เฮลั่นเกาะภูเก็ต!!เตรียมสร้างทางด่วนมอเตอร์ไซก็วิ่งได้ สายกะทู้ - ป่าตอง เดินทางเพียง 5 นาทีจาก 1 ชม.
ประเทศกำลังพัฒนาการคมนาคมขนส่ง ในหลากหลายด้าน ทางถนน น้ำ ราง อากาศ
ล่าสุดข่าวดีให้กับชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว ที่สัญจรจากกะทู้ไป ป่าตอง ไม่ต้องใช้เวลา บนท้องถนนนานๆอีกต่อไป รวมถึงรถมอเตอร์ไซด้วยนะ
กทพ.จะสร้างทางด่วน โครงการนี้ได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว เตรียมลุยเดินหน้าได้
โครงการนี้ชื่อว่า
โครงการทางพิเศษ(ทางด่วน) สายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
โครงการทางด่วนสายใหม่นี้มีขนาด 6 ช่องจราจรไปกลับ ด้านละ 3 ช่อง มีความพิเศษตรงที่ให้รถจักรยานยนต์ขึ้นใช้ทางพิเศษนี้ได้ด้วย โดยกำหนดช่องซ้ายสุดเป็นเลนรถจักรยานยนต์ แยกจากรถยนต์
ถือเป็นทางด่วนสายแรกในไทยที่เปิดโอกาสให้รถจักรยานยนต์ใช้ทางด่วนได้ครั้งแรก นอกจากนี้โครงการยังช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากกระทู้ไปป่าตอง ซึ่งเดิมต้องขับรถวนตามทางคดเคี้ยวผ่านเขา จากประมาณ 1 ชั่วโมง เหลือไม่เกิน 5 นาที และยังมีความปลอดภัย ช่วยลดอุบัติเหตุได้ด้วย
สำหรับอัตราค่าผ่านทาง หรือที่เราเรียกว่าค่าซื้อเวลา มีดังนี้
รถจักรยานยนต์ ราคา 15 บาท
รถยนต์ขนาด 4 ล้อราคา 40 บาท
รถยนต์ขนาด 6-10 ล้อราคา 85 บาท
รถยนต์ที่มีขนาดตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไปราคา 125 บาท.
ล่าสุดนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการทางพิเศษสายนี้ว่า
ขณะนี้โครงการไม่ติดปัญหาอะไรแล้ว ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ที่แนวเส้นทางตัดผ่านพื้นที่ป่า 3 แห่ง และพื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) 1 แห่ง เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะใช้ในการก่อสร้างอุโมงค์ระยะทาง 1.85 กม. โดยจะใช้พื้นที่ป่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเสนอโครงการให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาอนุมัติได้ในเดือน ก.พ.64
จากนั้นคาดว่าจะสามารถเปิดคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ได้กลางปี 64 และได้ผู้ชนะการประมูล พร้อมเริ่มก่อสร้างประมาณกลางปี 65 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี แล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ประมาณปี 69
อดใจรอกันอีกนานๆ เราก็จะมีเส้นทางสายเศรษฐกิจเพิ่มอีก 1 เส้นทาง ที่ร่นระยะเวลาในการเดินทาง จะได้มีเวลาทำกิจกรรมบนเกาะภูเก็ตมากขึ้น
ขอบคุณที่มาข่าว
#ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2745019375719563&id=1860889064132603