สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี
สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี หรือ ที่ชาววังออกพระนามว่า “เสด็จพระนาง” เป็นพระมเหสีชั้นลูกหลวงตำแหน่งพระราชเทวีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
พระองค์ เป็นพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ ๕๒ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ และเป็นลำดับที่ ๓ ซึ่งประสูติแต่เจ้าคุณจอมมารดาสำลี (สกุลเดิมบุนนาค) ประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๐๔ เมื่อแรกประสูติ ในฐานะพระราชธิดาที่ประสูติจากเจ้าจอมมารดา จึงทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี” และทรงร่วมเจ้าจอมมารดากับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุษบงเบิกบาน และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้านภาพรประภา กรมหลวงทิพยรัตนกิริฎกุลินี
เมื่อผลัดแผ่นดินมาสูู่ รัชกาลที่ ๗
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ พระองค์ทรงรำลึกถึงพระคุณอันประเสริฐที่พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี มีต่อพระองค์ จึงทรงเฉลิมพระอิสริยยศขึ้นเป็น “สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี”
ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ประมาณสิบวัน พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์พระคาถาพระราชทานพระพรให้แก่กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ความตอนหนึ่งว่า
“...ไม่น่าเชื่อว่าจะมีชีวิตอยู่จนได้ถวายพระพรเธอในปีนี้...”
สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี เสด็จสิ้นพระชนม์ ด้วยพระโรคพระปับผาสะพิการ ในรัชกาลที่ ๗ เมื่อวันเสาร์ ที่ ๙ กรกฎาคม ๒๔๗๐ ณ ตำหนักสมเด็จ วังบางขุนพรหม พระชนมายุ ๖๖ พรรษา
พระศพอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระเกียรติยศถวายไว้อาลัย ๑๐๐ วันเป็นกรณีพิเศษ พระเมรุ นั้นกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเป็นผู้อำนวยการสร้าง
งานพระราชทานเพลิงพระศพจัดขึ้นในปี ๒๔๗๑ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธาน ณ พระเมรุท้องสนามหลวง