White Lies การโกหกสีขาว
White Lies การโกหกสีขาว
White Lies การโกหกสีขาว ไม่ว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบไหน การโกหกก็นับเป็น เรื่องที่ยอมรับได้ยาก แต่การโกหกเล็กๆ น้อยๆ เพื่อความสบายใจ ของอีกฝ่าย แบบนี้นับว่ายอมรับได้หรือเปล่า? พวกเราต่างรู้ดี ว่าความสัมพันธ์จะราบรื่นได้ ถ้าแต่ละฝ่ายเปิดใจคุยกันอย่างซื่อสัตย์ ทั้งความต้องการ ความคิด และความรู้สึก ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ใกล้ชิด และแข็งแรงมากขึ้น
ดังนั้นการโกหกจึงเหมือนเชื้อร้าย ในความสัมพันธ์ ที่ทำลายความซื่อสัตย์ ในตัวคนคนหนึ่ง และทำลายความเชื่อใจ ของอีกคนตามไปด้วย เพราะการโกหกเพียงหนึ่งครั้ง อาจทำให้อีกคนไม่กล้าไว้ใจ ตลอดไปเลยก็ได้ แต่ถ้าเป็นการโกหก เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจล่ะ แบบนี้ผิดมั้ย? การโกหกสีขาว (white lies) คือการโกหกที่เราใช้ เพื่อถนอมน้ำใจ หรือทำให้อีกฝ่ายสบายใจ
อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการปฏิเสธ ความคับข้องในใจ การพูดในสิ่งตรงกันข้าม กับความคิดเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดี หรือเรียกว่าเป็นการโกหก ที่ไม่ได้มีเจตนาร้ายก็ได้ การโกหกสีขาว เป็นการโกหกเพื่อให้เกิด ผลบางอย่างต่อผู้อื่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่คนเราเลือกโกหก ผลวิจัยของ ทีโมธี ลีไวน์ (Timothy Levine) นักศึกษาพฤติกรรม ที่สนใจการโกหกของมนุษย์
ได้ทำการศึกษา คนจำนวน 500 คน จาก 5 ประเทศถึงเหตุผลของการโกหก พบว่า เหตุผลอันดับ 3 ของการโกหก คือเพื่อความสบายใจของคนอื่นนั่นเอง (รองลงมาจากการโกหกเพื่ออวยตัวเอง และการโกหกเพื่อปกป้องตัวเอง) แล้วการโกหกในลักษณะนี้ดี หรือไม่ดีต่อความสัมพันธ์กันแน่นะ? นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญ ด้านความสัมพันธ์ ซูซาน โอเรนสไตน์ (Susan Orenstein) กล่าวว่า การโกหกสีขาว คือการตัดความจริงทั้งหมดออก เพื่อให้อีกคนรู้สึกดี
ซึ่งการโกหกสีขาวเป็นเรื่องที่ไร้เดียงสา และบางครั้งก็เป็นเพียง ความเมตตาของคนคนหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น เวลาแฟนคุณถามว่า ช่วงนี้เธออ้วนขึ้นหรือเปล่า แล้วคุณตอบกลับไปว่า “ก็ไม่หนิ คุณก็ยังดูสวยเหมือนเดิม อย่าคิดมากเลย” หรือเวลาแฟนหนุ่มเริ่มหัดทำอาหาร ให้ทานเป็นครั้งแรก โดยออกมาในสภาพ ที่เนื้อยังไม่สุกดี หรือมีเปลือกไข่ติดมาด้วย คุณก็ยังตอบกลับไปว่า “อร่อยจังเลย”
เห็นมั้ยว่า ทั้งหมดนั้นก็เพื่อไม่อยากทำร้าย ความรู้สึกของอีกฝ่าย อีกนัยหนึ่ง ซูซานกล่าวว่าการโกหกสีขาว ก็เหมือนการสมรู้ร่วมคิด ที่เรากับคู่รักทำเพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพราะเป็นการที่เราและอีกคน มองบางสิ่งบางอย่างด้วยความรัก และความเข้าอกเข้าใจ
แต่การโกหกสีขาว เพื่อความสบายใจของอีกฝ่าย อาจทำให้ความสัมพันธ์ แย่ลงกว่าเดิมได้เช่นกัน โดยเฉพาะถ้าเราโกหก ในเรื่องที่คอยกวนใจเรามาตลอด และเราต้องการให้อีกฝ่าย เปลี่ยนแปลงตัวเอง
เช่น เราไม่ชอบเวลาแฟนเคี้ยวข้าวเสียงดัง แต่เราก็ไม่กล้าบอกตรงๆ หรือแฟนชอบตักของที่เราไม่ชอบทาน ใส่มาในจานเรา แต่เราก็ไม่ปฏิเสธ และฝืนกินเข้าไปทุกครั้ง แม้จะเสี่ยงต่อการเข้าใจผิด
แต่ถ้าการสื่อสารมีประสิทธิภาพมากพอ ก็จะทำให้อีกฝ่ายพร้อม จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น เราอาจจะลองพูดถึง ความประทับใจในสิ่งที่เขาทำ และค่อยบอกความต้องการ ที่แท้จริงออกไป
เช่น “ฉันรู้ว่าคุณอยากให้ฉันกินของอร่อยๆ และฉันก็ขอบใจมาก สำหรับความใส่ใจ
จริงๆ ฉันชอบกินสิ่งนั้นมากกว่า และจะดีใจมากถ้าครั้งหน้า คุณตักสิ่งนั้นมาให้” ซึ่งจากนี้ เขาก็จะเรียนรู้ว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่คุณชอบคืออะไร
โดยที่ไม่รู้สึกเสียน้ำใจ กับการกระทำก่อนหน้านี้ ในเรื่องที่จริงจัง การโกหกเพื่อความสบายใจ อาจเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เช่น ปัญหาด้านสุขภาพ การเงิน ความรู้สึกเชิงโรแมนติกต่อผู้อื่น และความไม่มั่นคงในอาชีพการงาน
เพราะเรื่องเหล่านี้ เป็นสิ่งที่คู่ของเราควรมีสิทธิที่จะรู้ ช่วงเวลาสำคัญ ที่คนเราควรพูดคุยกันอย่างซื่อสัตย์ที่สุด ก็คือตอนออกเดต หรือช่วงก่อนแต่งงาน ซึ่งเรากับคู่จะต้องแลกเปลี่ยนข้อมูล ถึงสิ่งที่ต้องการหรือไม่ต้องการ เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจ ในเรื่องอื่นๆ ที่จะตามมา
นอกจากนี้ ซูซานยังพบว่า คู่รักที่มีความสัมพันธ์ ที่มั่นคงที่สุดคือคู่รักที่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน และร่วมกันตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ซึ่งการตัดสินใจนั้น ดีสำหรับพวกเขา และดีต่อความสัมพันธ์ด้วย
การหลอกลวงทำลายความไว้ใจ และเป็นพิษต่อความสัมพันธ์ แต่การโกหกสีขาวนั้น ไม่ใช่การหลอกหลวง ที่ร้ายแรงเท่าไหร่นัก ซูซานกล่าวว่า การหลอกลวง ในเรื่องที่ร้ายแรงไม่ได้มีไว้ เพื่อปกป้องคู่รัก แต่มีไว้เพื่อปกป้อง ตัวเราเองต่างหาก ซึ่งทั้งหมดนี้หมายถึงการนอกใจ ปัญหาจากการเล่นพนัน หรือการปกปิดว่าไม่มีเรื่องอะไรในใจ สุดท้ายแล้ว การพูดคุยกันเพื่อแสดงความอึดอัดใจ หรือคับข้องใจของตัวเอง
จะทำให้เราและคู่ สามารถแก้ไขปัญหาร่วมกันได้ แทนที่จะหลีกเลี่ยงปัญหา และปล่อยไว้จนเป็นเรื่องใหญ่โต และการโกหกเล็กๆ น้อยๆ ไปเรื่อยๆ อาจทำให้ในอนาคตคนคนนั้น สร้างเรื่องโกหกที่ใหญ่โตกว่าเดิมได้
อ้างอิงจาก: https://payoncebiz.com/