อยากรู้มั้ยว่าคุณมีผิวแบบไหน? มาดูวิธีเช็คง่ายๆกัน
อยากรู้หรือเปล่าว่าตัวเองมีผิวหน้าแบบไหน หากยังไม่รู้...ลองมาทดสอบกันดูเถอะค่ะ
การดูแลและเลือกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหน้าไม่ว่าจะเป็นโฟมล้างหน้า เครื่องสำอาง เวชสำอางก็ตาม ก่อนที่จะเลือกใช้นั้นเราจำเป็นจะต้องรู้ลักษณะผิวหน้าของตัวเองเสียก่อนว่าเป็นแบบไหน เพื่อที่จะได้ใช้ให้ถูกกับผิวของตัวเอง เป็นการดูแลผิวได้อย่างถูกต้องและตรงจุด ดังนั้นแล้วหากว่าคุณยังไม่รู้หรือไม่แน่ใจว่าตัวเองมีผิวหน้าแบบไหนกันแน่ เราจะมาชวนพิสูจน์กันดูค่ะ
วิธีเช็คสภาพผิวหน้า
#1 เช็คตอนหลังล้างหน้า
ให้สาวๆ ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าจนหน้าสะอาดเกลี้ยง จากนั้นเช็ดหน้าให้แห้ง โดยไม่ต้องใช้เอสเซ้นส์ ไม่ต้องทาแป้ง หรือครีมอะไรทั้งนั้น ให้หน้าสดไปเลย และอยู่ในที่ที่ไม่มีลมโกรกถ้าอากาศอบอ้าวได้สักหน่อยจะยิ่งดีค่ะ ใช้เวลา 15-20 นาที แล้วสังเกตดูว่าเหงื่อออกบริเวณไหนมากที่สุดในใบหน้าดูค่ะ แสดงว่าใบหน้าของเรามีความมันส่วนเกินบริเวณนั้นๆ นั่นเอง
#2 ทดสอบกับกระดาษซับมัน
อันนี้ก็ทำไม่ยากในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว ทำเหมือนกับข้อที่ 1 ก็ได้ เพิ่มแค่ใช้กระดาษซับมันด้วย ให้สาวๆ ลองใช้กระดาษซับมันซับตามบริเวณต่างๆ บนใบหน้าของคุณดู โดยแยกกระดาษใช้เฉพาะจุดดูแล้วเอามาเปรียบเทียบกัน ส่วนไหนที่กระดาษเปียกชุ่มมากที่สุดนั่นก็คือบริเวณที่มีส่วนมันบนใบหน้านั่นเองค่ะ
#3 ทดสอบกับครีมกันแดด
สาวๆ หลายๆ คนไม่ชอบใช้ครีมกันแดด เพราะในครีมกันแดดนั้นจะค่อนข้างมีความเหนียวเหนอะหนะทำให้รู้สึกรำคาญ แต่สำหรับการทดสอบแล้วนั้นเป็นการดีที่จะใช้วัดดูว่าใบหน้ามีความมันในส่วนไหนมากที่สุดค่ะ เพราะแค่เหงื่อออกนิดหน่อยเราสามารถรู้ได้แล้วว่าหน้าเรามีความมันที่ส่วนไหนมากที่สุดค่ะ
#4 ตอนที่แต่งหน้าเวลาที่อากาศร้อน
อากาศในประเทศไทยนั้น ช่างไม่เอื้ออำนวยกับสาวๆ ที่รักในการเมคอัพเอาเสียเลย หลายๆ คนจะต้องไปออกงานกลางแจ้งที่มีแดดจ้าจ้าพบกับอากาศแสนร้อนอบอ้าว ทำให้เครื่องสำอางต้องเยิ้มเอาได้ แต่นั่นก็เป็นหนึ่งในข้อสังเกตได้ค่ะว่าใบหน้าของเรามีความมันที่ส่วนไหนมากที่สุด จากบริเวณที่มีความเสียหายมากสุด หรือว่าจะต้องเติมเครื่องสำอางบ่อยสุดนั่นเอง
ประเภทของผิวหน้าแต่ละแบบ
1. คนหน้ามัน
หน้ามันคือมีความมันส่วนเกินทั่วทั้งบริเวณใบหน้า เหงื่อออกเยอะออกง่ายอย่างมากมายเมื่อเทียบกับคนปกติ ในตอนที่อากาศหนาวจะมีปัญหาน้อย แต่ถ้าอากาศร้อนจะลำบากมาก ผิวมีความมันวาวให้เห็นได้ชัดมากกว่าคนอื่นๆ รวมถึงมีรูขุมขนใหญ่ด้วย ค่อนข้างเป็นสิวง่าย ต้องระวังเวลาใช้เวชสำอางหรือครีมทาหน้าชนิดต่างๆ แต่ข้อดีคือถ้ารักษาความสมดุลได้ใบหน้าจะเยาว์วัยได้นานกว่าคนผิวธรรมดาหรือผิวแห้งค่ะ
2. คนหน้าผิวผสม
หรือว่าคนมีใบหน้าแบบ T-Zone นั่นก็คือจะมีความมันบนใบหน้าเป็นรูปตัว T ที่บริเวณหน้าผาก จมูก และคางนั่นเอง มีส่วนผสมของทั้งผิวแห้งและผิวมันอยู่ในใบหน้าเดียวกัน ที่หน้าผาก จมูก และคางจะค่อนข้างมันมากมีเหงื่อออกง่าย มีสิวง่ายที่หว่างคิ้วและคาง ส่วนบริเวณแก้มจะมีความมันเล็กน้อยเวลาอากาศร้อน แต่จะมีความแห้งมาก ถ้าอยู่ในที่อากาศหนาว จะรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่นที่หายไป
3. ผิวธรรมดา
ถ้าพยายามทดสอบแล้วใบหน้าของคุณไม่ได้มีความมันในส่วนไหนเป็นพิเศษเลย ไม่ว่าจะมันทั้งหน้าหรือว่ามันเฉพาะส่วนแบบ T-Zone ก็ขอแสดงความยินดีด้วยว่าคุณเป็นคนที่มีผิวหน้าธรรมดานั่นเอง ถือว่าโชคดีมากๆ ที่คุณมีผิวหน้าที่มีความสมดุลดีสุดๆ เลยล่ะ ทำให้ดูแลและบำรุงได้ง่ายกว่าผิวทุกแบบเลย
4. คนผิวแห้ง
ตรงกันข้ามกับคนที่ผิวมันนั่นก็คือมีผิวแห้งค่ะ เหมือนจะโชคดีที่ไม่ค่อยมีเหงื่อออก เจอกับปัญหาหน้ามัน แต่ว่าจะมีปัญหาว่ามีความชุ่มชื่นที่ไม่เพียงพอแทน โดยเฉพาะในหน้าหนาว อากาศแห้ง ผิวจะแห้งแตกเป็นขุย ถ้าไม่ทาครีมบำรุงผิวเอาไว้ให้ดี หน้าได้แห้งแตกจนรู้สึกแสบและคันยุบยิบอย่างแน่นอน ดังนั้นผิวหน้าแบบนี้ต้องการการดูแลบำรุงที่เยอะมากๆ เลยล่ะค่ะ
ดังนั้นแล้วเมื่อรู้ว่าตัวเองมีผิวหน้าแบบไหน ก็ควรดูแลผิวหน้าให้ดีและถูกต้องตามที่ควรจะเป็น หาทางแก้ไขข้อบกพร่องและดูแลจุดด้อยเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอกับปัญหาผิวหรือว่าสิวคอยมากวนใจค่ะ
cr. https://thebookishalix.com/2020/04/22/how-to-an-at-home-facial/
✪ บทความ โดย : Akine_noxx
✿ เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
❀ ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ