปั้นเรื่องโกหกเพื่อโจมตีสถาบันอยู่ตลอดเวลา ดังที่เราจะเห็นได้จากกระแสต่างๆที่ติดเทรนทวิตเตอร์ ที่มีการปลุกปั่นข้อมูลจนเกิดแฮชแท๊กต่างๆ ที่เป็นการหมิ่นพระเกียรติราชวงศ์
ซึ่งในความเป็นจริงนั้น คนที่มีปัญญาต่างรู้ดีว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงคุณงามความดี นานับประการต่อสังคมไทยมาเนิ่นนาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10 ทรงมีบุคลิกแตกต่างจากพระบิดา ด้วยทรงเติบโตมาในแบบนักรบ เน้นการกระทำ มากกว่าการพูด การทรงงานต่างๆ ดำเนินผ่านองค์มนตรีต่างๆ หรือเรียกว่า ทรงงานแบบปิดทองหลังพระ มีหลายพระราชกรณียกิจที่ทรงทำแบบเงียบๆ แต่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ในหลายๆมิติ ไม่ว่างานด้านการพัฒนา การติดตามความคืบหน้าโครงการพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง ตามพระราชปณิธาน “ต่อยอดและสืบสาน” ตามแนวทางของสมเด็จพระบรมราชนกนาถ ได้ทรงวางไว้
อย่างเช่น การเรียกคืนพื้นที่ “สนามม้านางเลิ้ง” กลับสู่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นั่นก็เพื่อก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9 เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะ รวมทั้งเป็นพื้นที่สวนสาธารณะให้ประชาชนสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่
หรือแม้แต่การ “ย้ายสวนสัตว์ดุสิต” ไปยังที่ใหม่ ก็เป็นที่ดินที่ทรงพระราชทานให้กับองค์การสวนสัตว์จำนวนกว่า 300 ไร่ เพื่อสร้างสวนสัตว์ บริเวณคลอง 6 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่เดิมถึง 3 เท่า ทำให้สัตว์มีพื้นที่ที่อยู่อย่างสบาย มีอากาศที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามหลักมาตรฐานสากล ส่วนบริเวณที่ตั้งสวนสัตว์ดุสิตเดิม ก็จะสร้าง "โรงพยาบาล" ด้วยทรงเล็งเห็นว่า ทั้งโรงพยาบาลรามาฯ และโรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน มีคนไข้หนาแน่น จึงจำเป็นต้องพระราชทานที่ดินแห่งใหม่ ซึ่งที่ดินที่ทรงโปรดให้สร้างก็มีทั้งที่ทรัพย์สมบัติส่วนพระองค์และทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยไม่เคยทรงปิดกั้นการวิจารณ์ด้วยสติปัญญาและข้อเท็จจริง ทรงมีพระเมตตา รับสั่งไม่ให้ใช้ ม.112 แต่ยังคงมีคนบางกลุ่มบางพวกจ้องละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ซี่งในฐานะประชาชนคนไทยอย่างไรก็คงไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ เพราะยังตระหนักในความสำคัญ และความจำเป็นของสถาบันพระมหากษัตริย์ วันนี้จึงเป็นหน้าที่ของคนไทยรักสถาบันจะออกมาปกป้อง พิทักษ์ รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ให้อยู่คู่กับประเทศไทยตลอดไป