เตรียมกระตุ้นการใช้จ่าย แจกเงินคนละ 3,000 บาท 3 เดือน 15 ล้านคน ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป
2 ก.ย. 2563 'ศบศ.'เตรียม กระตุ้นการใช้จ่าย จัดงบ 45,000 ล้านบาท แจกเงินคนละ 3,000 บาท 3 เดือน 15 ล้านคน ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งจะผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล โดยจะจำกัดการใช้ไม่เกินวันละ 100-250 บาท คาดว่าโครงการนี้จะเริ่มภายในเดือนต.ค.นี้ โดยกลุ่มร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการจะมุ่งเน้นไปที่ร้านค้ารายย่อยทั่วไป ครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอย ประมาณ 80,000 ร้านค้า สำหรับ "เงื่อนไขเปิดกว้าง อายุ 18 ปี อาชีพอะไร เงินเดือนเท่าไรได้หมด ส่วนผู้ประกอบการยังเปิดกว้างให้ซื้อของในเซเว่น และห้างสรรพสินค้าได้"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เสนอโดยกระทรวงการคลัง โดยรัฐจะให้เงินสนับสนุนการใช้จ่ายคนละไม่เกิน 3,000 บาท เพื่อเอาไปใช้จ่ายซื้อของ ซึ่งจะต้องมาลงทะเบียนรับสิทธิในโครงการลักษณะเดียวกับชิมช้อปใช้ คาดว่าโครงการนี้จะเริ่มภายในเดือนต.ค.นี้
สำหรับมาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน ส่งเสริมการบริโภค และช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไปที่ครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอย โดยรัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่าย 50% และจำกัดการใช้จ่ายต่อคนตลอดโครงการ
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวนประมาณ 15 ล้านคน และกลุ่มร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการจะมุ่งเน้นไปที่ร้านค้ารายย่อยทั่วไปครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอย ประมาณ 80,000 ร้านค้า โดยเงินนี้จะใช้ได้ในช่วงเวลา 3 เดือน จำกัดการใช้ไม่เกินวันละ 100-250 บาท
ส่วนการดำเนินการจะทำผ่านกลไกการดำเนินงานผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการคลังจัดทำรายละเอียดโครงการเพื่อนำเสนอต่อ ศบศ.อีกครั้ง เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ภายในเดือนต.ค.นี้ ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มเติมภายใต้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน และมาตรการส่งเสริมการการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและภาคเอกชน ด้วย..





















