"ไข้หัดแมว" อีกโรคร้ายคร่าชีวิตน้องเหมียว
โรคไข้หัดแมว (feline panleucopenia)
โรคไข้หัดแมวจัดเป็นโรคติดต่อร้ายแรง มักเกิดกับลูกแมว แมวเด็ก และแมววัยรุ่น ติดต่อกันได้รวดเร็ว และส่วนใหญ่มักจะตาย อัตราการรอดชีวิตของแมวกลุ่มเสี่ยง เพียง 10-50% ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแมว
อาการของไข้หัดแมว (โรคนี้ไม่ติดต่อคนและสุนัข) คือ
1.หลังจากได้รับเชื้อ จะเริ่มซึม ไม่กินอาหาร เริ่มมีไข้จนเกิดอาการไข้สูง บางตัวจะเป็นอัมพาตทั้งตัวและเดินไม่ได้ ยกเว้นแมวอายุน้อยกว่า 1 สัปดาห์จะมีอาการทางประสาท (Antaxia) ร่วมด้วย
2.เริ่มอาเจียน เนื่องจากเชื้อ FPV ทำให้ผนังลำไส้ลอกหลุดแมวจึงท้องเสียรุนแรงและมีเลือดปนเหม็นคาว ในลูกแมวจะไม่สามารถทรงตัวได้ โรคนี้อาจทำให้ลูกแมวบางตัวตาบอด
3.เมื่อคลำช่องท้อง แมวจะเจ็บท้อง อาจพบลักษณะลำไส้หนาตัวเป็นลำบริเวณช่องท้องเนื่องจากภายในมีแก๊สและของเหลวสะสม
4.เมื่อตรวจเลือดจะพบเม็ดเลือดขาวต่ำมาก เรียกอาการ feline panleukopenia
5.ในแมวโตที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีวัคซีนครบและมีสุขภาพแข็งแรง หากได้รับเชื้อเพียงเล็กน้อย ร่างกายจะสามารถสร้างภูมิต้านทานได้ แต่เชื้อจะยังคงอยู่ในร่างกายนานหลายสัปดาห์ บางตัวอาจไม่แสดงอาการของโรคหัดเลยก็ได้ แต่ในระยะนี้ยังคงเป็นตัวกลางพาหะนำโรคไปสู่แมวตัวอื่นได้อยู่
6.มีอาการแห้งน้ำฉับพลัน อาเจียนรุนแรง เจ้าของอาจเข้าใจผิดว่าแมวได้รับสารเคมี
7.ในแม่แมวท้องเชือนี้สามารถทำให้แม่แมวแท้งลูกได้
การติดต่อ โรคไข้หัดแมวจัดเป็นอาการของโรคในระบบทางเดินอาหาร ติดต่อทางการกินและการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมเช่น จากกรง ชามอาหาร เสื้อผ้า ที่นอน รวมถึงมือคนเลี้ยง เชื้อนี้มีความทนทานมาก สามารถแพร่กระจายในระบบได้นานถึง 13 เดือน
การป้องกัน
1.ฉีดวัคซีน เมื่อลูกแมวอายุ 2 เดือน ฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 6 เดือน และฉีดซ้ำทุกปี
2. แยกแมวป่วยออกจากแมวเป็นโรค
3.ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่ออกมากับอุจจาระและปัสสาวะด้วยน้ำยาโซเดียมไฮโปคลอไรด์
4.เจ้าของแมวที่มีแมวตายด้วยโรคไข้หัดแมวไม่ควรนำลูกแมวที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาเลี้ยงอีกภายในระยะเวลา 13 เดือน เว้นแต่ได้รับการทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธีแล้ว
5.ในแมวที่เคยได้รับวัคซีนและได้รับวัคซีนครบอย่างต่อเนื่องโอกาสติดโรคนี้ค่อนข้างต่ำ