อยู่เป็นสุข ไร้ดราม่าในที่ทำงานได้ เพียงงดพูดถึงสิ่งเหล่านี้
เราต่างคนต่างมีปัญหาในที่ทำงานด้วยกันทั้งนั้น เพราะเวลาคนจากต่างที่ต่างถื่นมาอยู่ด้วยกันเยอะๆ มากคนก็มากความ แต่จะทำอย่างไรให้สามารถประคองตัวเองอยู่ได้อย่างมีความสุขมากที่สุด นั่นก็คงต้องทำตัวให้มีปัญหาน้อยที่สุดให้ได้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นจากตัวเราเองหรือจากอีกฝ่ายก็ตาม แล้วมีเรื่องอะไรบ้างที่เราไม่ควรพูดหรือทำเวลาอยู่ในที่ทำงาน?
1. เกลียดงาน
คงไม่มีใครแฮปปี้หรอก ถ้าจะต้องร่วมงานกับคนที่เกลียดงานที่ตัวเองทำอยู่ ทัศนคติแบบนี้ถ้ายิ่งต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมก็ไม่โอเคแน่ๆ คนที่เกลียดงานมักทำงานด้วยความไม่ตั้งใจ มีโอกาสผิดพลาดมาก อีกทั้งอยู่ใกล้ๆ แล้วรู้สึกถึงพลังด้านลบได้ง่ายด้วย คนที่เขาตั้งใจทำงานไม่มีใครอยากเข้าใกล้คนที่เกลียดงานที่ตัวเองทำอย่างแน่นอน ให้เก่งแค่ไหนก็ยากที่อยู่ร่วมกันได้จริงๆ เพราะฉะนั้นเก็บเงียบเอาไว้ห้ามบอกใครเลยเชียว
2. ไม่ชอบหัวหน้า
หัวหน้าก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง การที่จะขึ้นมาสู่ตำแหน่งก็อาจจะไม่ได้วัดที่นิสัยใจคอ บางคนที่เก่งและเป็นคนดีจริงก็จะได้ใจลูกน้องไป แต่บางคนอาจจะทำงานเก่งมาก แต่ไม่ค่อยคิดถึงใจคนอื่นนัก ก็อยู่ร่วมด้วยยากสักหน่อย เราอาจจะต้องพยายามหาวิธีดีลกับเขาให้ได้ถึงที่สุดก่อน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รักและชอบเขา ก็อาจจะพอมีหนทางที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ แต่ถ้าคุณอดใจที่จะแสดงความเกลียดชังเขาไม่ได้เลยจริงๆ ก็คงต้องลาออกแล้วล่ะ เพราะถ้ารู้สึกแย่กับเขาจนอคติออกนอกหน้าแบบนี้ ก็ไม่น่าจะอยู่ร่วมกันไหวแล้วนะ
3. งดเสวนาการเมือง
ประเด็นเรื่องการเมืองนั้นละเอียดอ่อนมาก และยังไงก็ยากที่จะทำความเข้าใจได้อย่างสนิทใจกันอยู่ดี ดังนั้นการไม่พูดไม่แสดงออกอะไรเลยน่าจะดีกว่า หลายๆ คนต้องเสียเพื่อนเสียคนรู้จักไป เพราะรับไม่ได้กับแนวความคิดทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน ทั้งๆ ที่ถ้าตัดเรื่องการเมืองไปแล้วก็เป็นมิตรที่ดีต่อกันได้ ทางที่ดีข้ามประเด็นนี้ไปจะปลอดภัยที่สุด
4. งดพูดเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล
แนวคิดของคนรุ่นใหม่อาจจะมีความเชื่อต่อสิ่งต่างๆ น้อยลงกว่าคนยุคก่อน ถ้าหากเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นความสบายใจของคนอื่น และไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อนนั้น เราอาจจะพยายามมองข้ามไปก็ได้ แม้ว่าเราจะไม่เชื่อก็ตาม เพราะเรื่องแบบนี้ถึงทะเลาะกันไปก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อกันเลยจริงๆ นะ ใครจะชอบหรือนับถืออะไรก็เป็นอิสระเสรี ทั้งนี้เราอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่มีปัญหาต่อกันน่าจะเป็นเรื่องดีกว่าอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ
5. ปัญหาด้านสุขภาพ
หลายๆ คนชอบบ่นว่าสุขภาพแย่หรือมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งใครๆ ก็ประสบพบเจอได้ แต่การที่พูดถึงบ่อยๆ และส่งผลกระทบต่อการทำงานด้วย ก็คงจะไม่เป็นที่พอใจของเพื่อนร่วมงานหลายๆ คนแน่ แม้ว่าการเจ็บป่วยนั้นไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ก็จริง แต่สำหรับคนที่ชอบอ้างเรื่องความเจ็บป่วยแล้ว ส่งผลให้งานต้องสะดุดหรือล่าช้า ก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาเปรียบคนอื่นอยู่เหมือนกันนะ ทางที่ดีเราไม่ควรเอาความเจ็บป่วยมาอ้างกับคนอื่นๆ ดีกว่านะ
6. ชีวิตส่วนตัวโดยเฉพาะเรื่องชู้สาว
เพื่อนร่วมงานบางทีเขาก็ไม่ใช่เพื่อนสนิทของคุณนะ เรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยเฉพาะเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ก็อย่าเอาไปพูดถึงมากเลย มีแต่จะทำให้เป็นหัวข้อนินทาเสียมากกว่า ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวคุณเลยสักนิด ไม่มีใครจะมาห่วงใยเรื่องความรักของคุณหรอก มีแต่จะอยากรู้เพื่อที่จะเอาไปเม้าท์ต่อเท่านั้นแหละ รวมถึงการล่วงรู้ความสัมพันธ์ของคนอื่นด้วย ไม่พูดไม่เอาไปบอกต่อนั่นแหละดีที่สุดจะได้ไม่ต้องไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายของคนอื่นเขาด้วยนะ
7. พาดพิงถึงคนอื่นโดยเฉพาะเรื่องไม่ดี
หลายๆ เรื่องความผิดพลาดนั้นอาจจะไม่ได้มาจากคนคนเดียวก็จริง แต่การที่เราจะไปพาดพิงถึงคนอื่นก็ต้องมั่นใจมากพอนะ ว่ามันอยู่ในขอบเขตที่เขาต้องรับผิดชอบในงานนั้นจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่กล่าวหาเพื่อที่จะแก้ตัวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นนอกจากจะไม่เป็นธรรมกับคนที่ถูกกล่าวหาแล้ว ก็ยังจะทำให้มีปัญหากับคู่กรณีเอาได้ด้วย ทางที่ดีควรพูดแต่ในส่วนของตัวเอง โดยไม่ต้องพูดถึงคนอื่นจะดีเสียกว่า
เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราอยู่ในที่ทำงานได้อย่างสงบสุข เราจะไปเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเองได้ แม้ว่าอาจจะไม่ได้รู้สึกรักใคร่เพื่อนร่วมงานเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็พยายามอยู่ด้วยกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเอาไว้ก่อนก็ยังดี ดังนั้นควรรับมือกับทุกสิ่งอย่างด้วยความใจเย็นและมีสติให้มากที่สุดดีกว่าค่ะ
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ