โดนจับตาเรื่องค่ายกักกันชาวอุยกูร์ จีน แบน 'มู่หลาน' ซะเอง
กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้จุดประเด็นใหม่ โดยจับเอาข้อความการขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ที่ขึ้นในตอนท้ายของภาพยนตร์ว่า มีชื่อของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ของเมืองถูหลู่ฟานที่อยู่ในมณฑลซินจียง
กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ Human Rights Watch อ้างว่า ดิสนีย์ขอบคุณหน่วยงานในซินเจียง ทำให้ผู้คนว่าสงสัยดิสนีย์มีการติดต่อกับทางการซินเจียง และติดต่อกันด้วยวิธีการใด แล้วดิสนีย์เคยตระหนักหรือไม่ว่า ทั่วโลกจะคิดอย่างไรกับความสัมพันธ์นี้ การติดต่อเช่นนี้จะต้องตรวจสอบเรื่องสิทธิมนุษยชนเสียก่อน นี่ยังเป็นหลักการของสหประชาชาติเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
ด้านรัฐบาลจีนอ้างว่า ค่ายในซินเจียงไม่ใช่สถานกักกัน แต่เป็นสถานฝึกวิชาชีพและปรับทัศนคติ เพื่อสกัดกั้นการก่อการร้ายและแนวคิดสุดขั้วทางศาสนา
เนื่องจากเรื่องของชาวอุยกูร์ในเตอร์กิสถานตะวันออก (ดินแดนที่จีนเรียกว่าซินเจียง) กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากชาวโลก เพราะเป็นที่ที่เป็นค่ายกักของชาวมุสลิม แต่กลับมาถูกเปิดเผย โดยเฉพาะจากประเด็นการขอบคุณพื้นที่นี้ในเรื่องภาพยนตร์มู่หลาน ทำให้ทางจีนจึงเซนเซอร์ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับภาพยนตร์เป็นที่เรียบร้อย แม้กระทั่งชื่อหนังยังถูกแบนจากเสิร์ชเอนจิ้นในประเทศจีน
Oops. Looks like #Mulan is no longer searchable on Weibo. This should be a lesson for Disney: You can pour US$200 million into a project, hire pro-government actors, deny concentration camps' existence, pander to Chinese nationalism — and STILL get screwed big time.#BoycottMulan https://t.co/9w708n6IVg
— Joshua Wong 黃之鋒 😷 (@joshuawongcf) September 11, 2020
หนังเรื่อง มู่หลาน นี้โดนแบนจากฝ่ายไหนบ้าง?
1. พันธมิตรชานม - ฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย และไทย ซึ่งมีประเด็นการเรียกร้องประชาธิไตย และสิทธิมนุษยชนกับจีนอยู่ โจชัว หว่อง แกนนำเรียกร้องประชาธิปไตย #ฮ่องกง ซึ่งจุดกระแส #BoycottMulan #BanMulan ทางในไทยก็รับช่วงต่อโดยเนติวิทย์
2. หลายๆ ชาติในโลก ที่เห็นประเด็นเรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ในซินเจียงอุยกูร์ ทั้งที่มีการใช้ความรุนแรงต่อผู้ลี้ภัยในพื้นที่ แต่หนังก็ขึ้นเครดิตขอบคุณเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น จึงมีการเริ่มแบนและต่อต้านหนังเรื่องนี้
3. ชาวจีนบางส่วน ก็ไม่พอใจกับหนังเรื่องนี้ที่ไม่ใช่หนังจีนจริงๆ ทำผ่านมุมมองชาวตะวันตกมากกว่า ให้ความเป็นจีนจริงๆ หลายอย่างในภาพยนตร์ไม่สอดคล้องกับประวัติศาตร์ต่างๆ ของจีนเลย แม้แต่เพลงประกอบก็ควรใช้นักร้องจีนมากกว่า
4. แฟนคลับการ์ตูนของดิสนีย์เอง ที่ไม่ชอบใจการตัดทอนส่วนสำคัญๆ จากในการ์ตูนออกไป ไม่ว่าจะเป็นคุณยาย มังกรมูซู แม่ทัพ จิ้งหรีด การเหยียดเพศ หรือกระทั่งเรื่องไม่มีเพลงก็ตาม
หมายเหตุ มู่หลานภาคการ์ตูน ทำรายได้ 304 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 90 ล้านเหรียญฯ ส่วนภาคไลฟ์แอคชั่น ทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญฯ แต่ฉายมาจะครบ 1 สัปดาห์แล้ว รายได้รวมทั่วโลกก็ยังไม่ครบ 20 ล้านเลยด้วยซ้ำ จากที่จะเน้นขายตีตลาดจีน แต่โดนจีนแบนซะเองย่อมกระทบกับรายได้ของหนังอย่างแน่นอน
ก็คงต้องรอดูบทสรุปกันต่อไป แต่เป็นหนังที่ได้รับกระแสต่อต้านหนักจากทุกทิศทางจริงๆ
บทความ โดย : Akine_noxx
ฝากติดตาม กดให้ดาว กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ