มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน โค้งอันตราย
ทุกครั้งที่ขับรถผ่านโค้งที่มีป้ายบอกว่า
“ โค้งนี้เกิดอันตรายบ่อย ให้ขับขี่กันแบบระมัดระวัง “ ใครมีความรู้สึกหวิวๆแบบเราบ้าง
สำหรับเราจะมีความรู้สึกแปลกๆตลอดเลย ซึ่งก็ไม่มั่นใจหรอกว่า..ที่มันหวิวเป็นเพราะคิดไปเอง หรือเป็นเพราะโค้งนี้มันมีอะไรที่ทำให้รู้สึกแบบนี้...
โดยโค้งแห่งนี้มันเป็นโค้งที่เป็นทางผ่านบ้านเราไปสู่ตัวเมือง ช่วงระหว่างโค้งไปบ้านก็ค่อนข้างเปลี่ยวคือแทบจะไม่มีบ้านคนเลย มันจึงไม่แปลกที่เราจะรู้สึกแบบนั้น
แต่ทุกครั้งที่ขับผ่านเราก็ไม่เคยเจออะไรนะ เหมือนทุกอย่างผ่านมาปกติในทุกๆครั้งหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่เคยขับรถผ่านในเวลากลางคืนเลย
จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งที่เราต้องขับผ่านโค้งนั้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้เรามีงานที่ต้องคุยกับลูกค้าช่วงเย็น มันจึงทำให้เราต้องกลับค่อนข้างดึก
และเวลาที่เราต้องขับรถในเวลากลางคืนสิ่งที่น่ากลัวมากกว่าผีก็คือคนนี้ละ เราจะเตือนตัวเองเสมอว่า ถ้าไปถึงทางเปลี่ยวแล้วเห็นคนโบกรถ ห้ามใจดีเด็ดขาด..เพราะมันอาจเป็นอุบายของพวกโจรก็ได้
และวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากคุยงานเสร็จเราก็รีบขับรถกลับบ้านทันที
ในขณะที่เราขับรถมาเรื่อยๆ...ก่อนจะถึงโค้งอันตรายประมาณ 200 เมตร เราก็เจอผู้หญิงยืนโบกรถอยู่ข้างหน้า ด้วยความที่ตอนนั้นจิตใจค่อนข้างแน่วแน่ในเรื่องของการจะไม่จอดรถในตอนกลางคืน และก็แอบคิดไปว่า ดึกๆเปลี่ยวๆแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนกันจะมายืนโบกรถอยู่คนเดียว ซึ่งความคิดแบบนี้แหล่ะมันก็เลยทำให้เราทำเนียนเป็นไม่เห็นไม่สนใจอะไรเลย
และพอขับผ่านผู้หญิงคนนั้นมา เราก็เหลือบมองผ่านกระจกหลังเพื่อดูว่ามีคนออกมาหาเธอไหม..แต่พอมองไปก็ไม่เจอใคร แม้กระทั่งตัวผู้หญิงคนนั้นมันจึงทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่ามิจฉาชีพแน่นอน
แล้วหลังจากนั้นเราก็กลับมามองทางตรงอีกครั้ง..แต่พอหันกลับมาทางตรงปั้บ มันก็ทำให้เราเหยียบเบรกดังเอี๊ยด เพราะสิ่งที่เราเห็นข้างหน้าคือ มีผู้หญิงแก่ๆกำลังเดินข้ามถนน..ในตอนนั้นเราก็ไม่มั่นใจว่าเราชนเขาป่าว..แต่เรามองเห็นว่าเขาล้มลงไป
ซึ่งด้วยความที่เราตกใจมาก เราจึงรีบลงไปดูเขาพร้อมพยุงเขาให้ลุกขึ้นแล้วถามเขาว่าเป็นไรอะไรไหม?
แต่เขาก็ส่ายหัวเบาๆพร้อมบอกว่าไม่เป็นไร...
ด้วยความที่เราเป็นห่วงเขาบวกกับตอนเราจับแขนเขาให้ลุกขึ้น เขาตัวเย็นมาก เราจึงแอบคิดว่าเขาตกใจกลัวจนตัวเย็นไปหมดเลยหรอ เราเลยอาสาจะไปส่งเขาที่โรงพยาบาล
แต่เขาไม่ยอมไป บอกว่าไปส่งเขาหาลูกสาวก็พอ
เราก็เลย เอ่อๆ ยอมทำตามที่เขาบอก.
แล้วหลังจากนั้นเราก็พยุงเขาขึ้นรถไปพร้อมขับรถไปตามทางที่เขาบอก โดยตลอดเวลาที่เราถามทางเขา เขาจะไม่พูดอะไรเลย มัวแต่ก้มหน้า แล้วใช้นิ้วชี้บอกทางเรา
พอขับมาได้สักพัก เราก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกับว่าทางที่เขาบอกมันเหมือนการให้เราขับวนมาทางเดิม ตอนนั้นเราเริ่มสงสัยละว่าทำไมถึงให้เราขับมาทางเดิม เพราะอีกประมาณ 300 เมตรข้างหน้ามันจะถึงที่ๆเราเจอผู้หญิงยืนโบกรถเราแล้ว
เราสงสัยเราก็เอ่ยคำถามถามเขาไปว่า บอกทางเราผิดหรือป่าว นี้มันทางเดิมนะ
เขาก็ส่ายหัวเบาๆ..แถมพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า
“ ลูกสาวป้าเขารออยู่ข้างหน้า...ตอนที่เธอมาเธอไม่ยอมรับเขาไปหาป้าเอง”
พอเขาพูดจบเราก็ตกใจมากรีบหันหน้ามองเขา และก็เจอเขาหันกลับมามองเราเช่นกันซึ่งใบหน้าของเขาในตอนนั้นก็เริ่มเปลี่ยนไปละ..จากใบหน้าที่ปกติ ณ ตอนนี้เริ่มมีน้ำเหลืองน้ำหนองไหลหยดติ่งๆแบบสยดสยอง
ตอนนั้นไม่ต้องถามถึงเลยว่าเรามีอาการอย่างไร คือช็อคมาก แทบเสียสติ บวกกับหันไปมองถนนก็เจอผู้หญิงคนที่โบกรถเกาะอยู่กระโปรงรถอีก
ด้วยความกลัวแบบสุดขีดเราทั้งกรี๊ด ทั้งขับรถส่ายๆเพื่อสะบัดให้ตัวที่เกาะรถหลุดไปก่อน ส่วนตัวข้างๆ เราก็ไม่หันมองเลย
แต่ไม่รู้ว่าขับรถส่ายไปแบบไหน ทำให้รถเราไปชนกับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง...แล้วจากนั้นก็เกิดภาพตัดกับเราทันที
เรามารู้สึกตัวอีกทีตอนอยู่โรงพยาบาลละ
ณ ตอนที่เราลืมตามาได้ เราเจอครอบครัว เจอเพื่อน คือเราดีใจมากที่เรารอดตายมาได้...
แล้วแม่ก็ถามเราว่าเกิดอะไรขึ้น เราจึงเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง พอทุกคนได้ฟังที่เราเล่า เขาก็สันนิษฐานไปทางเดียวกันว่า..
“ อาจจะเป็นสองศพล่าสุดที่ตายแถวโค้งนั้นหรือเปล่า เพราะข่าวล่าสุดที่ออกมาคือ ลูกขี่มอไซต์พาแม่ไปโรงบาลแต่ก็มาโดนสิบล้อชนก่อนถึงโค้ง ตัวลูกกระเด็นไปข้างทาง ส่วนแม่โดนลากไปจนถึงโค้งพอดี”
พอเราได้ยินแบบนั้นเราก็ยิ่งกลัวมาก และหลังจากออกจากโรงพยาบาลได้ เราก็ไปทำบุญพร้อมกับบอกตัวเองว่าจะไม่ผ่านโค้งนั้นในเวลากลางคืนอีกเด็ดขาด
สามารถรับชมได้ที่ aplay.tv https://bit.ly/3fJHU15