ไฮยาลูรอน คือ? ช่วยอะไรได้บ้าง? เหตุใดจึงต้องใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นประเภทไฮยาลูรอนิค

ไฮยาลูรอนิค

กรดไฮยาลูรอนิค ( Hyaluronic Acid ) หรือ กรดไฮยาลูรอน คืออะไร มีคุณสมบัติอะไรบ้าง ช่วยจัดการกับริ้วรอยได้จริงไหม? ล้วนเป็นคำถามที่มีคนสงสัยกันมากในทุกวันนี้ เนื่องจากกรดไฮยาลูรอนิค หรือที่มักเรียกกันสั้น ๆ ว่า HA มีคนกล่าวถึงอย่างแพร่หลายในวงการความสวยความงาม จนหลายคนต่างคุ้นหูว่าเป็นสารที่ช่วยในด้านชะลอวัย และมีส่วนสำคัญกับผิวพรรณของเรา เรามีข้อมูลสำคัญจากคุณหมอมาฝากผู้อ่านทุกท่านครับ

ไฮยาลูรอนิค คืออะไร

กรดไฮยาลูรอนิค คือ โมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า polysaccharide (พอลิแซ็กคาไรด์) เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย ซึ่งร่างกายของคนเราสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ

เมื่ออายุเกิน 20 ปี ผิวหนังของคนเราจะเริ่มเสื่อมสภาพลงตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตกรดไฮยาลูรอนิคลดน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งยิ่งอายุเยอะร่างกายก็จะยิ่งผลิตได้น้อยลงและช้าลงเรื่อย ๆ ค่ะ ซึ่งไฮยาลูรอน ถือเป็นสารสำคัญที่ร่างกายเราสามารถสร้างขึ้นเองได้ในชั้นผิวหนังแท้ 

ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic acid) ช่วยอะไรได้บ้าง?

ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ของสาร Hyaluronic Acid ได้แก่

• ช่วยรักษาตาต้อกระจก

จักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการรักษาโรคต้อกระจก โดยฉีด Hyaluronic Acid เข้าที่ดวงตา

• รักษาแผลในปาก

ไฮยาลูรอนิคที่อยู่ในรูปแบบเจลที่ใช้ทาแผลในปาก มีประสิทธิภาพค่อนข้างดีในการรักษาแผลที่เกิดขึ้นในช่องปาก

• ช่วยสมานแผลและบรรเทาอาการแผลไฟไหม้

หากแพทย์ใช้สาร ไฮยาลูรอนิคแอซิด ทาลงไปบริเวณที่เกิดแผล สามารถช่วยควบคุมความรุนแรงของการอักเสบที่เกิดขึ้น ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ ลดขนาดของบาดแผล ลดอาการปวด ช่วยเร่งให้บาดแผลหายไวขึ้น รวมทั้งอาจช่วยบรรเทาอาการของแผลไฟไหม้ได้อีกด้วย

• บรรเทาอาการตาแห้ง

คุณหมออาจวินิจฉัย และให้ใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิคแอซิด เพื่อช่วยลดอาการตาแห้ง รวมทั้งช่วยให้สุขภาพดวงตาดีขึ้นได้

(รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น ดูสดชื่น ตาไม่ดำ ไม่โหลไม่ดูโรยรา ช่วยหน้าดูเด็กลง จาก Youtube channel: V Square Clinic)

เพื่อทดแทน ไฮยาลูโรนิค แอซิด ที่ร่างกายสร้างขึ้น ในทางการแพทย์จึงได้คิดค้น กรดไฮยารูโรนิค แบบสังเคราะห์ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

• Hyaluronic acid ถูกนำมาใช้เป็นยาประเภทฉีดบำบัดรักษาโรค ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก โดยเฉพาะภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ (Scapulohumeral periarthritis) และโรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of the knee)
• มีประโยชน์ในด้านลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และปวดบริเวณข้อ
• เพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ผิวหนัง เนื่องจาก ไฮยาลูโรนิค แอซิด มีลักษณะหนืดข้น สามารถละลายน้ำได้ดี รวมถึงมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีอีกด้วย
•  ใช้ Hyaluronic Acid ระหว่างการผ่าตัดดวงตา ซ่อมแซมจอประสาทตาถลอก
• ใช้เป็นฟิลเลอร์ริมฝีปากระหว่างการผ่าตัดเสริมความงาม

จากคุณประโยชน์ของ กรดไฮยาลูโรนิค ต่าง ๆ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น จะเห็นได้ว่า HA ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น  รวมทั้งเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่เซลล์ผิวหนัง 

ไฮยาลูรอน คือ อีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยชะลอวัย

ไฮยาลูรอนิค แอซิด คือ วิธีลัดที่ช่วยขจัดปัญหาผิวขาดความสดใส และความหย่อนคล้อยบนใบหน้า มีความคงตัว สามารถอยู่ในร่างกายได้เป็นระยะเวลานาน ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ในกรณีที่เกิดผลข้างเคียงก็สามารถทำให้เสื่อมสลายไปได้เอง อีกทั้งยังช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยด้วยการเติมแต่งโครงหน้า

เนื่องจาก ไฮยาลูรอน มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องเก็บกักความชุ่มชื้นให้แก่ผิวตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ซึ่งในวงการความสวยความงามได้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย มีการสกัดออกมาทั้งในรูปแบบเอสเซนส์ เซรั่ม ครีม รูปแบบฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่นิยมใช้กันมากในคลินิกความงาม รวมไปถึงรูปแบบวิตามินสำหรับรับประทาน 

ประโยชน์ทางด้านการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด

ไฮยาลูรอนิค ที่ร่างกายคนเราสร้างขึ้นมา จะไปหล่อเลี้ยงผิวหนังชั้นล่าง กระจายไปถึงผิวหนังชั้นบน มีคุณสมบัติอันสำคัญก็คือ ช่วยส่งเสริมในเรื่องการเก็บกักความชุ่มชื่นของผิวหนังให้มากกว่าปรกติหลายเท่า ให้ความชุ่มชื่นถึงผิวหนังชั้นใน สามารถช่วยเพิ่มปริมาตรผิว (ฟิลเลอร์) ผิวหน้าจึงดูเรียบเนียน ตึงกระชับ ลดริ้วรอยให้น้อยลงเมื่อผิวหนังมีความชุ่มชื่นที่ดีเพียงพอ

ไฮยาลูรอนิค หรือ HA ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อแก้ปัญหาร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า ได้แก่บริเวณใต้ตา, ร่องแก้ม, ขมับ, หน้าผาก, ริมฝีปาก และคาง โดยฉีด Filler เติมเต็ม เพื่อใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัย

คนที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย ยังสามารถนำสารไฮยาลูรอนิค มาใช้ยกกระชับใบหน้าได้ รวมถึงนำมาใช้ในการแก้ไขปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวจากการผ่าตัด และสารเติมเต็มสามารถคงอยู่ในร่างกายได้ยาวนานถึง 6-18 เดือน

นอกจากนี้ การวิจัยล่าสุดยังพบว่า กรดไฮยาลูโรนิค มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ นั่นคือสามารถทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันอนุมูลอิสระ เช่น มลภาวะ ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้น ไฮยาลูรอนิค จึงมีประโยชน์เป็นอย่างมาก ทั้งช่วยต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว การรักษาบาดแผล และเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนัง