ญี่ปุ่นแบน! ห้ามใช้มือถือขณะเดิน หรืออยู่ในที่สาธารณะ มุ่งลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ยิ่งนับวันพฤติกรรมการเสพติดมือถือของคนในปัจจุบันนี้ ก็เริ่มยิ่งน่ากลัวขึ้นมากเรื่อยๆ คนส่วนใหญ่ใช้มือถือจนเป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย ตั้งแต่ตื่นนอนมาก็รีบคว้ามือถือทันที ตลอดทั้งวันก็ใจจดใจจ่ออยู่กับมือถือทั้งวัน แม้กระทั่งเวลากิน เดิน และก็นอนหลับไปพร้อมกับมือถือที่ยังคาอยู่ในมือ จนมีชื่อเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่าเป็นอาการ “โมโนโฟเบีย” ขึ้นมา
แต่พฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือการใช้มือถือขณะที่เดิน หรืออยู่ในที่สาธารณะ หรือแม้กระทั่งตอนที่ขับรถอยู่ เพราะเป็นพฤติกรรมที่อันตรายมากต่อทั้งตัวผู้ใช้เอง และคนที่อยู่รอบข้างด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยคาลการี ประเทศแคนาดา เผยผลวิจัยว่า การใช้โทรศัพท์มือถือเป็นหนึ่งในสาเหตที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากขึ้น และยังเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คนขณะที่กำลังเดินข้ามถนนหรือสังเกตสัญญาณเตือนอุบัติเหตุรอบกายอีกด้วย
บวกกับเมื่อปีพ.ศ.2557 NTT Docomo บริษัทโทรคมนาคมญี่ปุ่น ได้จำลองสถานการณ์ประชาชน 1,500 คน กำลังก้มหน้าใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างเดินข้ามถนน พบว่า 2 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้เดินชนสิ่งต่าง ๆ และมี 103 คนที่เดินชนกันจนล้มลง และ 21 คนประสบอุบัติเหตุโทรศัพท์ร่วงลงพื้น
ล่าสุดทาง เมืองยามาโตะ จังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศเทศบัญญัติ ห้ามประชาชนใช้มือถือขณะเดินถนน หรือตามพื้นที่สาธาณะโดยเด็ดขาด เพื่อลดอุบัติเหตุจากการก้มหน้าใช้มือถือจนไม่ระวังตัว ซึ่งเทศบัญญัติดังกล่าวได้ผ่านร่างกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม เทศบัญญัติห้ามใช้โทรศัพท์ระหว่างเดินนั้น ไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนแต่อย่างใด แต่คาดว่านี่น่าจะทำให้คนญี่ปุ่นตระหนักในอันตรายจากการก้มหน้าก้มตาใช้มือถือโดยไม่เงยหน้ามองทางเดินได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์กันว่า เทศบัญญัตินี้น่าจะขยายผลต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในญี่ปุ่นอีกด้วย