หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อำลาสายข่าวไปอีกคน ไม่สามารถทนฝืนทำข่าว 'ลุงพล' ต่อไหวจริงๆ

เนื้อหาโดย Noxx

จากที่ก่อนหน้านี้คุณ ทรงพล เรืองสมุทร ได้โพสต์จากการทำข่าวเกาะติดลุงพลไป นักข่าวอีกท่านก็ขอหยุดทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวตาม เพราะรู้สึกไม่มีคามสุขกับสิ่งที่ต้องทำอีกต่อไป เพราะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

โดยโพสต์มีดังนี้...

“ยุติบทบาทในฐานะผู้สื่อข่าว” “เพื่อนหลายคนเห็นโพสต์นี้คงตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น?” เราต้องบอกก่อนว่า เราทำงานกับทางช่อง...

โพสต์โดย Sakda Wannasut เมื่อ วันอังคารที่ 8 กันยายน 2020

“ยุติบทบาทในฐานะผู้สื่อข่าว”
“เพื่อนหลายคนเห็นโพสต์นี้คงตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น?”

เราต้องบอกก่อนว่า เราทำงานกับทางช่อง ระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน เรารู้สึกขอบคุณที่ช่องให้โอกาสเสมอมา ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ดีกับเรา ที่สอนเราหลายๆอย่าง แต่เมื่อเราทำงานมาเรื่อยๆหลายๆอย่าง อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้ ทำให้เราไม่สามารถฝืนความรู้สึกตัวเองและเดินต่อต่อไปได้ เราตัดสินใจไปคุยกับพี่ (รอง ผอ.ฝ่ายข่าว) และบอกว่า ”เราอยากพัก” ซึ่งพี่แกก็เคารพการตัดสินใจของเรา

เราใช้เวลาคิดและตัดสินใจ 1 เดือนเศษ ใช้ช่วงเวลาที่เราทำงานอยู่บ้านกกกอกเพื่อติดตามคดีน้องชมพู่ ขณะที่เราอยู่ที่นั่นนานวันเข้า เราตั้งคำถามกับตัวเองต่างๆนานา และ “คำตอบในหัวเรา มันทำให้เราไม่มีความสุข” กับการทำงาน (เราขอไม่ลงรายละเอียด)


ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้ เราไม่สามารถขัดแย้งอะไรได้ ซึ่งทุกครั้งเราต้องก้มหน้าก้มตาทำต่อไปเรื่อยๆ เราลำบากใจหลายอย่าง และที่ลำบากใจไปมากกว่านั้นคือการเข้าถึง “สิทธิส่วนบุคคล”เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลบางอย่าง ตัวเรามองว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่ แม้บางคนเขาจะเต็มใจก็ตาม ถามว่าคนดูได้อะไรจากสิ่งเหล่านั้น ได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ นอกจากได้ดู “ความขัดแย้งกันของเครือญาติ”

อย่างที่เราบอกในโพสต์ก่อนหน้าว่า “เรารับรู้ถึงกระแสของเพื่อนๆกับการต่อว่าสื่อมวลชน” ซึ่งเราไม่มีโอกาสได้อธิบายให้ใครฟังมากมายนัก แต่เราก็ไม่อยากให้เพื่อนเหมารวมสื่อมวลชน อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าสื่อมวลชนก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ทำงานภายใต้กรอบขององค์กร และการทำงานของแต่ละองค์กรย่อมต่างกัน ฉะนั้นวัฒนธรรมองค์กรนั้นล้วนแตกต่างกันออกไปเช่นกัน ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองในบริบทของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว

สุดท้ายนี้ ในนามของเราเอง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งและเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ เราขอโทษทุกคนต่อการนำเสนอข่าวที่เกิดขึ้น จนมันนำพาสังคมให้มาถึงจุดนี้ได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราก็แค่ทรัพยาการบุคคลคนหนึ่ง ไม่สามารถท้วงติงหรือแก้ไขอะไรได้มาก เพราะเมื่อเราอยู่ในระบบ เราก็ต้องทำ ดังนั้นเราจึงขอถอยออกมา เพราะเราไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของระบบ..

เราขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาหาเรา และห่วงใยเรา

“จากกันด้วยดี ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านครับ”
พ้นสภาพอย่างเป็นทางการ

ศักดิ์ดา วรรณสุทธิ์
9 ก.ย.2563

.

      หากย้อนไปเมื่อ 4 วันก่อนหน้านี้มีโพสต์ที่ระบายความอัดอั้นที่มีต่อกระแสการทำข่าวลุงพลอยู่เหมือนกัน รวมถึงการบอกเล่าประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้จากการทำงานนี้แบบลงลึกด้วย 

“จากคดีเสียชีวิตของน้องชมพู่ สู่การเดบิ้วของลุงพล” ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนหนึ่งที่เคยไปทำคดีน้องชมพู่...

โพสต์โดย Sakda Wannasut เมื่อ วันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2020

“จากคดีเสียชีวิตของน้องชมพู่ สู่การเดบิ้วของลุงพล”

 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนหนึ่งที่เคยไปทำคดีน้องชมพู่ และตลอดเวลาที่ผ่านมา เรารับรู้ถึงกระแสของเพื่อนๆของเราในเฟซบุ๊กที่ต่อว่าสื่อ และเราก็รับรู้กระแสของคนที่เป็นแฟนคลับของลุงพลด้วยเช่นกัน

 

เพื่อนบางคนทักมาถามว่า “เมื่อไหร่จะเลิกนำเสนอข่าวลุงพล” ซึ่งตัวเราเองก็ตอบไม่ได้ แต่เราจะขอพูดในมุมมองของเรา และจะไม่พาดพิงใคร เพราะเรารู้จักพี่ๆในช่อง 34 ทุกคนที่ลงพื้นที่ทำข่าว และเราก็เคารพพี่ๆเขา

 

สำหรับตัวเราเอง หากถามว่าคดีของน้องชมพู่ไปไกลแค่ไหน เราก็คงตอบเหมือนกับที่หลายๆคนคิด และยอมรับว่า “ตอนนี้มันมาไกลจากจุดเดิมมากจริงๆ” ซึ่งเราไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งจะมาถึงจุดนี้ได้

 

หลังเรากลับมาจากบ้านกกกอก เรายอมรับว่ามีคนจำหน้าเราได้มากขึ้น แต่ที่เราแปลกใจ หลังจากกลับมา เราลงพื้นที่ไปทำข่าวอื่น ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ต่างถามถึงคดีน้องชมพู่ “ป้าดูทุกวันเลยนะข่าวน้องชมพู่” “คดีน้องชมพู่ไปถึงไหนแล้ว” “เมื่อไหร่จะจับคนร้ายได้” “คนร้ายฆ่าชมพู่คือใคร” “ชอบมากที่ใบ้หวย” “ชอบลุงพลมาก” ฯลฯ

ซึ่งเราก็ได้แต่ยิ้มให้และพยายามบอกไปว่าดูน้อยลงก็ได้นะครับ เพราะผมก็ยังไม่รู้ว่าจะจับได้ตอนไหน..

การที่คนดูเข้ามาถามเราแบบนี้ สะท้อนอะไร ?

 

มันทำให้เราเห็นว่า พวกเขาคอยติดตามดูตลอด และแน่นอนต้องเสพข้อมูลมามากพอสมควร บางครั้งการดูข่าวมากๆมันทำให้ปักใจเชื่อและหากไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลก่อน เราเป็นห่วงนะว่า “คนดูอาจเกิดค่านิยมที่ผิดเพี้ยนไป” และคนที่เราห่วงมากที่สุดคือเด็กๆที่กำลังดูข่าวอยู่ ซึ่งตัวเราเองก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอก แต่เรื่องแบบนี้เราจะบอกผู้ใหญ่ที่เรารู้จัก (ไม่รู้จะฟังเราไหม) และเราบอกพ่อแม่ตลอดว่า “ห้ามเปิดให้หลานดูเด็ดขาด” เพราะบางอย่างมันมีการใช้ความรุนแรงในเนื้อหา ซึ่งเรื่องแบบนี้มันต้องใช้เหตุผล คิด วิเคราะห์ แยกแยะให้มากๆ ซึ่งบางครั้งเด็กเล็กเขาอาจยังไม่เข้าใจจุดนั้น อาจทำให้เจาเชื่อแบบผิดๆ

กลับมาต่อ!!! นอกจากชาวบ้านถามเรื่องหวย ยังมีเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำ?

 

สำหรับเราเองเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ เรื่องหวย แต่เราก็ไม่ลบหลู่ความเชื่อของใคร พยายามฟังหูไว้หู แต่มันก็จะมีคนดูบางกลุ่มอีกแหละ ที่ปักใจเชื่อแทบทุกอย่างที่สื่อนำเสนอออกไป นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้พระสงฆ์สายมูหลายรูป มีชื่อเสียงขึ้นมา หากคนได้ติดตามข่าว คงไม่มีใครไม่รู้จัก “หลวงปู่เดือนชัย” พระที่ใบ้หวยถูกขณะขึ้นภูเหล็กไฟไปทำพิธีหาน้องชมพู่หรอก ทุกวันนี้มีลูกศิษย์จากทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้ และพร้อมจะประเคนทุกอย่างให้ด้วยซ้ำ

 

สิ่งที่ผมกล่าวมาข้างต้น ย้ำว่าเป็นความคิดส่วนตัว ซึ่งตัวผมเองก็คิดว่านี่แหละคือ “อิทธิพลของสื่อ”

 

บางคนบอกว่าการทำแบบนี้คือการมอมเมาประชาชนทางอ้อมใช่ไหม สำหรับเรา เราก็ไม่เถียงนะ เพราะสิ่งที่เราเจอกับตัวมันทำให้คิดได้หลายแง่เหมือนกัน คือ 1. สื่อสามารถทำให้คนรักกัน และเกลียดกันได้อย่างง่ายดาย และ 2.ก็ทำให้ชีวิตคนๆหนึ่งพลิกผันได้ด้วยเช่นกัน จะไม่ขอลงลึกอะไรแต่เราขอพูดถึงข้อหลังละกัน เพราะเราคิดว่า “เป็นอะไรที่พีคมาก” อีกทั้งตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ลุงพล”

 

แต่ก่อนลุงพล คือ “ชาวบ้านกกกอกคนหนึ่ง” ตอนนี้ลุงคือ “ Net idol หน้าใหม่” และกำลังก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง สื่อหลายสื่อให้ความสนใจ (สังเกตจากไมค์ในรูปด้านล่าง)

 

ต้องบอกก่อนว่าเราเอง เคยเจอลุงพลกับป้าแต๋น เรายอมรับว่าลุงกับป้าเป็นคนที่ Nice มาก ความซื่อๆของลุงป้าทั้งสอง ทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่ทำให้เราประหลาดใจไม่น้อย คือ คนดูข่าวอยากทำบุญ อยากช่วยเหลือ ซื้อข้าวของต่าง ๆ สร้างบ้านให้ลุง ส่งของมาทุกวันจนเต็มไปหมด และเชิญลุงไปบ้าน เพื่อจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ลุง อันนี้ก็ต้องยินดีกับลุง

 

แต่ที่พีคกว่านั้น มีค่ายเพลง ศิลปินต่างๆพูดถึงลุงพล มีคนแต่งเพลงมาให้ลุงพล บางเพลงมีเนื้อหาเกี่ยวกับน้องชมพู่ ซึ่งเราเองคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ อย่าลืมว่าน้องชมพู่ เสียชีวิตอย่างปริศนาอยู่ แต่อันนี้ก็ห้ามไม่ได้นานาจิตตัง

 

ที่ฮือฮา และเราคิดว่าแม่งพีคขึ้นมาอีก คือ จินตหรา พูลลาภ Feat. ลุงพล ในเพลง “เต่างอย” ลุงพลได้ขึ้นคอนเสิร์ตที่ อ.เต่างอย เมื่อวันที 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ในงาน “ไหว้สาพญาเต่างอย” มีแฟนคลับมารอล้มหลาม และมีคลิปแฟนคลับกรี๊ดลุงพล (ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่) #มีคลิปในComment

 

นอกจากนี้ ทาง Youtube official ของคุณจินตรา ก็อัปโหลดผลงานต่างๆที่ร่วมกับลุงพลด้วย ทำให้ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ลุงพล debut ในวงการบันเทิงแบบเต็มตัว เรียกได้ว่าทุกการขยับตัวของลุงพล เป็นที่สนใจไปหมด เช่นคลิป “ลุงพล กินข้าวเช้า #ป้าแต๋นถ่าย” ที่เป็นไวรัลในโซเชียลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อัปโหลดผ่านช่อง “ลุงพลป้าแต๋นแฟมิลี่” ผู้ติดตาม 1.8 แสนเศษ ตอนนั้นอัปโหลด 2 ชม. คนดูกว่า 2 แสนกว่า ปัจจุบันทะลุ 1 ล้านวิวเรียบร้อยแล้ว (คิดว่าทุกคนคงได้ดูแล้วแหละ)

 

อย่างไรก็ดี เรามองว่าเรื่องพวกนี้มันคือธุรกิจนะ กระแสต่างๆนายทุนก็ต้องการโปรโมท เราคงไปสั่งห้ามนายทุนไม่ได้ แต่ในฐานะของสื่อ เรายอมรับว่าเราประหลาดใจมาก มันอเมซิ่งหิงห้อยจริงๆ ...

 

สุดท้ายขี้เกียจพิมพ์ละ พูดทั้งวันคงไม่หมด เลยอยากบอกผู้ชมทุกท่านขอใช้วิจารณญาณในการรับชม ห้ามใช้จักรยานเด็ดขาด เดี๋ยวเหนื่อย ฮ่าๆ “การดูข่าวก็ต้องคิดวิเคราะห์แยกแยะด้วยเหตุและผล” แค่นี้แหละ

 

อย่างไรก็ดี นี่ก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัว ตัวเราเองก็ไม่รู้ว่าในอนาคตยังจะทำงานสื่ออยู่ไหม? แต่เราก็ยังคงมีความเชื่อ และมีความหวังที่จะได้เห็นสื่อมวลชนของไทยได้ขับเคลื่อนสังคมอย่างแท้จริง พร้อมกับนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ตรงนี้เราไม่ได้หมายถึงเฉพาะเจาะจง แต่เราหมายถึงสื่อทุกสำนัก ซึ่งก่อนจะมีวันนั้นได้ เราคิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจริงจัง และเข้มงวดกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน..

 

จบ.

.

     ได้แต่หวังว่าการยุติบทบาทของคนทำหน้าที่สื่อมวลชน 2 ท่านนี้ ที่จำต้องทำตามข่าวตามสั่งอยู่ในกระแสมากจนเกินความพอดีนี้จะปรับการนำเสนอวงการข่าวสารกระแสหลักบนโทรทัศน์ไปในเชิงสร้างสรรค์และชี้นำสังคมให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ในอนาคตค่ะ

บทความ โดย : Akine_noxx
ฝากติดตาม กดให้ดาว กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ 

เนื้อหาโดย: Noxx
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Noxx's profile


โพสท์โดย: Noxx
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
30 VOTES (5/5 จาก 6 คน)
VOTED: มยุริญ ผดผื่นคัน, taewsa, นริศรา แจน ซาคิเนะ, Noxx, มีร่า, karn23
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว ญี่ปุ่นสั่งกั้นมุมภเขาไฟฟูจิ! เหตุ นนท. ทำพิษอดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!นางเอกดัง จบป.เอกแล้ว ลุ้นเล่นการเมืองปลัดทรงสืบ แฝงนั่งชิลล์อยู่ริมหาดจอมเทียน เจอเหตุรัวปืน"คาซิง ลุง" ส่ง "ลาบาบู้" ลิมิเตดให้ "ลิซ่า"..หลังช่วยทำยอดขายถล่มทลายพฤติกรรมและวัฒนธรรมแปลกประหลาด แต่เป็นเรื่องปกติของผู้คนในอิตาลี ที่คุณอาจจะสงสัยและไม่รู้มาก่อน!เขมรโป๊ะแตก! โชว์ "มงกุฎร่ายรำ" เขมรโบราณอายุพันปี ชาวเน็ตไทยตามแหก ลั่น แบบนี้ที่สำเพ็งมีขายเยอะเลย!!พ้นขีดอันตรายแล้ว ! นศ.มธ หนุ่มถูกแทงปมไม่อยากเลิกรา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พ้นขีดอันตรายแล้ว ! นศ.มธ หนุ่มถูกแทงปมไม่อยากเลิกราพายุสุริยะ ถึงโลกในวันนี้ภาพชุดมวยไทย กับ กังฟู จีน ต่อสู้กันจริงๆ เรามีการต่อสู้กับมวยกังฟูมานานมากแล้ว สู้กันจนมวยจีนต้องกลับไปพัฒนารูปแบบใหม่อ่ะเน่อสื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
พ้นขีดอันตรายแล้ว ! นศ.มธ หนุ่มถูกแทงปมไม่อยากเลิกรากลับไม่ถึงบ้าน เหตุชนฟุตบาทอัดเสาไฟดับสลดคาที่ผู้นำจากนานาชาติร่วมกันแถลงการณ์ เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันในกาซาสื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว
ตั้งกระทู้ใหม่