ข้อคิดให้ดีก่อนแต่งงาน ย้ำว่าเราพร้อมแล้วจริงๆ ใช่ไหม
เพราะชีวิตคู่มันไม่ได้กึ่งสำเร็จรูป อาจจะไม่ง่ายและลงตัวเสมอไป
การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่การ Happy Ending เหมือนในนิยายหรอกนะ มันเป็นแค่การเริ่มต้นชีวิตใหม่ต่างหาก ชีวิตที่เราจะไม่ได้อยู่คนเดียวตามลำพังอีกต่อไป แต่ว่าจะมีเขาหรือเธอเข้ามาอยู่เป็นคู่ชีวิตที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกันไปอีกนานแสนนาน แต่ว่าชีวิตคู่นั้นเราสามารถที่จะประสบพบเจอกับปัญหาต่างๆ ได้ เนื่องจากว่าเราไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน คนที่เคยใช้ชีวิตต่างกันต้องมาอยู่ร่วมกัน อาจจะต้องประสบพบเจอกับปัญหาระหว่างกันได้ ซึ่งก็มีปัญหาหลักๆ ที่ควรจะคิดไตร่ตรองเอาไว้ให้ดีก่อนแต่งงานกันเลย
มีเรื่องอะไรบ้างที่ควรจะคิดและเน้นย้ำเป็นพิเศษ ก่อนจะตกลงปลงใจแต่งงานกัน
1. การแต่งงานคือแต่งกับครอบครัวเขาด้วย
การแต่งงานในชีวิตจริงนั้นต่างจากในละครมากนะ เพราะว่าโลกของคุณกับเขาไม่ได้มีกันอยู่แค่เพียงสองคน คุณจะต้องเกี่ยวดองกับครอบครัวของเขาด้วย เพราะถือว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งภายในครอบครัวของเขา บางครอบครัวเขาก็ใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก ต่อให้ลูกแต่งงานแล้วก็คงจะยังมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดกันอยู่เหมือนเดิม ถ้าโชคดีเข้ากันได้ทุกอย่างก็คงราบรื่น แต่ถ้าเกิดมีปัญหากับใครขึ้นมาสักคนสองคนจะต้องอยู่อย่างไม่เป็นสุขแน่ๆ ยิ่งถ้าเขาคิดว่าเราเป็นคนนอกพยายามกีดกันหรือหาเรื่องเราตลอดเวลาก็คงได้ปวดหัวกันหนักแน่ๆ ดังนั้นแล้วก่อนที่จะแต่งงานก็ควรที่จะสำรวจให้ดีด้วยเหมือนกันนะ ว่าต่างฝ่ายต่างเข้ากันได้ดีกับอีกครอบครัวหรือไม่ เพื่อที่จะได้ไม่เจอปัญหาความบาดหมางกันในภายหลังเอาค่ะ
2. พร้อมจะพบกับทุกด้านในชีวิตของเขาแล้วใช่ไหม
ตอนคบหากันแบบเป็นแฟน เราก็แค่ไปมาหาสู่กันเสียมากกว่า หากจะอยู่ด้วยกันนานหน่อย ก็มีแค่นอนค้างที่บ้านกันบ้างสักคืนสองคืน แต่ก็ไม่ใช่การอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแบบคู่แต่งงานจริงๆ จะเป็นอย่างไรถ้าเกิดว่าเราได้เห็นชีวิตตัวตนจริงๆ ของแฟนในทุกๆ ด้าน ที่ไม่ใช่จะมีแต่ด้านดี คุณจะได้เจอมุมขี้เกียจ มุมสกปรกไม่ดูแลตัวเอง มุมใจร้อนอารมณ์เสีย และเรื่องราวแย่ๆ อีกเล็กๆ น้อยๆ เต็มไปหมด ว่าคุณพร้อมจะยอมรับ และปรับตัวเข้าหากันได้ไหม จะอดทนได้ตลอดไปหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องที่ควรจะคิดให้รอบคอบนะคะ
3. งานนอกบ้านงานในบ้านควรคุยกันให้ลงตัว
การแต่งงานคือการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ของใครหลายๆ คนเลย บางคนอาจจะลาออกจากงานประจำมาเพื่อเป็นพ่อบ้าน-แม่บ้าน หรือว่าก็ยังคงทำงานเหมือนเดิม แต่ก็ต้องรับผิดชอบดูแลบ้านที่อยู่ร่วมกันมากขึ้นด้วย งานบ้านไม่ใช่หน้าที่ที่ควรเป็นของคนใดคนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุดคือการตกลงกันได้ระหว่างพวกคุณมากกว่าว่าใครจะรับหน้าที่นี้ อาจจะแบ่งเวรกันทำหรือรับทำในส่วนที่ตัวเองถนัดไป แต่ถ้าไม่กระทบด้านการเงินแล้ว การจ้างคนมาทำแทนก็เป็นทางออกที่ดี เพราะไม่ต้องมาเหนื่อยทำกันเอง และได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้นด้วย
4. ชีวิตส่วนตัวก็ต้องมีกันบ้าง
แน่นอนว่าการใช้ชีวิตคู่นั้นคือการที่เรามาอยู่ด้วยกัน แต่มันก็มีช่วงเวลาที่เราอยากจะใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ที่เราเคยเป็นบ้าง อย่างเช่น การไปท่องเที่ยว หรือว่าสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ซึ่งอาจจะเป็นกิจกรรมที่คู่รักของเราไม่ได้ชื่นชอบอยากจะไปร่วมด้วยเสมอไป แต่เราก็ควรเคารพสิทธิ์ของกันและกัน ที่จะสามารถไปใช้ชีวิตส่วนตัวในแบบที่ตัวเองชอบได้บ้าง เพราะตอนหลังแต่งงานแล้วบางคนถึงกับห้ามไม่ให้คู่ของตัวเองออกจากบ้านไปไหน หรือทำอะไรเลย มันก็เป็นริดรอนส่วนตัวกันมากเกินไป ทำให้ขาดความสุขบางส่วนในชีวิตไป จนอาจทำให้เกิดปัญหาต่อกันในภายหลังได้ ลองพูดคุยแย็บถามถึงความใจกว้างที่แฟนจะให้อิสระกับเราหลังแต่งงานได้ไหมในส่วนนี้เผื่อกันดูบ้างนะคะ
5. ตกลงเรื่องเงินทองกันให้ดี
การที่มาแต่งงานการใช้ชีวิตด้วย การย่อมมีค่าใช้จ่ายร่วมกันอยู่แล้ว ซึ่งแม้แต่ว่าเราจะเป็นคู่สามีภรรยากัน แต่เรื่องเงินๆ ทองๆ ก็สามารถที่จะทำให้เรามีปัญหาต่อกันได้ หากไม่เข้าใจและใครคนใดคนหนึ่งอาจจะคิดมากเรื่องตัวเองเสียเปรียบ ดังนั้นแล้วคนพูดคุยตกลงกันให้ดีๆ ว่าใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนไหนยังไงกันบ้าง เงินเก็บ ทรัพย์สินต่างๆ จะจัดการกันอย่างไร อย่าให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจกันนั้น เก็บสะสมไปเรื่อยๆ จนไม่อาจทนกันต่อไปได้อีก ดังนั้นแล้วก็ควรตกลงกันให้ดี ว่าอาจจะแยกกระเป๋ากันใช้ แต่ว่าก็แชร์ค่าใช้จ่ายโดยรวมด้วยกัน เป็นต้น
6. เรื่องลูกคิดเห็นตรงกันไหม?
เรื่องนี้สำคัญมากๆ เลยทีเดียว เพราะคนบางคนก็แต่งงานเพื่อหวังที่จะมีลูกอยู่แล้ว ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้เห็นความสำคัญของการมีลูก หรือว่าไม่รีบร้อนที่จะมี ก็อาจจะทำให้มีปัญหากันได้ เพราะฝ่ายที่อยากมีก็ต้องการเตรียมพร้อมในหลายๆ ด้านเพื่อลูกของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน การให้เวลา วางแผนการใช้ชีวิต โรงเรียนที่จะเรียน การมีลูกนั้นจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเราไปตลอดกาลเลยทีเดียว บางคนอาจจะพร้อมแล้วในการมี แต่บางคนก็ถือว่าเป็นภาระที่หนักหนาจนเกินไป ดังนั้นแล้วเรื่องนี้จึงสำคัญมาก ว่าพวกคุณอยากจะมีลูกด้วยกันหรือไม่? หรือวางแผนไว้ว่าเมื่อไหร่จะมี เพราะบางคนเขาก็คาดหวังเรื่องการมีลูกมากจริงๆ นะ
แต่การใช้ชีวิตคู่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีเรื่องที่น่ากลัวน่ากังวลอะไรมากมายขนาดนั้น ถ้าพื้นฐานของพวกคุณทั้งสองคนนั้น มีความรักความเข้าใจกันดีอยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีการพูดคุยตกลงในเรื่องเหล่านี้กันอยู่อย่างสม่ำเสมอด้วย การแต่งงานก็อาจจะราบรื่นมากกว่าที่คิดก็ได้ แต่อย่างไรก็ดีการคิดเผื่อเอาไว้ก่อนที่ปัญหาอาจจะเกิด ก็เป็นสิ่งที่ทำไว้ก็ไม่เสียหลายนะ เผื่อเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ จะได้พร้อมตั้งรับได้ทันเสมอ
คิดว่าเรื่องใดอาจจะเป็นปัญหาสำหรับการแต่งงานของคุณกับแฟนมากที่สุด?
✪ บทความ โดย : Akine_noxx
✿ เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
❀ ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ