ย้อนเรื่องราว และอัพเดตล่าสุด คดีอื้อฉาว ! จากพระพุทธเจ้าน้อย กลายเป็นนักโทษหนีคดี

อัพเดตล่าสุด คดีอื้อฉาว เรื่องราวของ ปัลเดล ดอรเจ , ลิตเติลบุดดา , พระพุทธเจ้าน้อย หรือพุทธบอยแห่งเนปาล 'ราม พหธุร พมจัน' ชายหนุ่มที่เคยเป็นข่าวมาถึงประเทศไทย ผู้นั่งบำเพ็ญศิลภาวนาอย่างยาวนาน เรียกว่านานถึง 6 ปี จนมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ปี 2548 ท่ามกลางข่าวลือว่า เขาไม่ได้ดื่มน้ำ ไม่ได้รับประทานอาหารใด ๆ เลย ตลอดช่วงการบำเพ็ญนั้น

เขาเป็นลูกชาวนา ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ 2534 เขาเป็นบุตรคนที่ 3 จาก 5 คน เคยอาศัยอยู่ในรัตนปุรี ประเทศเนปาล

ปี 2554 ชีวิตของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลง เขาได้รับฉายาใหม่ 'พระพุทธเจ้าน้อย' เมื่อถูกพบว่าออกจากการบำเพ็ญตนแล้ว สาวกของเขาบอกว่า เขาเดินทางไปอินเดีย เพื่อแวะเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางศาสนา ท่ามกลางข่าวลืออีกทาง บอกว่าเขาไปทำงานในโรงสีข้าว ไม่มีใครรู้ความจริงเรื่องนี้ เพราะเขาได้หายตัวไปอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสสองทาง ระหว่างกลับเข้าป่าไปบำเพ็ญตบะ กับหลบไปพักรักษาตัว เนื่องจากได้รับอุบัติเหตุที่โรงสี

พมจันกลับมาอีกครั้ง เขาได้รับสถาปนาให้เป็นเจ้าลัทธิ มีผู้ศรัทธาสร้างสำนักให้เขา ชาวบ้านจำนวนมากขอสมัครเข้าเป็นสาวก จีวรสีฟ้าถูกนำมาใช้เป็นเครื่องห่มกาย สาวกทั้งหลายสมัครใจใช้เครื่องแบบนี้ พมจันกลายเป็นเจ้าลัทธิคนใหม่เต็มตัว ด้วยการนุ่งขาวห่มขาวต่างจากทุกคน

สำนักลัทธิเริ่มเติบโต สาวกของพมจันเริ่มทำตัวมีปัญหา พวกเขาออกทำร้ายนักพรตต่างสำนัก และเหล่าชาวบ้านที่เข้ามาเก็บของป่า ด้วยเหตุผลว่าล้อเลียนการปฏิบัติของท่านพมจัน มีผู้เสียหายมากถึง 17 คน พมจันถูกนำตัวมาสอบสวน ตัวเขาเองยอมรับว่า เขาได้ใช้มือ "ตบ" คนเหล่านั้นไป เพราะมาทำลายสมาธิช่วงกำลังบำเพ็ญตบะ ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายบอกว่าโดนมากกว่านั้น นั่นจึงทำให้สาวกของเขาถูกดำเนินคดี

ปี 2555 สาวกของพมจันก็ก่อเหตุอีก พวกเขาไปจับตัวสาวชาวสโลวักมาทรมาน เธอเป็นแกนนำต่อต้านพมจัน ในด้านการบุกรุกป่าสร้างสำนัก เธอถูกฉุดจากบริเวณโรงแรม และถูกปล่อยตัวมาในสภาพแขนหัก

นักข่าวต่างชาติเข้ามาทำข่าว เหล่าสาวกก็เข้าไปพังกล้องของพวกเขา สาวกให้เหตุผลว่านักข่าวพวกนี้ มาบันทึกภาพเจ้าลัทธิโดยไม่ได้รับอนุญาต นักข่าวบางคนถูกทำร้ายร่างกาย ตำรวจทำได้แค่ดำเนินคดีสาวก

ช่วงปี 2557 มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเข้าแจ้งความ พวกเขาคือญาติของวัยรุ่นชาย 2 คน หญิง 2 คน ระบุว่าทั้งสี่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งสี่มาบวชอยู่ที่สำนักของพมจัน แต่ญาติไม่ได้รับการติดต่อมานานถึง 2 ปี พมจันจึงถูกทางการตามล่าตัว ผู้ติดตามรู้แค่เขาหายเข้าไปในป่า ไปบำเพ็ญเพียรในถ้ำซักแห่ง เจ้าหน้าที่จึงบุกเข้าตรวจสำนัก ค้นหาหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติม

ช่วงปี 2561 เรื่องอื้อฉาวใหม่ก็เกิดขึ้น พมจันถูกกล่าวหาว่าข่มขืนแม่ชีอายุ 18 ปี ซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึง 2 ปี หมายความว่าเธอถูกกระทำเช่นนี้มาตั้งแต่อายุยังน้อย ตามข่าวบอกว่าตั้งแต่ปลายอายุ 15 เพียงแต่เธออายุยังไม่ถึงเกณฑ์จะฟ้องเขาได้ ทางตำรวจจึงยังไม่ได้ตั้งข้อหาข่มขืนนี้ให้กับเขา

ท่ามกลางกระแสถาโถม ตำรวจไม่พบหลักฐานอะไรซักอย่าง สาวกของพมจันไม่ให้ความร่วมมือ ตัวพมจันไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้อีก อัยการสูงสุดของเนปาล ระบุว่าโทษที่พมจันสมควรได้รับ คือการจำคุกไม่ต่ำกว่า 14 ปี แต่ก็เท่านั้น เพราะพมจันหนีไปไหนก็ไม่รู้

หาตัวก็หาไม่เจอ เผลอแป๊บเดียว สำนักของเขาก็อันตรทานหายไปอีก ตำรวจยังไม่สามารถทำการอะไรได้ นอกจากรู้แค่ว่าพมจันยังไม่ตายเพียงเท่านั้น โทรศัพท์มือถือของเขายังคงถูกใช้ บางทีเขาอาจไม่ได้ไปอยู่ในป่า หรืออยู่ในป่าแต่น่าจะไม่ไกลจากชุมชน ตำรวจบอกกับนักข่าว ไม่มีนักบวชที่กำลังบำเพ็ญเพียรคนไหน จะใช้โทรศัพท์มือถือตลอดแบบนี้ แล้วข่าวของพมจันก็เริ่มเงียบหายไป แต่ทางตำรวจก็ยังไม่ได้ตัดใจที่จะจับกุมตัว