อึ้ง! มนุษย์กินคน…เรื่องจริงไม่อิงนิยาย ?
หากจะพูดถึงเรื่องของการกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันแล้วนั้น หลาย ๆ คนก็คงจะจินตนาการไม่ถูกเลยว่า รสชาติและความรู้สึกในขณะที่เราค่อย ๆ เคี้ยวเนื้อมนุษย์นั้นเป็นอย่างไร แต่ทว่าหากเราย้อนไปในอดีต วัฒนธรรมการกินเนื้อมนุษย์ค่อนข้างที่จะได้รับความนิยม และถึงแม้ในปัจจุบันจะไม่ค่อยได้พบเห็นผู้ที่นิยมบริโภคเนื้อมนุษย์แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่เลย
ประเพณีการกินเนื้อมนุษย์นั้น มีประวัติมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะตามกลุ่มชนเผ่าต่าง ๆ ที่มักจะนิยมการบริโภคเนื้อมนุษย์ในวันสำคัญต่าง ๆ หรือเพื่อการสังเวยเทพเจ้าหรือหัวหน้าเผ่า ซึ่งหลายเรื่องราวเกี่ยวกับการกินเนื้อมนุษย์นั้นถูกเผยแพร่จากชาวตะวันตกในยุคล่าอาณานิคมหรือพวกหมอศาสนาเสียเป็นส่วนใหญ่
ชนเผ่าฟิจิ เป็นหนึ่งชนเผ่าที่โด่งดังในเรื่องของการกินเนื้อมนุษย์ อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐฟิจิ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะของมหาสมุทรแปซิฟิก ประชากรส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ตามหมู่เกาะต่าง ๆ ชาวฟิจิจะนำศพคนตายแจกจ่ายเพื่อนำไปทำอาหาร ศพจะถูกชำแหละและเศษอวัยวะต่าง ๆ จะถูกทิ้งให้ลอยน้ำไป ในบันทึกของหมอสอนศาสนาท่านหนึ่งบันทึกว่า กษัตริย์ชาวฟิจิจะจับตัวทาสที่หลบหนีไปมาตัดแขนตัดขาและนำไปเป็นอาหาร รวมถึงมีการกล่าวว่า “ชาวฟิจิชอบกินเนื้อมนุษย์ เนื่องจากขาดแคลนเนื้อสัตว์ ลูกเรือที่หลงเข้าไปในเกาะฟิจิจะถูกจับและฆ่าเป็นอาหาร รวมทั้งจะขุดศพของญาติพี่น้องที่ตายไปแล้วมาปรุงเป็นอาหาร โดยเฉพาะเนื้อของผู้หญิงจะเป็นอาหารที่ดีเลิศ”
ชาวแคริบ จากบันทึกของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ได้เล่าว่าชาวแคริบเป็นชนเผ่านักรบที่ดุร้ายและมักยกกองเรือเข้าโจมตีชนเผ่าอื่น ๆ เสมอ หลังการโจมตี พวกเขาจะนำเอาเชลยเผ่าอื่นกลับไปยังหมู่บ้านและฆ่ากินเป็นอาหาร ส่วนคนที่ยังไม่ถูกฆ่านั้น จะถูกเลี้ยงเอาไว้เพื่อกินในวันหลัง ไม่ต่างอะไรกับปศุสัตว์ที่ถูกเลี้ยงไว้เป็นอาหาร
เชลยที่เป็นชายนั้นจะถูกตอน ส่วนเชลยหญิงจะถูกใช้เป็นเครื่องมือสำเร็จความใคร่ ซึ่งหากผู้หญิงเหล่านั้นตั้งครรภ์เด็กที่เกิดมาก็จะถูกนำไปกินเป็นอาหาร และเมื่อหมดประโยชน์หญิงสาวเหล่านั้นก็จะถูกนำมากินเป็นอาหารด้วยเช่นเดียวกัน
หมอสอนศาสนาผู้ซึ่งเคยเยือน ได้ประมาณการว่ามีชนเผ่ากินเนื้อคนราว 4,000 คน และในช่วงปี ค.ศ. 1822-1828 จะมีการกินเนื้อมนุษย์เฉลี่ยเดือนละหนึ่งคนต่อชาวเลโซโทหนึ่งคน ทำให้ระบุตัวเลขได้ว่ามีมนุษย์ราว 285,000 คนที่ตกเป็นเหยื่อการถูกกิน และหนึ่งเหตุผลของการกินเนื้อมนุษย์ก็เริ่มมาจากการทำสงครามและการปล้นสะดมเนื่องจากภัยแล้ง ทำให้เกิดความอดอยากอย่างรุนแรงมากจนทำให้ชนเผ่าต้องเอาชีวิตรอดด้วยการหันมากินเนื้อคนกันเอง จากเหตุเดิมที่เริ่มต้นจากความหิวโหยกลายเป็นว่าในที่สุดก็เกิดเป็นนิสัยคนชอบกินเนื้อคน นักล่าจะทำการล่าคนแทนการล่าสัตว์และออกเดินทางหาเหยื่อทุกวันเพื่อนำมากิน
แต่การกินเนื้อของมนุษย์นั้นไม่ได้แพร่หลายเฉพาะดินแดนที่ไร้อารยธรรมหรือตามชนเผ่าที่ห่างไกลเท่านั้น หากแต่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง และมีการพัฒนาในหลาย ๆ ด้านก็มีหลักฐานเกี่ยวกับการกินเนื้อมนุษย์ด้วยเช่นกัน
อ้างอิงจาก: .postjung.com
อ้างอิงจาก: .https://today.line.me/
อ้างอิงจาก: .https://prapayneeplaek.blogspot.com/