12ทริค เอาชนะเจ้า"ความขี้เกียจ"
ความขี้เกียจคือความต้องการตามธรรมชาติในการที่จะเถลไถล, อยู่นิ่งๆ, เซฟพลังงานไว้, ผัดวันประกันพรุ่งไปก่อน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราที่จะมีความรู้สึกขี้เกียจ อยากพักบ้าง หลังจากที่ต้องตรากตรำงานหนัก หรือหลังจากการนอนพักผ่อนบนเตียงนุ่มๆผ้าห่มหนาๆในหน้าหนาว อย่างไรก็ตามถ้าเราปล่อยเลยตามเลย อาจทำให้ความขี้เกียจเข้าครอบงำชีวิตของเราได้ในที่สุด ดังนั้นเพื่อดูแลชีวิตของเราให้สามารถดำเนินไปได้อย่างเป็นปกติโดยไม่มีเจ้าความขี้เกียจนี้เข้ามาเป็นอุปสรรคในการประสบความสำเร็จ เราต้องหมั่นฝึกฝนที่จะเอาชนะเจ้าความขี้เกียจอยู่เสมอ
เทคนิคในการเอาชนะความขี้เกียจ
- แบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อย
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถก้าวผ่านอุปสรรคไปได้ก็เพราะอุปสรรคนั้นมีขนาดใหญ่ ทำให้สูญเสียกำลังใจ หรือสับได้ระหว่างทาง ดังนั้นการแบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อย แล้วค่อยๆเอาชนะที่ละปัญหาจึงเป็นวิธีการที่ถูกต้องในการเอาชนะอุปสรรคใหญ่ๆ
- พักผ่อน นอนหลับ และออกกำลังกายให้เพียงพอ
เนื่องจากในบางกรณี การที่เรามีร่างกายที่ไม่พร้อม ก็ส่งผลต่อจิตใจให้รู้สึกห่อเหี่ยว หมดกำลังตามไปด้วย ดังนั้นการพักผ่อน นอนหลับ และการออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยรักษาสมดุลร่างกายและจิตใจได้ และทำให้เราพร้อมต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมายอยุ่ตลอดเวลา
- แรงบัลดาลใจ
ข้อนี้ใครหลายๆคนคงเห็นด้วยอย่างชัดเจน เพราะในปัจจุบันที่ทุกสาขาอาชีพต่างต้องเผชิญกับความกดดันและการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ผู้คนต้องการแรงบันดาลใจในการที่จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากการฟัง อ่าน เรื่องเล่าประสบการณ์หรือแนวปฏิบัติจากผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจให้กับเราได้อย่างยั่งยืนคือการเห็นถึงคุณค่าของงานที่เราทำ หรือ ผลงาน ที่กำลังจะเกิดขึ้นจากความมานะบากบั่นของเราอย่างแท้จริง
- มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราอยากเป็นเหมือนใครและอยากทำอะไร
การมีภาพความสำเร็จที่ชัดเจนในหัว รวมทั้งการมีบุคคลตัวอย่าง (role model) จะช่วยกรอบความคิดและการตัดสินใจของเราในทุกๆด้านของชีวิตให้มีความคล้ายคลึงกับบุคคลเหล่านั้น และจะช่วยกำจัดการกระทำที่ไม่ดีออกไปได้ในที่สุดหากเราหมั่นฝึกฝน
- หมั่นคิดถึงผลที่จะได้จากความพยายาม
เป็นธรรมดาที่ความคิดด้านลบจะมีน้ำหนักมากกว่าความคิดด้านบวกในสมองมนุษย์ โดยเฉพาะในเวลาที่เครียด เหนื่อย หรือกดดัน ดังนั้นการที่เราโฟกัสความคิดของเราไปที่ผลสำเร็จที่จะได้ย่อมดีกว่าการที่เราปล่อยให้จิตใจเราขุ่นมัวด้วยอารมณ์ลบเหล่านั้น
- คิดถึงผลเสียที่จะตามมาหากเราขี้เกียจ ละเลยหน้าที่
ข้อนี้ก็เป็นการมองอีกด้านหนึ่ง ในกรณีที่คุณอาจข้อ 5) อาจใช้ไม่ได้ผลกับคุณ คุณก็ยังสามารถนึกถึงข้อเสียของความขี้เกียจแทนได้
- ทำทีละอย่าง
การทำงานแบบ multitask อาจเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับคนบางกลุ่มหรืองานบางงาน แต่โดยทั่วไปแล้วการที่เรามุ่งความสนใจไปที่สิ่งๆหนึ่งเราจะมีสมาธิจดจ่อกับมันและทำมันได้สำเร็จง่ายกว่าการที่เราทำสลับไปมาระหว่างหลายๆสิ่ง
- เห็นภาพความสำเร็จของตัวคุณเอง
นี่อาจเป็นสิ่งที่หลายๆคนยังพลาดไปก็ได้ เพราะไม่ว่าคุณจะมีแรงบันดาลใจ มีบุคคลตัวอย่างที่ดีขนาดไหน แต่ถ้าตัวคุณเองจะมองไม่เห็นภาพคุณที่กำลังทำสิ่งเหล่านั้น กำลังประสบความสำเร็จบนเส้นทางอาชีพ คุณก็อาจจะไปไม่ถึงไหนและติดอยู่กับหล่มความขี้เกียจ ความท้อถอยเช่นเดิม เพราะฉะนั้นทางที่ดี คุณควรจะจินตนาการภาพเหล้านี้ในหัวให้ชัดเจนก่อนที่จะเริ่มตั้งเป้าหมายหรือหาแรงบันดาลใจเสียด้วยซ้ำ
- ตอกย้ำความมั่นใจ ให้กำลังใจตัวเองอยู่สม่ำเสมอ
เช่นการหาคำวลีสั้นๆไว้ท่องเตือนสติในหัวเวลาที่เรากลัว ท้อแท้ หรือหมดกำลังใจ
- ปรับทัศนคติในการมองปัญหา
แทนที่จะมองว่ามันคือปัญหา คือเรื่องยุ่งยากในชีวิตเรา ทำไมเราไม่มองว่ามันคือบททดสอบที่พระเจ้าส่งมาเพื่อให้เราพิสูจน์ความเก่ง ความแน่ ความเพียรพยายามของเราหละ ถ้าคิดได้อย่างนั้นแล้วเราคงจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆจริงมั้ย
- หลีกเลี่ยงการ “ผัดวันประกันพรุ่ง”
หากได้รับมอบหมายหรือมีงานอะไรค้างอยู่ ควรฝึกให้เป็นนิสัย โดยเริ่มทำทันทีขณะที่ทำได้ ไม่ควรผัดวันประกันพรุ่ง เพราะจะเคยตัวและกลายเป็นดินพอกหางหมู
- เรียนรู้จากผู้ประสบความสำเร็จ
ตามที่ได้กล่าวไปแล้วในข้อ 3) การเรียนรู้จากบุคคลที่ประสบความสำเร็จก็เป็นสิ่งที่มีส่วนสำคัญ เพราะนอกจากจะสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นบุคคลตัวอย่างให้กับเราได้แล้ว บุคคลเหล่านี้อาจจะมีทริค หรือเทคนิคดีๆที่ใช้ในการลดความขี้เกียด เพิ่มความขยัน ได้ดีอีกด้วย
สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็ได้ฝากให้ทุกคนหมั่นฝึกฝนในการเอาชนะความขี้เกียจอยู่เป็นประจำ เพราะทุกครั้งที่เราทำได้มันจะเป็นการก้าวขึ้นบันไดไปอีกขั้น และทำให้เราเป็นบุคคลที่เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับคำพูดที่ว่า “กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว”(อันนี้ จขกท เติมให้)
ที่มา: https://www.successconsciousness.com/overcoming-laziness.htm