10 ของกินข้างทาง ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเกาหลี
พูดถึงเรื่องของกิน ทุกคนคงจะสนใจกันอย่างแน่นอน ยิ่งหากว่าคุณเป็นคนชอบกิน ชอบชิม แบบมินแล้วล่ะก็ เรื่องราวที่มินนำมาฝากกันในวันนี้ น่าจะถูกอกถูกใจขากินกันเป็นพิเศษ ก็แหม...ไปเที่ยวเกาหลีทั้งที จะกินแต่อาหารในร้านอาหารได้อย่างไร ในเมื่ออาหารและขนมที่มีขายตามข้างทาง ก็เยอะแยะมากมายแถมน่าลองไปเสียหมด หาซื้อง่ายเพราะมีขายทุกย่านโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว มาดูกันค่ะว่า 10 ของกินข้างทาง ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเกาหลี นอกเหนือไปจากต็อกบกกี โอเด้ง และของทอดแล้วนั้น มีอะไรอีกบ้างค่ะ
เริ่มกันที่ของคาวกันก่อนเลย
1.Hot Dog (핫도그) นี่คือเมนูแรกที่มินอยากจะแนะนำ มันคือฮ็อตด็อกที่ชุบเกล็ดขนมปังทอด กินกับซอสมะเขือเทศ (ที่เกาหลีจะเรียกทับศัพท์เลยว่า ketchup) ที่มินเจอมาจะมีสองแบบคือ ชุบเกล็ดขนมปังอย่างเดียว กับแบบมีมันฝรั่งแท่งด้วย ก็อร่อยทั้งสองแบบค่ะ แต่ไส้กรอกด้านในจะธรรมดา ประมาณว่าใช้ไส้กรอกถูกๆ หน่อย แต่แป้งด้านนอกกับขนมปัง ก็ทำให้ฟินดีนะคะ กินเล่นๆ แต่อิ่มจริง ราคาไม้ละ 2000-3000 วอน
แบบมีมันฝรั่ง เจอที่จินแฮ
2.Sausage (소시지) มากันที่ไส้กรอกแบบธรรมดากันบ้าง ต้องบอกว่าถ้าเป็นไส้กรอกล้วนๆ แบบนี้แล้วนั้น ไม่ว่าจะกินที่ไหน ย่านไหน ก็อร่อยไปทุกที่เลยล่ะค่ะ ไส้กรอกที่เกาหลีเขาอร่อยดีนะคะมินว่า ไม่ว่าจะในร้านสะดวกซื้อ หรือในเมนูในร้านอาหาร ส่วนแบบข้างทางโดยเฉพาะที่ฮงแดตอนกลางคืนนั้น อร่อยเป็นพิเศษเลย จะกินแบบรสธรรมดาไม่เผ็ด หรือแบบเผ็ดสไปซี่สุดๆ ก็ได้ ราคาไม้ละ 2000 วอนค่ะ
ไส้กรอกที่ฮงแดอร่อยสุดๆ
3.ต็อกคัลบี (떡갈비) เมนูนี้ เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของอาหารข้างทางที่มยองดงค่ะ เพราะมีหลายร้านมากๆ และก็มีคนมุงซื้อมากมาย แต่ก็ใช่ว่าหากินที่นี่ได้ที่เดียวนะคะ เพราะมินเจอที่ฮงแดด้วยเช่นกัน มันคือแป้งต็อกเสียบไม้กับไส้กรอกแล้วย่าง ใช่แล้วค่ะ มันมีไส้กรอกอีกแล้ว >.< แต่มันอร่อยมากๆ ตรงแป้งต็อกนี่แหละ พอมันเอาไปย่างแล้วกินคู่กับไส้กรอกที่ปรุงรสมาแล้วนั้น แหม....อร่อยลืมโลกเลยค่ะ อร่อยจนมินก็ไปมยองดงหลายรอบ เพื่อสิ่งนี้! เพราะติดใจจริงๆ ค่ะ ราคาก็ 3000 วอน ค่อนข้างแพงนิดนึง (เกือบร้อยบาท!)
4.ทัคโกกิ (닭고기) เผื่อใครเบื่อไส้กรอกแล้ว หรือกินหมูไม่ได้ ก็อย่าน้อยใจไปค่ะ ลองเมนูนี้บ้างเป็นไง ไก่ย่างบาร์บีคิวนั่นเอง เมนูนี้มินขอยกให้เป็นเมนูข้างทาง (ของคาว) อันดับ 1 ในใจเลยล่ะ เพราะส่วนตัวชอบกินไก่มากๆ อยู่แล้ว พอมาเจอเนื้อไก่ตรงส่วนสะโพกติดหนัง ปรุงรส แล้วย่างหอมๆ พอสุกแล้วก็โรยเกลือเป็นแบบธรรมดา หรือจะราดซอสบาร์บีคิวเป็นแบบเผ็ดหรือแบบหวาน กินแกล้มกับต้นหอมที่ย่างคู่กันก็ฟินนนนน ไม่ต่างกันเลย มินตระเวณกินเมนูนี้หลายย่านมากๆ ค่ะ เรียกได้ว่าไปย่านไหน หรือเดินอยู่ที่ไหนแล้วเจอ เป็นอันต้องหยุดแวะซื้อกินทุกที (อดใจไม่ไหว 55555) บางร้านก็รสชาติกลางๆ ค่ะ คือไม่ดีไม่แย่ แต่บางร้านนี่หมักเนื้อไก่ได้เด็ดมากๆ อร่อยนุ่มสุดยอดดดดด ยิ่งเจอกับซอสสูตรเฉพาะของร้านด้วยแล้วอร่อยเหาะไปเลย (คงอารมณ์แบบร้านขายลูกชิ้นปิ้งบ้านเรา ที่มีทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้ม) อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหน ต้องไปลองกันเองแล้วล่ะ ส่วนราคาก็ไม้ละ 2000-2500 วอน
แบบโรยเกลือ
แบบราดซอสบาร์บีคิว
5.คเยรันปัง (계란빵) ย้ายมาดูกันที่ขนมกันบ้าง ขนมปังไข่อันนี้ หากินได้ทั่วไปเลยค่ะ มีขายตลอดข้างทางทุกย่านเลย เราจะพบเจอร้านรถเข็นเล็กๆ ที่ขายขนมปังไข่มากมาย หากินง่ายมากๆ และแนะนำแรงๆ ว่า ต้องลอง! เพราะมันอร่อยมากจริงๆ ค่ะ เป็นขนมสุดโปรดของมินกับเพื่อนเลย ไปเกาหลีทีไร กินกันแทบทุกวัน ขนมปังไข่จะมีสองแบบค่ะ คือแบบที่ไข่ด้านในสุกจนเป็นไข่ต้ม กับแบบที่เป็นไข่ดาว มินชอบแบบไข่ดาวมากกว่าค่ะ เพราะชอบกินไข่แดงไม่สุก แถมกินแล้วไม่ฝืดคอแบบไข่ต้มด้วยล่ะ ราคาเท่ากัน อันละ 1000 วอน
แบบด้านในเป็นไข่ต้ม
แบบด้านในเป็นไข่ดาว
6.บุงงอปัง (붕어빵), ตงปัง (똥빵) ทั้งสองอย่างนี้เหมือนกัน เพราะมันคือ ขนมปังไส้ถั่วแดงค่ะ แบบดั้งเดิมก็คือบุงงอปังที่มีรูปร่างเป็นปลา (บุงงอ แปลว่าปลาตะเพียน) แบบนี้หากินได้ทั่วไปเลยล่ะ แถมบางร้านมีแบบไส้ครีมคัสตาร์ดด้วย ส่วนอีกแบบคือตงปัง ที่มีรูปเป็นอุนจิสุดเก๋ (ตง แปลว่า อุนจิ) ตงปังนั้นมินไม่เคยเจอขายอยู่ที่ไหนนอกจากที่ตึกซัมชีกิล อินซาดง ร้านยอดนิยมที่ใครไปใครมาต้องแวะซื้อนั่นแหละค่ะ สำหรับบุงงอปังนั้น ปัจจุบันตามร้านรถเข็นจะไม่ค่อยมีแบบตัวใหญ่ๆ ขายแล้ว แต่จะออกลูกหลานเป็นปลาตะเพียนตัวเล็กแทน และมักจะขายในราคา 3 ตัว 1000 วอน ส่วนตงปังก็ขายชิ้นละ 1000 วอนค่ะ สำหรับขนมชนิดนี้ มินแนะนำว่าให้กินทันทีเลยนะ เพราะถ้ามันเย็นชืดไม่ร้อนแล้ว มันจะไม่อร่อยอย่างแรง บุงงอปังนั้น รสชาติแล้วแต่ร้านค่ะ บางร้านก็ดี บางร้านก็แย่ ส่วนตงปังบอกตรงๆ เลยว่า ไม่อร่อยเลยยย (แอบผิดหวัง) แต่ถ้าอยากลองเพราะรูปลักษณ์แสนเก๋ ก็ไปลองกันค่ะ เพราะราคาไม่แพง ถ้าไม่อร่อยถูกปาก ก็ไม่เสียดายตังเท่าไหร่เนอะ
7.โฮต็อก (호떡) ขนมพื้นเมืองของเกาหลี ทำจากแป้งเหมือนแพนเค้ก ข้างในเป็นไส้หวานๆ เป็นการผสมกันของน้ำตาล น้ำผึ้ง ถั่วลิสง และอบเชย ทอดบนกระทะแบนๆ มีสองแบบด้วยกัน แบบแรกจะเป็นแป้งแผ่นบางกรอบซึ่งแบบนี้ดั้งเดิมมาจากประเทศจีนค่ะ เพื่อนเกาหลีมินบอกว่าแบบนี้เขาเรียกว่าโฮต็อกแบบไชนีสสไตล์ ส่วนอีกแบบเป็นแป้งหนาๆ นุ่มๆ เคี้ยวได้สัมผัสกว่า แบบนี้คือ โคเรียนสไตล์ หรือโฮต็อกแบบเกาหลีแท้ค่ะ สำหรับมินน่ะเหรอ ชอบทั้งสองแบบเลยค่ะ ^^ ส่วนราคาถ้าในโซลก็ชิ้นละ 1000 วอน ส่วนที่ปูซานมินเจอแบบไชนีสสไตล์ 500 วอนเท่านั้นเอง
โฮต็อกแบบไชนีสสไตล์ที่ปูซาน
โฮต็อกแบบโคเรียนสไตล์
8.Waffle (와플) อีกหนึ่งขนมที่ไม่เอ่ยถึงก็คงจะไม่ได้ หากคุณมาเที่ยวเกาหลี แล้วไม่ได้ลิ้มลองขนมสุดฮิตอย่างวาฟเฟิลแล้วล่ะก็ แปลว่าคุณมาไม่ถึงแล้วล่ะ! เพราะวาฟเฟิลที่เกาหลีมีขายมากมาย และมีทั้งแบบอเมริกันวาฟเฟิล และเบลเยี่ยมวาฟเฟิล แต่ถ้าเป็นขนมข้างทางแล้วล่ะก็ เราจะเจอแต่อเมริกันวาฟเฟิลเท่านั้น ส่วนเบลเยี่ยมวาฟเฟิลหากินได้ตามร้านขนมและร้านกาแฟทั่วไปค่ะ ซึ่งวาฟเฟิลนี้หาซื้อได้ง่ายมากแม้แต่ในสถานีรถไฟใต้ดินก็มี ราคาแล้วแต่ร้านจะอยู่ที่ 1000-1500 วอน และมีแบบใส่ไอศกรีม กับแบบใส่วิปครีมราดด้วยไซรัป มินลองทั้งสองแบบ ชอบทั้งสองแบบเลยค่ะ แม้ว่าจะเป็นวาฟเฟิลที่แป้งธรรมดา คงเทียบไม่ได้กับในร้านกาแฟที่ราคาแพงกว่ามาก (จานนึงไม่ต่ำกว่า 5000 วอน) แต่ก็กินได้เพลินๆ แถมถูกดีด้วย มินจะชอบร้านประจำที่ฮงแดเป็นพิเศษ (ร้านอยู่ตรงข้ามประตูม.ฮงงิก) เพราะอร่อยและถูกกว่าที่อื่น คือ 1000 วอนเท่านั้น ขายมาหลายปีไม่เคยขึ้นราคาเลยค่ะ ไปกี่ครั้งๆ ก็ยัง 1000 วอนอยู่ดี แต่คนจะซื้อกินเยอะมาก ถ้าอยากไปลองต้องไปตอนเย็นๆ ค่ำๆ เท่านั้นนะ เพราะร้านยังไม่เปิดค่ะ
วาฟเฟิลไอติมที่ฮงแด
วาฟเฟิลวิปครีม
9.มันฝรั่งเกลียว (키다리 감자) นี่คือเมนูของกินเล่นข้างทางที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของมยองดง (รองจากไอศกรีมยาวๆ) ต้องบอกว่ามันไม่ใช่มันฝรั่งทอดอย่างที่เราคุ้นเคย แต่มันมีรสชาติที่ล้ำลึกกินแล้วติดใจจริงๆ ขนาดที่ไทยเราก็มีคนทำขายมากมาย แต่กินยังไงก็ไม่ฟินไม่อร่อยเท่าที่เกาหลี และมินไม่เคยพลาดสิ่งนี้ทุกครั้งที่มามยองดงค่ะ แม้ว่าที่ฮงแดก็จะมีขายก็ตาม แต่แอบติดใจร้านคุณลุงคุณป้าที่มยองดง หน้าร้านคอนเวิร์สซะอย่างนั้น มันฝรั่งสดๆ นำมาทอดกรอบแล้วโรยผงชีส จุดขายอยู่ที่การพันเป็นเกลียวสูงๆ แต่จุดเด่นอยู่ที่รสชาติจริงๆ อันนี้คอนเฟิร์ม แต่ถ้าใครไปซื้อกินช่วงหน้าหนาวหรืออากาศเย็นๆ ต้องรีบกินหน่อยนะคะ เพราะถ้ายืนหรือเดินกินนานๆ มันโต้ลมหนาวแล้วมันฝรั่งจะนิ่มเร็วไม่กรอบอร่อย แนะนำให้กินกับเพื่อนแล้วแย่งกันฉีกกินค่ะ อิอิ ราคาก็ไม้ละ 2000 วอน
10.ผลไม้เสียบไม้ เดินกินของคาวของหวานมาตลอดทางแล้ว ตบท้ายด้วยผลไม้สดๆ หวานๆ ล้างปากกันหน่อยดีมั้ยคะ เมล่อน (멜론) และ แตงโม (수박) เสียบไม้ ที่ตลาดนัมแดมุน (ไม่เคยเห็นมีขายที่อื่นเหมือนกันนะ) นี่คือของอร่อยที่มินต้องกลับไปกินทุกครั้งที่ไป เพราะผลไม้มันสดและหวานดีจริงๆ คุณป้าคนขายจะปอกผลไม้แล้วเสียบไม้วางขายเดี๋ยวนั้นเลย เมล่อนหอมหวานอร่อย กัดทีน้ำกระจาย ชุ่มฉ่ำมากๆ ส่วนแตงโมพอได้ลองแล้วลืมแตงโมบ้านเราไปเสียสิ้น เพราะมันหวานอร่อยกว่ามาก เนื้อสัมผัสต่างกัน แม้ว่าสีจะดูจืดชืดกว่า แต่รสชาติหวานได้ใจดีจริงๆ เลยค่ะ และยังมีสับปะรดเสียบไม้ด้วยนะ แต่มินไม่เคยลอง ไว้ครั้งหน้าจะไปลองดูบ้าง ส่วนราคาเมล่อน 1500 วอน แตงโม 1000 วอนค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของของกินเล่นข้างทางที่มินเลือกมาแนะนำกันเท่านั้นนะคะ ความจริงแล้วยังมีอีกหลายอย่าง แต่มินเลือกที่ชอบและคิดว่าอร่อยมาฝากกัน เผื่อใครจะไปลองกินกันบ้าง หรือใครเคยลองแล้ว มาแบ่งปันกันหน่อยนะคะ ว่าคุณล่ะ ชอบอะไร ^^