พระพยอม ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย ระบุเอกสารเจ้าของที่ดินพิพาทไม่มีอำนาจบังคับตามกฎหมาย จึงจะต้องรอคำสั่งศาลที่ชัดเจนจึงจะเริ่มเคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่
พระพยอม ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย ระบุเอกสารเจ้าของที่ดินพิพาทไม่มีอำนาจบังคับตามกฎหมาย จึงจะต้องรอคำสั่งศาลที่ชัดเจนจึงจะเริ่มเคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่
พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า ก็ต้องยอมรับในคำตัดสินของศาลที่ออกมาแล้ว แต่ทั้งนี้ในส่วนของข้อมูลหรือเอกสารที่ทนายความ และเจ้าของที่ดินที่มีข้อพิพาท ได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายหลายท่าน เช่น อาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม และอาจารย์สมบัติ วงศ์กำแหง โดยระบุว่าเอกสารที่ทางวัดได้มาแล้วระบุว่าให้ออกจากพื้นที่พิพาทภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ เป็นเพียงใบสนเท่ห์ หรือเอกสารข่มขู่ ที่ต้องการให้ออกจากพื้นที่เท่านั้น ซึ่งในทางกฎหมายแล้วหากยังไม่มีหมายศาล หรือหมายบังคับคดีที่ระบุระยะเวลาให้ออกจากพื้นที่แน่นอนก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบย้ายออกจากพื้นที่นั้นแต่อย่างใด ซึ่งอาจจะยังไม่ต้องให้ลูกจ้างที่อาศัยในพื้นที่นั้นออกมาในช่วงนี้ให้อยู่ไปก่อนจนกว่าจะมีคำสั่งศาลที่ชัดเจนมาสั่งอีกครั้ง
.
พระพยอม กล่าวอีกว่า ไม่รู้ว่าเจ้าของพื้นที่ใจร้อน หรือใจร้าย ที่จะเร่งให้ออกจากพื้นที่เร็วขนาดนี้ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเมื่อวัดซื้อมา ได้ใช้เวลาพัฒนากว่า 2 ปี 7 เดือน แต่กลับจะมาขอมาไล่ให้ออกภายในเดือนเดียว น่าจะเห็นใจให้วัดได้ใช้ประโยชน์คุ้มกับเงิน 10 ล้านบาท ที่เสียไปก็ยังดี สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนเป็นตัวอย่างให้ทุกคนต้องมีความรอบคอบ ตรวจสอบสิ่งต่างๆให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ ให้สังคม ให้คนที่ฉ้อฉลมีกลโกงได้เกรงกลัวต่อความผิด โดยแม้กฎหมายจะไม่สามารถให้ความเป็นธรรมกับทุกคนได้ แต่เชื่อว่ากฎแห่งกรรมจะทำหน้าที่ของตัวเองได้ เขาชนะคดี แต่เขาไม่ชนะใจประชาชน ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ เช้านี้บิณฑบาตรก็ได้รับกำลังจากชาวบ้าน แต่อาจต้องทำความเข้าใจกับทุกคนว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของวัดสวนแก้วกว่า 210 ไร่ ยังอยู่ไม่ได้ถูกยึดไป มีเพียงแค่ที่ผืนเดียว 1 ไร่ ที่มีปัญหาเท่านั้น พื้นที่ทั้งหมดยังสามารถสร้างประโยชน์ สร้างงานให้กับคนที่เดือดร้อนได้มีที่อยู่ มีงาน มีอาชีพได้อีกมาก
.
ขณะที่ประชาชนที่เดินทางมากราบนมัสการ เที่ยวชมวัด ต่างเห็นใจเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ซึ่งวัดได้สร้างประโยชน์อย่างมากให้กับชุมชน ให้กับประชาชนที่ทั้งมาทำบุญ และที่เดือดร้อนจากที่ต่างๆได้มีที่พักพิง ซึ่งกรณีจะเป็นตัวอย่างเป็นข้อเตือนใจให้ทุกคนระวังในการธุรกรรมต่างๆ ต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ต้องให้ความรู้ และให้ความเป็นธรรมกับประชาชนอย่างเท่าเทียม
https://www.facebook.com/tnamcot/posts/2876839112420209















