การเดินทางครั้งนี้อาจไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด เมื่อการเดินทางครั้งนี้คือความหายนะ การเดินทางที่มีบางสิ่งบางอย่างรอพวกเราอยู่ ซึ่งบางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวพวกเราอย่างมาก มาดูกันว่าจะมีเรื่องอะไรกันบ้าง แต่ละเรื่องจะมาในรูปแบบไหน มาร่วมลุ้นเอาใจช่วยพวกเขากันเถอะ

1. In Fear (2013) ทริปคลั่งคืนโหด

        เป็นหนังสยองขวัญแนวจิตวิทยาอังกฤษที่กำกับและเขียนโดย Jeremy Lovering ว่าด้วยเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชวนแฟนสาวไปพักยังโรงแรมที่เขาได้ทำการจองไว้แล้ว ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในป่า โดยเมื่อถึงเวลาหนึ่งทุ่มจะมีคนมารับ แต่แล้วก็มีรถคันหนึ่งมาพาพวกเขาไป และเมื่อพวกเขาขับตามไปจนกลางทาง รถคันนั้นก็จากไปพร้อมกับชี้บอกให้พวกเขาขับต่อไปเอง พวกเขาจึงขับตามทางไปเรื่อย ๆ โดยอาศัยแผนที่และป้ายบอกทาง แต่ทว่าแผนที่ที่ระบุไว้ไม่ตรงกับป้ายบอกทาง พวกเขาจึงตัดสินใจขับตามป้ายบอกทางไป แต่ว่าพวกเขากลับขับรถวนไปวนมาอยู่ที่เดิม พร้อมทั้งน้ำมันที่ใกล้จะหมด แม้ว่าจะมีแผนที่และป้ายบอกทางก็ไม่ได้ช่วยอะไร จนในที่สุดพวกเขาก็ได้มาเจอโรงแรมที่มีสภาพรกร้างไร้ผู้คน แต่กลับเต็มไปด้วยรถที่จอดทิ้งไว้เต็มไปหมด

                                                 รูปที่ 1 In Fear (2013) ทริปคลั่งคืนโหด

        ดำเนินเรื่องเร็วดี ชวนติดตาม ใช้นักแสดงน้อย เน้นตัวละครหลักสองคนและเน้นฉายในป่าเป็นหลัก แต่แทบไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย ด้วยบรรยากาศที่ค่อย ๆ มืด เส้นทางที่เปลี่ยววังเวงไร้ผู้คน ป้ายบอกทางที่วกวนไปมา แผนที่ที่ไม่ตรงกับป้ายบอกทางและตัวละครที่โผล่มาแต่ละคนก็ดูน่าสงสัยหวาดระแวงตลอดเวลา ดูแล้วอึดอัดกดดัน ชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครไปตลอดการเดินทาง ถึงแม้จะพอจับจุดได้บ้าง มีขัดใจตัวละครบ้าง แต่ไม่มากเท่าไหร่

คะแนน 7/10

 

2. HIGH LANE (2009) ไฮเลน ดิ่งมฤตยูเสียดฟ้า 

        เป็นหนังสยองขวัญจากประเทศฝรั่งเศสที่กำกับโดย Abel Ferry ว่าด้วยเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ชวนเพื่อนไปท่องเที่ยวพักผ่อนด้วยการผจญภัยไต่เขาที่กำลังปิด เพื่อฟื้นฟูทัศนียภาพใหม่ แต่ทว่าระหว่างที่พวกเขากำลังเดินข้ามสะพานอยู่นั้น สะพานได้เกิดชำรุดเสียหาย ทำให้พวกเขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งจะหันหลังกลับลงไปข้างล่างก็ไม่ทันเสียแล้ว พวกเขาได้ได้แต่มุ่งหน้าไต่เขาขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเมื่อหนึ่งในกลุ่มของพวกเขาหายตัวไป ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวเป็นการออกตามหาคนหายแทน พร้อมกับการเอาชีวิตรอดออกไปจากที่นี่

                                               รูปที่ 2 HIGH LANE (2009) ไฮเลน ดิ่งมฤตยูเสียดฟ้า 

        เปิดเรื่องด้วยการฉายถึงตัวละครที่กำลังถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนตัดเข้าเรื่องฉายถึงตัวละครที่กำลังเดินทางไปเที่ยวและไต่เขากัน ซึ่งดำเนินเรื่องเร็วดี โดยจะค่อย ๆ ลุ้นระทึกขึ้นเรื่อย ๆ ชวนลุ้นไปกับตัวละครตลอดการไต่เขาทั้งเรื่องเสมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ช่วงที่ไต่เขาดูลุ้นและเสียวดี บรรยากาศสถานที่ก็ดูไม่น่าไว้วางใจ สำหรับตัวละครถือว่าใช้ได้ไม่มีบทที่ดูแล้วขัดใจเหมือนหลาย ๆ เรื่อง มีการแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวและสัญชาตญาณการเอาตัวรอดบ้าง ส่วนตัวร้ายก็ดูสมจริงไม่ได้อึดจนเกินไป

คะแนน 7.5/10

 

3. THE RUINS (2008) แดนร้างกระชากวิญญาณ

        เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติที่กำกับโดย Carter Smith และร่วมผลิตระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับออสเตรเลีย ซึ่งสร้างจากนิยายในชื่อเดียวกันโดย Scott Smith ผู้เขียนบทภาพยนตร์ ว่าด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังสังสรรค์ช่วงวันหยุดในเม็กซิโก จนเมื่อมีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งชวนพวกเขาไปเที่ยววิหาร ซึ่งเป็นแหล่งขุดค้นทางโบราณคดีกลางป่าลึก พวกเขาก็สนใจจึงได้ตอบตกลงไป หลังจากนั้นพวกเขาก็จ้างคนขับรถพาไปยังที่นั่น และเมื่อเขาส่งถึงจุดหมายแล้วก็ได้ทิ้งพวกเขาไว้ พร้อมกับทิ้งเบอร์ไว้ให้เมื่อต้องการเรียกรถกลับ แต่เมื่อพวกเขาเดินทางต่อไปจนเจอวิหาร ก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฎตัวขึ้น พร้อมกับอาวุธครบมือและได้ทำร้ายพวกเขา ทำให้พวกเขาต้องหลบหนีขึ้นไปยังที่นั่น

                                              รูปที่ 3 THE RUINS (2008) แดนร้างกระชากวิญญาณ

        เปิดเรื่องด้วยการฉายถึงเหยื่อที่ร้องขอความช่วยเหลือ ด้วยการทิ้งปริศนาให้ชวนติดตาม จากนั้นก็ตัดเข้าเรื่องฉายถึงตัวละครหลักแต่ละคนที่กำลังพักผ่อนอาบแดดและสังสรรค์กัน ก่อนที่จะเดินทางไปยังวิหาร ซึ่งอาจจะดำเนินเรื่องช้าไปหน่อย แต่พอมาถึงสถานที่แล้วดูน่าสนใจ โดยหลังจากที่มาถึงก็จะเน้นฉายจุด ๆ เดียว ซึ่งสถานที่ บรรยากาศ ตัวละครดูน่าสงสัย ชวนติดตามดี แทบไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครตลอดทั้งเรื่องว่าจะเอาชีวิตรอดออกไปได้ยังไง ด้วยสถานการณ์ที่ถูกปิดกั้นพร้อมกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่พร้อมจะกินพวกเขาเป็นอาหาร อีกทั้งยังเริ่มขาดน้ำ ขาดอาหาร ทำให้ดูแล้วอึดอัด สงสารตัวละคร มีฉากโหดบ้าง มีดราม่าบ้างซึ่งก็ทำได้ดีและจบทิ้งท้ายเหมือนมีต่อ

8/10

 

4. Chernobyl Diaries (2012) เชอร์โนบิล เมืองร้าง มหันตภัยหลอน

           เป็นภาพยนตร์สยองขวัญแนวภัยพิบัติจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่กำกับโดย Brad Parker และอำนวยการสร้างโดย Oren Peli ว่าด้วยเรื่องราวของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ได้วางแผนเดินทางท่องเที่ยวมอสโก แต่แล้วพวกเขาก็อยากเที่ยวแบบเสี่ยงภัย จึงได้เปลี่ยนแผนไปเที่ยวเชอร์โนบิลแทน ซึ่งเป็นเมืองในเขตหวงห้ามของคนงานในโรงงานกัมมันตภาพรังสีเชอร์โนบิลที่โด่งดัง ที่ซึ่งกลายเป็นเมืองร้างนับตั้งแต่เกิดหายนะเมื่อ 25 ปีก่อน หลังจากจากการทดสอบระบบที่ล้มเหลวจนเกิดกระแสไฟฟ้ากระโชกอย่างฉับพลันทำให้เตาปฏิกรณ์ได้รวมตัวกับอากาศจนระเบิดออกมาก่อให้เกิดความเสียหาย โดยพวกเขาได้จ้างไกด์เถื่อนให้พาเข้าไปที่นั่น พร้อมกับเพื่อร่วมทางอีกสองคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ซึ่งพวกเขาสัญญากันก่อนไปว่าจะไปแค่ถ่ายรูปและสำรวจเพียงแค่แป๊บเดียวแล้วก็กลับ แต่ว่าหลังจากที่พวกเขาได้สำรวจเมืองร้างแห่งนี้ ก็ได้พบว่าตนเองกำลังถูกจับตามองจากใครบางคนที่ไม่ได้มีเพียงพวกเขาอยู่ที่นี่

                                    รูปที่ 4 Chernobyl Diaries (2012) เชอร์โนบิล เมืองร้าง มหันตภัยหลอน

        เปิดเรื่องด้วยการฉายถึงตัวละครหลักแต่ละคนที่กำลังเที่ยวพักผ่อน ก่อนเดินทางไปเชอร์โนบิล ซึ่งตลอดการเดินทางจนมาถึงสถานที่และเดินเที่ยวที่เชอร์โนบิล การใช้มุมกล้องในการถ่ายทำให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ที่กำลังเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกับตัวละครด้วย ซึ่งสถานที่ดูน่าสนใจรกร้างไร้ผู้คน พร้อมกับบรรยากาศที่ดูวังเวงน่ากลัวและตัวละครที่ดูน่าสงสัย ค่อย ๆ ลุ้นระทึกขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีเหตุให้ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้และมีคนหายตัวไป ซึ่งชวนติดตามลุ้นเอาใจช่วยตัวละครจนจบเรื่อง ยิ่งบางช่วงหนังเน้นบรรยากาศมืด ๆ หลอน ๆ ยิ่งดูน่ากลัวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ เรื่องหนังจะเน้นบรรยากาศมืด ๆ บวกกับสถานที่ที่เต็มไปด้วยสารกัมมันตภาพรังสีและใครบางคนที่แอบซ่อนอยู่ที่นี่ ดูแล้วทำให้รู้สึกอึดอัดกดดันตามไปด้วย และมีหักมุมบ้างช่วงท้าย ๆ เรื่อง

คะแนน 7.5/10

 

5. HUSK (2011) มิติสยอง 7 ป่าช้า ไร่ข้าวโพดโหดจิตหลอน

        ทั้งหมด 7 เรื่อง ว่าด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังขับรถไปเที่ยวนอกเมือง แต่ระหว่างทางดันมีอีกาฝูงหนึ่งบินมาชนหน้ารถเข้า ทำให้รถเสียหลักตกข้างทางที่เป็นไร่ข้าวโพด และเมื่อพวกเขาได้สติก็พบว่าเพื่อนคนหนึ่งได้หายตัวไป พร้อมกับพบว่ามีคนเดินเข้าไปในไร่ข้าวโพด ซึ่งพวกเขาคิดว่าคนผู้นั้นคงเป็นเพื่อนของเขา พวกเขาจึงเดินเข้าไปตามหาเพื่อน และก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นซากรถคันอื่น ๆ ที่ถูกอีกาบินชนเช่นกัน พร้อมกับหุ่นไล่กาที่ยืนอยู่กลางไร่ ซึ่งมีกลิ่นที่เหม็นมากและยังมีซากศพมนุษย์อีกด้วย และเมื่อพวกเขาเข้าไปในบ้านก็ได้พบเพื่อนของพวกเขาจริง แต่กลับดูแปลกไปเหมือนกับซากศพที่ไร้ชีวิต

                                        รูปที่ 5 HUSK (2011) มิติสยอง 7 ป่าช้า ไร่ข้าวโพดโหดจิตหลอน

        เปิดเรื่องมาก็เข้าเรื่องเลย ดำเนินเรื่องเร็วดี โดยฉายถึงตัวละครที่กำลังขับรถเดินทางท่องเที่ยวและมีเหตุให้ต้องเข้าไปในไร่ข้าวโพดและบ้านที่ดูรกร้างไร้ผู้คน มีแต่ซากรถซากศพและเพื่อนที่ดูไร้ชีวิต ยิ่งดูลึกลับน่าสงสัย ชวนติดตาม โดยหลังจากนี้หนังจะเน้นฉายในไร่ข้าวโพดและบ้านในไร่ข้าวโพดเป็นหลัก และฉายถึงบางสิ่งที่หลบอยู่ในไร่ข้าวโพดที่ตามไล่ล่าตัวละคร โดยช่วงแรกยังไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวอะไรมากนัก แต่จะค่อย ๆ เปิดเผยเรื่องราวทีละน้อยผ่านการมองเห็นจากตัวละครคนหนึ่งในกลุ่มในช่วงกลางเรื่อง ซึ่งพล็อตของหนังดูแปลกใหม่น่าสนใจดี ถึงแม้บางจุดจะพอเดาเรื่องได้บ้าง โดยหนังจะเน้นบรรยากาศมืด ๆ แทบทั้งเรื่อง และบางช่วงให้บรรยากาศหลอน ๆ ดี มีช่วงให้ลุ้นบ้างเป็นช่วง ๆ

คะแนน 7/10

 

6. THE HITCHER (2007) คนนรกโหดข้างทาง

        เป็นภาพยนตร์เชือดเฉือนอารมณ์จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่กำกับโดย เดฟ เมเยอรส์ และอำนวยการสร้างโดย ไมเคิล เบย์ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นรีเมคจากต้นฉบับในปี 1986 ว่าด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ได้เดินทางท่องเที่ยวช่วงปิดเทอม แต่ในระหว่างการเดินทางพวกเขาได้เจอคนแปลกหน้ายืนโบกรถอยู่หน้ารถ ทำให้รถเสียหลัก ซึ่งในตอนแรกผู้ชายก็คิดจะให้เขาขึ้นรถ แต่แฟนของเขาไม่เห็นด้วย แต่แล้วพวกเขาก็เจอชายแปลกหน้าคนนี้ที่ร้ายสะดวกซื้ออีกครั้ง พร้อมกับขอติดรถไปลงที่โรงแรมระหว่างทาง พวกเขาจึงยอมรับเขาขึ้นรถในที่สุด และการรับเขาขึ้นรถนี้ทำให้พวกเขาต้องถูกตามไล่ล่าไปตลอดทาง

                                                รูปที่ 6 THE HITCHER (2007) คนนรกโหดข้างทาง

        เปิดเรื่องด้วยการฉายตัวละครหลักก่อนเดินทางท่องเที่ยวและเจอคนแปลกหน้าจนได้รับขึ้นรถ ซึ่งดำเนินเรื่องเร็วดี โดยตลอดการเดินทางหนังจะให้บรรยากาศ ตัวละครที่ดูน่าสงสัยไม่น่าไว้วางใจ เดาเรื่องได้ไม่ยาก เนื่องจากหนังเปิดเผยตัวคนร้ายเร็วเกินไป แต่ก็มีช่วงให้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครตลอดทั้งเรื่อง ดูแล้วชวนระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าคนร้ายจะมาเมื่อไหร่และจะเล่นลูกไม้อะไรต่อไป ซึ่งในช่วงแรกตัวละครดูฉลาดดี แต่เมื่อดำเนินเรื่องไปสักพักกลับดูแล้วขัดใจตัวละครไปหน่อย ส่วนคนร้ายก็ฉลาดดีเชี่ยวชาญการเอาตัวรอดได้ดี แถมฉลาดกว่าตำรวจซะอีก

คะแนน 6.5/10

 

7. House of Wax (2005) บ้านหุ่นผี 

        เป็นภาพยนตร์ slasher ที่กำกับโดย Jaume Collet-Serra และเขียนโดย Charles Belden , Chad Hayes และ Carey Hayes ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่รีเมคมาจากหนังในชื่อเดียวกันของ ปี 1953 โดย Dark Castle ว่าด้วยเรื่องราวของเพื่อนหกคนที่ขับรถเพื่อเดินทางไปชมการแข่งขันชิงแชมป์ฟุตบอลมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี โดยก่อนที่จะไปพวกเขาตัดสินใจตั้งแคมป์กันก่อน และเมื่อพวกเขาตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นก็เตรียมออกเดินทางต่อ แต่ทว่ารถเกิดขับไม่ได้ อีกทั้งยังเจอซากศพอยู่บริเวณใกล้ ๆ แถมกล้องของพวกเขาคนหนึ่งก็ได้หายไป พอดีกับมีรถคันหนึ่งผ่านทางมาและได้แนะนำให้พวกเขาเข้าไปยังเมืองแถวนี้เพื่อไปเอาสายพาน พวกเขาจึงขอติดรถไปด้วยและได้ไปเจอกับบ้านหุ่นขี้ผึ้ง

                                                       รูปที่ 7 House of Wax (2005) บ้านหุ่นผี 

        เปิดเรื่องน่าสนใจดีด้วยภาพสีขาวดำ เพื่อบอกว่าคือภาพเหตุการณ์ในอดีตถึงที่มาที่ไปของเรื่องราว ก่อนตัดเข้าเรื่องในช่วงปัจจุบัน ฉายถึงตัวละครหลักแต่ละคนก่อนที่จะเดินทางและตั้งแคมป์กัน จากนั้นก็มีตัวละครคนอื่นโผล่มา ซึ่งดูน่าสงสัยหวาดระแวง บวกกับบรรยากาศ สถานที่ที่ดูลึกลับน่าสงสัย การสร้างหุ่นขี้ผึ้งและการใช้เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ดูเนียนสมจริง ซึ่งบางฉากก็สามารถหลอกคนดูได้ดี ถึงแม้จะพอเดาเรื่องได้ มีฉากให้ลุ้นให้เสียวกันบ้าง แต่บางจุดค่อนข้างขัดใจตัวละคร 

คะแนน 6.5/10

 

8. Autopsy (2008) โรงพยาบาลโหดโคตรอำมหิต

        เป็นภาพยนตร์สยองขวัญอเมริกันที่กำกับโดย Adam Gierasch ซึ่งเข้าฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2008 ในสหราชอาณาจักรในเทศกาลภาพยนตร์ London FrightFest และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน After Dark Horrorfest ของ Eight Films to Die For ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังขับรถกลับจากการเที่ยวพักผ่อน แต่แล้วระหว่างทางได้เกิดอุบัติเหตุขับรถชนคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งพวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน จากนั้นไม่นานรถพยาบาลก็ขับผ่านทางมาพอดี จึงรับคนเจ็บขึ้นรถพร้อมกับพาพวกเขาไปโรงพยาบาลด้วย จากนั้นพวกเขาก็ทยอยหายไปทีละคน

                                              รูปที่ 8 Autopsy (2008) โรงพยาบาลโหดโคตรอำมหิต

        เปิดเรื่องฉายถึงตัวละครหลักแต่ละคนที่กำลังเที่ยวพักผ่อนถ่ายรูปกันก่อนเดินทางกลับและเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นก็มีรถพยาบาลขับผ่านมาพอดี ซึ่งอะไรจะบังเอิญขนาดนั้น อีกทั้งตัวละครแต่ละคนในโรงพยาบาลที่มีหน้าตาดุดันน่ากลัว รวมทั้งพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ดูแล้วก็มองออกแต่แรกว่าไม่น่าใช่คนดีแน่นอน บวกกับโรงพยาบาลที่ดูน่าสงสัยไม่น่าไว้วางใจ มีผู้ป่วยคนอื่นนอกจากตัวละครหลักบ้าง แต่ตัวละครเหล่านั้นกลับแสดงอาการแปลก ๆ เหมือนคนไร้สติ ซึ่งทั้งหมดนี้ตัวละครหลักกลับไม่ได้เอะใจอะไรเลยและยอมทำตามแบบง่ายดายเกินไป ซึ่งจุดนี้ดูจะขัดใจตัวละครอยู่บ้างโดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ เรื่องบวกกับการตัดสินใจของตัวละครที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล ส่วนเนื้อเรื่องเดาเรื่องได้ง่ายไปหน่อย แต่ก็สามารถทำให้คนดูลุ้นติดตามเอาใจช่วยตัวละครตลอดทั้งเรื่องว่าในโรงพยาบาลแห่งนี้มีความลับอะไรซ่อนไว้กันแน่และตัวละครจะเอาชีวิตรอดออกไปได้ยังไง ซึ่งเมื่อเปิดเผยเรื่องราวในช่วงท้าย ๆ เรื่องถึงกับอึ้งไปเลย แต่บางจุดไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ สำหรับฉากโหดหนังได้ฉายให้เห็นชัด ๆ ไม่มียั้งแน่นอน

คะแนน 6.5/10

 

9. He’s Out There (2018) มันอยู่ข้างนอก

        เป็นภาพยนตร์สยองขวัญของอเมริกาที่กำกับโดย Quinn Lasher และเขียนโดย Mike Scannell ว่าด้วยเรื่องราวของแม่และลูกสาวสองคนที่มาพักผ่อนที่บ้านพักริมทะเลสาบในที่ห่างไกล และเมื่อมาถึงบ้าน ลูกสาวสองคนก็ออกไปเล่นชิงช้าข้างนอก แต่แล้วทั้งสองคนก็เห็นอะไรบางอย่างจึงพากันไปดู และเมื่อกลับมาก็ต้องแปลกใจเมื่อลูกสาวคนเล็กเริ่มมีอาการแปลก ๆ พร้อมทั้งมีข้อความบางอย่างกลับมากับเธอด้วย จากนั้นก็เหมือนมีคนอยู่ข้างนอกคอยก่อกวนพวกเธอ

                                                  รูปที่ 9 He’s Out There (2018) มันอยู่ข้างนอก

        เปิดเรื่องด้วยการเล่านิทานผ่านตัวละครที่เป็นเด็ก จากนั้นก็ฉายถึงตัวละครหลักที่กำลังเดินทางไปพักผ่อนที่บ้านพักริมทะเลสาบ ซึ่งระหว่างทางจนมาถึง สถานที่ดูเปลี่ยว ๆ วังเวงน่ากลัวดี โดยช่วงแรกจะมีพูดถึงเรื่องราวของสถานที่และผู้คนที่อาศัยอยู่แถวนี้บ้าง และค่อย ๆ เล่าเรื่องราวช่วงท้าย ๆ เรื่องอีกครั้งโดยผ่านการเล่าเรื่องจากคนร้าย ช่วงแรกยังไม่ค่อยมีอะไรจะเป็นการใช้ชีวิตพักผ่อนทั่วไป และค่อย ๆ ฉายถึงเด็กที่มีอาการแปลก ๆ ดูน่าสงสัยชวนติดตามดี จากนั้นก็ฉายถึงเรื่องราวก่อนที่จะมีอาการ ซึ่งค่อย ๆ ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเหมือนมีคนอยู่ข้างนอกกำลังแอบมองและก่อกวนพวกเธอให้กลัว ซึ่งช่วงหลัง ๆ จะเน้นบรรยากาศมืด ๆ หลอน ๆ ดี ชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครอยู่ตลอดเวลา ใช้ตัวละครน้อยแต่ไม่น่าเบื่อ บางจุดพอเดาเรื่องได้บ้าง มีขัดใจตัวละครบ้างเล็กน้อยและจบทิ้งท้ายเหมือนมีต่อ

คะแนน 7/10

 

10. Terror Trap (2010) โรงแรมเชือด…เช็คอินสยอง

        เป็นภาพยนตร์สยองขวัญอเมริกันที่เขียนและกำกับโดย Dan Garcia ว่าด้วยเรื่องราวของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่กำลังเดินทางไปเที่ยว แต่แล้วก็มีรถขับมาชน ทำให้รถเสียขับไปต่อไม่ได้ จึงได้แจ้งตำรวจและได้ถูกตำรวจแนะนำให้ไปพักที่โรงแรมใกล้ ๆ จนรุ่งเช้าถึงจะมีรถมาลาก แต่เมื่อได้ไปถึงโรงแรมก็พบว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อของที่นั่น

                                           รูปที่ 10 Terror Trap (2010) โรงแรมเชือด…เช็คอินสยอง

        ดำเนินเรื่องเรื่อย ๆ โดยช่วงแรกจะฉายเหยื่อรายก่อนหน้าตัวละครหลักก่อนที่จะฉายตัวละครหลัก ซึ่งบรรยากาศ สถานที่ ตัวละครดูน่าสงสัย โดยเฉพาะเมื่อมาถึงโรงแรมยิ่งให้บรรยากาศที่ดูน่าสงสัยมากขึ้น จากนั้นก็ค่อย ๆ ชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครขึ้นเรื่อย ๆ ตัวร้ายเยอะดี มีฉากโหดบ้าง มีช่วงที่น่าเบื่อบ้าง มีขัดใจตัวละครบ้างเล็กน้อย แต่ตัวละครมีโต้กลับบ้าง หลาย ๆ จุดคล้าย ๆ เรื่อง VACANCY (2007) ห้องว่างให้เชือด สำหรับใครที่เคยดูมาแล้ว จึงทำให้เดาเรื่องได้ไม่ยาก

คะแนน 6/10

 

11. Joy Ride

11.1 Joy Ride 2 Dead Ahead (2008) เกมหยอกหลอกไปเชือด ภาค 2

        เป็นภาพยนตร์สยองขวัญอเมริกัน ซึ่งเป็นภาคต่อของ Joy Ride ที่กำกับโดย Louis Morneau โดยมีทั้งหมด 3 ภาค ซึ่งผู้เขียนชอบสองภาคหลัง จึงขอยกมาแค่สองภาคหลัง

        ว่าด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นสี่คนที่ขับรถไปเที่ยวเวกัสด้วยเส้นทางขนานกับเส้นทางหลวง แต่ในระหว่างที่เดินทางอยู่นั้น รถเกิดเสียกระทันหัน พวกเขาจึงจอดรถทิ้งไว้แล้วเดินไปขอความช่วยเหลือ จนได้มาเจอกับบ้านกลังหนึ่งที่ซึ่งไม่มีคนอยู่อาศัยอยู่และมีรถจอดทิ้งไว้ พวกเขาจึงขอยืมรถไปใช้ก่อนแล้วค่อยเอามาคืน โดยได้ทิ้งเบอร์โทรไว้ก่อนไปให้เจ้าของบ้านไว้ติดต่อ จากนั้นพวกเขาก็ถูกโทรมาก่อกวนให้เล่นเกม เพื่อแลกกับความปลอดภัยของใครบางคน ทำให้พวกเขาต้องตกลงเล่นเกมตามที่เขาต้องการ

                                 รูปที่ 11 Joy Ride 2 Dead Ahead (2008) เกมหยอกหลอกไปเชือด ภาค 2

        ดำเนินเรื่องไม่ต่อเนื่องกับภาคแรกเปลี่ยนตัวละครใหม่หมด แต่ให้บรรยากาศและอะไรหลาย ๆ อย่างคล้ายภาคแรก และดำเนินเรื่องเร็วกว่า น่าสนใจกว่า ฉากฆ่าโหดกว่า เน้นไปทางการเล่นเกมมากกว่า ซึ่งตรงประเด็นที่หนังต้องการสื่อ โดยเปิดเรื่องก็จัดฉากโหดเลย แต่เดาเรื่องได้ไม่ยาก จากนั้นก็ตัดเข้าเรื่องฉายถึงตัวละครหลักที่กำลังเดินทางและเกิดรถเสีย จึงได้เดินไปขอความช่วยเหลือ จนได้มาเจอบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเหมือนบ้านร้างที่ไม่มีคนอยู่มานาน จากนั้นก็ได้มาเจอบ้านอีกหลังพร้อมกับรถ ซึ่งบ้านทั้งสองหลังดูลึกลับน่าสนใจดี จากนั้นก็เป็นการเล่นเกมตามที่คนร้ายต้องการ ซึ่งดูแล้วอึดอัดกดดัน สงสารตัวละคร ชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครไปกับการเล่นเกมตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็มีช่วงที่ตลกทำให้ยิ้มและหัวเราะบ้าง ตัวละครยังพอฉลาด แต่ก็มีจุดที่มาในรูปแบบเดิม ๆ อยู่เล็กน้อย ส่วนคนร้ายก็ฉลาดดี โดยหนังจะไม่ฉายให้เห็นหน้าคนร้ายชัด ๆ ซึ่งบางจุดพอเดาเรื่องได้บ้างและมีเดาผิดบ้าง มีฉากโหดบ้าง มีจุดที่ไม่สมเหตุสมผลบ้าง จบทิ้งท้ายต่อภาคสาม

คะแนน 7/10

 

11.2 Joy Ride 3 Roadkill (2014) เกมหยอก หลอกไปเชือด 3 ถนนสายเลือด

        เป็นภาพยนตร์สยองขวัญอเมริกันภาคที่สามที่เขียนและกำกับโดย Declan O'Brien ว่าด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังไปแข่งรถ โดบต้องการใช้เส้นทางที่มีชื่อว่าถนนสายเชือด ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีคนตายหายสาปสูญและขนส่งยาเสพติดมากที่สุด ทั้ง ๆ ที่มีคนเตือนพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงยืนยันที่จะไป และเมื่อขับไปได้สักพักพวกเขาดันไปหาเรื่องรถบรรทุกคันหนึ่งเข้า หลังจากนั้นเจ้าของรถบรรทุกคันนี้ก็โทรมาก่อกวนและไล่ตามพวกเขาตลอดทาง

           รูปที่ 12 Joy Ride 3 Roadkill (2014) เกมหยอก หลอกไปเชือด 3 ถนนสายเลือด

        ดำเนินเรื่องต่อเนื่องจากภาคก่อนหน้า เปิดเรื่องให้บรรยากาศเหมือนภาคแรก ซึ่งเปิดมาก็ให้เล่นเกมเลย โดยจะฉายเหยื่อรายอื่นก่อนตัดเข้าเรื่องฉายตัวละครหลักแต่ละคน ซึ่งตัวละครหลักเปลี่ยนใหม่หมดเช่นกันและใช้เยอะขึ้น โดยช่วงแรกมีช่วงที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะบ้าง และบางช่วงที่ให้บรรยากาศเหมือนภาคสอง ซึ่งเป็นการจับเอาสองภาคมารวมกันได้ดี มาแนวคล้าย ๆ กัน เน้นฉายบนถนนเป็นหลัก ยังคงมีหักมุมหลอกคนดูบ้าง ดูแล้วชวนหวาดระแวงฆาตกรตลอดทั้งเรื่อง แต่ยังจบได้ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากยังคงจบทิ้งท้ายเหมือนมีต่อ โดยยังคงใช้รถบรรทุกคันเดิม ฆาตกรคนเดิม แต่ภาคนี้จะฉายให้เห็นหน้าฆาตกรชัดเจนขึ้น ฉากฆ่าที่โหดขึ้นเสียวขึ้น โดยภาคนี้ไม่ได้เน้นไปที่การเล่นเกมมาก แต่จะเน้นไปที่การแลกเปลี่ยนตัวประกันและการทรมานเหยื่อให้ตายมากกว่า ซึ่งถือว่าทำได้โหดดี บางฉากดูลงทุนมากขึ้น มีช่วงให้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย แต่ก็มีบางจุดที่พอเดาเรื่องได้บ้าง ซึ่งเป็นจุดที่หนังค่อนข้างเน้นพอสมควร และเลือดที่ดูจะไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่

คะแนน 7/10

 

ฝากกดติดตามเพจ กดไลค์ กดแชร์ พูดคุย อ่านผลงานเรื่องอื่นๆกันด้วยน้า

เพจหนังระทึกขวัญสยองขวัญ https://www.blockdit.com/pages/5ebd6351770d8d1544111ce3

และ

https://page.postjung.com/phatisuk

บทความเรื่องต่าง ๆ https://creators.trueid.net/@30139

กลุ่มหนังระทึกขวัญสยองขวัญ https://www.facebook.com/groups/2981826255200637/?ref=bookmarks

 

ขอบคุณภาพจาก Facebook รูปที่ 1 / รูปที่ 7

ขอบคุณภาพจาก IMDb รูปที่ 2 / รูปที่ 3 / รูปที่ 5 / รูปที่ 6 / รูปที่ 8 / รูปที่ 9 / รูปที่ 10 / รูปที่ 11

ขอบคุณภาพจาก warnerbros รูปที่ 4

ขอบคุณภาพจาก 20thcenturystudios รูปที่ 12