รวมหนังย้อนเวลามันส์ๆ เอาไว้ดูวันหยุด
หนังแนวเดินทางย้อนเวลากลับไปอดีต แต่ละเรื่องมีความสนุก และเสน่ห์เฉพาะตัวทั้งนั้นเลยจริงๆ
หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Avengers endgame แล้วซึ่งมีประเด็นเกี่ยวกับการย้อนเวลากลับไปยังอดีต ทำให้เกิดประเด็นที่กลับมาพูดถึงหนังหนังแนว Time Travel ที่กล่าวถึงเรื่องของการย้อนอดีตขึ้นมาอีกครั้ง เพราะในหนังแต่ละเรื่องก็จะมีการใช้เรื่องของการเดินทางกลับไปยังอดีตเพื่อการดำเนินเรื่องราวของตัวละครในแง่มุมที่ต่างกัน ซึ่งเคยสร้างความประทับใจให้พวกเราเหล่าคนดูมานักต่อนักแล้ว มีเรื่องไหนบ้างลองมาดูกัน
6. The Time Machine (2002)
เป็นหนังที่สร้างจากนิยายเรื่องแรกที่พูดถึงทฤษฎีการย้อนเวลา เรียกว่าเป็นจุดกำเนิดความคิดเรื่องเดินทางย้อนอดีตขึ้นมาเลยทีเดียว แต่เป็นนิยายที่สร้างเมื่อ 100 ปีก่อนเป็นยุคที่ยังไม่ค่อยมีการถกเถียงถึงทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์แบบในยุคปัจจุบัน ดังนั้นการดูหนังเรื่องนี้จึงเป็นเหมือนการเปิดโลกทัศน์ใหม่ของคนในยุคก่อนว่ามีมุมมองอย่างไร หากว่าเราสามารถเดินทางย้อนเวลาได้
หนังได้เล่าเรื่องถึงการตายของเอ็มม่า ที่ทำให้ศาสตราจารย์อเล็กซานเดอร์ผู้ประดิษฐ์เครื่องเดินทางข้ามเวลาเป็นผลสำเร็จ แต่เมื่อเขาเดินทางย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตก็กลับกลายเป็นว่ามันส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ที่มีผลทำให้เธอตายเหมือนเดิม เขาจึงเดินทางไปยังโลกอนาคตเพื่อหาคำตอบแทน แต่ระหว่างทางก็เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เขาหลุดไปยังโลกอนาคตไกลถึง 8 แสนปีข้างหน้าซึ่งกลายเป็นโลกที่มี 2 เผ่าพันธุ์ระหว่างมีอีลอยที่รักสงบ และอีลอยเป็นนักล่าอาหาร
โดยสรุปเรื่องนี้กล่าวถึงในเรื่องของการย้อนเวลาคือ เราสามารถกลับไปเปลี่ยนแปลงอดีตได้ โดยไม่รู้ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งอื่นๆ รอบข้างแล้ว การเป็นที่มนุษย์ไม่สามารถแก้ไขอดีตได้อาจจะเป็นเรื่องที่เราควรทำใจยอมรับให้ได้มากกว่า เพราะจะทำให้เราไม่ต้องหมกมุ่นอยู่กับการคิดย้อนกลับไปแก้ไขอดีต แต่ควรทำปัจจุบันให้ดีที่เพื่อเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ ดีกว่า
5. Back to the Future (1985)
หากไม่พูดถึงหนังเรื่องนี้ก็คงจะไม่ได้ เพราะเป็นหนังที่เน้นเรื่องการย้อนเวลาเป็นแกนหลักของเรื่องเลยก็คือเรื่อง "เจาะเวลาหาอดีต Back to the future" นั่นเอง เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มชื่อ มาร์ตี้ แมคฟรายด์ที่เดินทางข้ามเวลาไป (เขามาจากปี 2015) และยุคที่เขาย้อนไปก็คือยุคสมัยที่พ่อกับแม่เขาก็ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ ปัญหาของเรื่องก็คือตัวมาร์ตี้ แมคฟรายด์ ดันไปยุ่งกับชีวประวัติส่วนสำคัญของครอบครัวเข้า คือวันที่พ่อกับแม่จะได้เจอกันแล้วก็กลับไม่ได้เจอกัน เมื่อพ่อกับแม่ไม่ได้เจอกันแล้ว ลูกอย่างเขาก็อาจจะไม่ได้มาเกิดน่ะสิ นี่จึงเป็นเรื่องราวของของเจาะเวลาหาอดีตที่กลายเป็นหนึ่งใน Pop Culture ที่ผู้คนยังคงพูดถึงกันอยู่เสมอมา เพราะมีของหลายสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นมาใช้ใกล้เคียงกับในหนังด้วย
4. MIB - Men in Black
สองคู่หูนักแสดงที่สร้างปรากฏการณ์สายลับจากโลกอนาคต ในภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟที่เคยฮิตถล่มทลาย กับบทสุภาพบุรุษในชุดสีดำซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จัดระเบียบประชากรเอเลี่ยนที่แอบมาอาศัยอยู่ในโลกของเรา แต่ว่าเอเลี่ยนเหล่านี้นั้นสามารถปลอมแปลงเป็นมนุษย์ได้อย่างแนบเนียน จึงเป็นหน้าที่ขององค์กรที่จะต้องควบคุมและดูแลความเรียบร้อยของเอเลี่ยนต่างดาวทั้งหลายให้อยู่เป็นความลับต่อไป เมื่อมีคนบนโลกพบเห็นเอเลี่ยนหรือเหตุการณ์ต่างๆ พวกเจ้าหน้าที่ก็จะใช้แท่งส่องแสงที่ลบความทรงจำของบุคคลเหล่านั้นให้ลืมเรื่องราวเกี่ยวกับเอเลี่ยนไปได้
เรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อการตายของเอเลี่ยนตนหนึ่งเกิดขึ้นอย่างน่าสงสัย เจ้าหน้าที่เคย์ผู้แสนเบื่อโลกและเจ้าหน้าที่เจย์คู่หูใหม่ไฟแรงต้องเข้ามาสืบสวนปริศนาครั้งนี้ โดยมีดร.ลอร่าสุดเซ็กซี่ค่อยให้ความร่วมมือกับพวกเขา และพบว่ามันเป็นฝีมือร้ายของเอเลี่ยนที่ลักลอบเข้ามาด้วยจุดประสงค์อันตราย ซึ่งคู่หูนักปราบเอเลี่ยนจะต้องรีบกำจัดทิ้งก่อนที่โลกอาจจะถูกทำลายได้
3. Terminator (1984)
เป็นหนังย้อนเวลาสุดคลาสสิคแต่ในยุคนั้นคือหนังไซไฟที่ลำยุคในอนาคตมาแนว Action Thriller ซึ่งตัวคอนเซปท์ของหนังน่าสนใจตรงที่ คนธรรมดาที่ต้องมาอารักขาผู้หญิงคนหนึ่งให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของจักรกลสังหารที่อยู่ในร่างมนุษย์ โดยทั้งเรื่องไม่จำเป็นต้องใช้ประเด็นไซไฟที่เกี่ยวข้องกับผลของการย้อนเวลามากนัก เน้นขายแต่เรื่อง action เสียเป็นส่วนใหญ่
เนื้อเรื่องเริ่มจากโลกอนาคตนั้นเกิดสงครามระหว่างมนุษย์กับจักรกล แต่ในช่วงสุดท้ายนั้นเหล่าจักรกลที่พลาดพลั้งกำลังจะแพ้สงคราม พวกมันได้ส่ง terminator ย้อนเวลากลับมาเพื่อตามฆ่าซาร่าคอนเนอร์หวังให้เธอไม่สามารถกำเนิดลูก (จอห์น คอนเนอร์) ที่จะเป็นแกนนำการพามนุษย์ให้มีชัยในสงครามครั้งนี้ แต่ "ไคล์ รีส" ทหารที่มาจากโลกอนาคตเอง ก็ย้อนเวลากลับมาเพื่อปกป้องซาร่าเช่นกัน สงครามไล่ล่าระหว่างจักรกลสังหารกับมนุษย์ธรรมดาจึงเริ่มต้นขึ้น
การย้อนเวลาในหนังเรื่องนี้เป็นเพียงโครงสร้างหลักของเรื่องที่จะทำให้เกิดฉากบู๊ ฉากแอคชั่น ไล่ฆ่ากันอย่างตื่นเต้นเร้าใจในเรื่องเท่านั้น ทฤษฎีการย้อนเวลานี้ถูกกำหนดมาเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะถ้าหากจักรกลสังหารนั้นสามารถฆ่าซาร่าได้สำเร็จก็เท่ากับว่าอนาคตทั้งหมดก็จะเปลี่ยนแปลงไปอีกแบบ การย้อนเวลาก็จะไม่เกิดขึ้นได้อีกจึงกลายเป็นจักรวาลคู่ขนานแยกขึ้นมาอีกหนึ่ง Timeline ไปแทน
2. Butterfly Effect
เป็นหนังอีกเรื่องที่ทำให้เรื่องของการย้อนเวลาถูกพูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะทฤษฎีที่ว่าด้วยเรื่องของ 'ผีเสื้อกระพือปีก' หรือว่า 'เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว' สรุปได้สั้นๆ ก็คือเป็นแนวคิดที่ว่าแม้เปลี่ยนแปลงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะส่งผลที่กระทบถึงอนาคตอย่างคาดไม่ถึงได้ ซึ่งแนวความคิดนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับเกมแนว Interactive เป็นเวลาต่อมาด้วย
หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับอีแวน ซึ่งเขามักมีอาการวูบไม่ได้สติเมื่อเกิดความเครียด ซึ่งในความเครียดแต่ละครั้งของเขาจะทำให้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นมาได้ แม่ของเขาจึงพาย้ายไปอยู่ที่อื่น เวลาผ่านไปเขากลับพบว่าตัวเองมีความสามารถในการย้อนเวลากลับไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตได้ เหมือนอย่างที่พ่อของเขาเคยเป็น แต่ว่าพ่อของเขาเป็นผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชจึงไม่เคยมีใครให้ความเชื่อถือพ่อเขาในเรื่องแบบนี้
เหตุการณ์ที่ทำให้อีแวนย้อนเวลากลับไปในอดีตครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นก็เกิดจากที่คนรักของเขาได้เสียชีวิตลง เขาจึงพยายามแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้คนรักของเขาต้องตายไป แต่ในทุกๆ ครั้งที่เขาแก้ไขมันกลับกลายเป็นไปเปลี่ยนทิศทางชีวิตของเธอในทุกๆ ครั้งไปแทน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็มักจะจบลงด้วยความเศร้าเสียทุกที ในตอนจบอีแวนก็ตัดสินใจครั้งใหญ่เกี่ยวกับเธอที่เขาคิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
เรื่องนี้จึงให้ข้อคิดที่ว่าการย้อนอดีตกลับไปแก้ไขนั้น อาจจะส่งผลทำให้เกิดเหตุการณ์อื่นๆ ตามมาซึ่งอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ บางทีการปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรเป็นนั้นอาจจะทางที่ดีสุดอยู่แล้วก็ได้
1. Predestination (2014)
เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้เนื่องจากอีธาน ฮอว์ก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่สามารถเดินทางข้ามเวลาได้ ภารกิจสุดท้ายของเขาคือการย้อนเวลาไปเพื่อหยุดยั้งการระเบิดครั้งใหญ่ในปี 1975 และเขาก็ถูกส่งไปยังห้วงเวลาต่างๆ ในยุค 90 เพื่อที่จะปฏิบัติภารกิจลับหยุดยั้งการก่อการร้ายจากอาชญากรต่างๆ แต่มีเพียงมือระเบิดฉายา Flizzle Bomber เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาไม่สามารถตามจับตัวได้ และยังหาเหตุผลอยู่ว่าเป็นเพราะอะไรจึงทำให้ผู้ชายคนนี้นำหน้าเขาไปก้าวหนึ่งอยู่เสมอ
และก่อนที่ภารกิจสุดท้ายจะมาถึง เขาก็ได้พบกับบาร์เทนเดอร์สาวหรือชายหนุ่มสองเพศที่ครั้งหนึ่งเคยใช้ชีวิตเป็นผู้หญิง เขาเป็นคนที่มีความผิดปกติทางเพศที่สามารถพบได้เพียงหนึ่งในล้านคนกับการที่เป็นบุคคลที่มีทั้งสองเพศอย่างสมบูรณ์ได้ในคนๆ เดียวกัน และรับฟังอดีตของเขาคนนั้นที่เติบโตมาจากการเป็นเด็กผู้หญิงมาก่อน จนกระทั่งเติบโตมาเป็นผู้ชาย การมาพัวพันกับคนๆ นี้ทำให้โชคชะตาของอีธานถูกเล่นตลกเอาจนได้
แต่ท้ายที่สุดเขาจะตามจับ Flizzle Bomber ได้หรือไม่ คุณต้องลองชมด้วยตัวเองดีที่สุด เพราะหนังจะค่อนข้างซับซ้อน และเต็มไปด้วยเรื่องหักมุมสุดแสนจะน่าทึ่งที่ใครๆ ต่างก็ต้องพูดถึงในฐานะหนังย้อนเวลาที่ดีมากอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
หนังแต่ละเรื่องเป็นจินตนาการของการย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ของโลกภาพยนตร์ ซึ่งอาจจะคิดแทนพวกเราตามหลักทฤษฎีต่างๆ ที่ตั้งกันขึ้นมาเอง ว่าถ้าหากย้อนเวลากลับไปในอดีตได้แล้วเราจะทำอะไรและจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากว่าได้ย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ขึ้นมา แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องที่เราต้องค้นหาคำตอบกันต่อไป ในส่วนของการย้อนเวลากลับไปในอดีต หากว่าวิทยาศาสตร์ในยุคนี้ยังไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ได้อย่างกระจ่างชัด จินตนาการเกี่ยวกับการย้อนเวลาก็ยังคงไม่มีทฤษฎีไหนที่ถูกต้องที่สุดในตอนนี้ไปได้อย่างแน่นอน
บทความ โดย : Akine_noxx
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ