ททท. ไอเดียสอดคล้องเจ้าสัวซีพี ดึงเศรษฐีต่างชาติเที่ยวไทย
แม้ทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 แบบสาหัสสากรรจ์ แต่ดูเหมือนประเทศไทยเรามีแนวโน้มที่ผ่อนคลายมากกว่า ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวิกฤติจนถึงขณะนี้ ทั้งในด้านของจำนวนผู้ติดเชื้อ ที่มีตัวเลขบางเบากว่าประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในแถบเมืองหนาว ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับภูมิอากาศของบ้านเราที่เป็นใจ ไม่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของเชื้อโควิด หรือในด้านการควบคุมดูแลผู้คนในประเทศ ซึ่งมีการป้องกันตัวบุคคลด้วยหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ โดยมีการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่ต้องยกความดีความชอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้ข้อมูลอย่างดี และประชาชนที่ให้ความร่วมมือ ไม่ออกนอกแถว นอกกฎเกณฑ์ให้เสียรูปขบวน ที่สำคัญภาครัฐที่มีการร่วมมือประสานงานบริหารจัดการอย่างระบบ ตลอดจนถึงภาคธุรกิจและประชาสังคมที่ร่วมด้วยช่วยกันทุก ๆ ทาง หากใครขาดเหลืออะไรก็เติมน้ำใจ ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรียกได้ว่า นี่เป็นจุดเด่นของชนชาติไทยเสน่ห์สำคัญที่คนทั่วโลกยอมรับและอยากมาเมืองไทย
ทั้งหลายทั้งปวงนั้นทำให้ประเทศไทยมีทีท่าว่าจะฟื้นตัวได้เร็ว โดยเฉพาะภาคธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ที่จะดึงเศรษฐกิจให้กลับมามีชีวิตชีวาสดใสอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ทั้งรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือซีพี ได้แสดงความคิดเห็นที่สอดคล้องกันเกี่ยวกับการขยับตัวของภาคการท่องเที่ยว
เจ้าสัวธนินท์แนะว่า ควรมีการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งจะสร้างตลาดการท่องเที่ยวใหม่ โดยชักชวนผู้มีกำลังทรัพย์ชาวต่างชาติ เช่น อเมริกัน จีน ยุโรป รัสเซีย มาเที่ยวเมืองไทย เรียกง่าย ๆ ว่า คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มหนีตาย เพราะบ้านเมืองเขาด้านการแพทย์ การสาธารณสุขไม่พร้อมรองรับ แต่บ้านเรามีครบ หากหาคนกลุ่มนี้ให้ได้สัก 1 ล้านคน ก็จะฟื้นเศรษฐกิจได้เร็ว เพราะคนมีกำลังทรัพย์มาอยู่เมืองไทยได้เป็นเดือน ๆ อาจมีการจับจ่ายใช้เงินสูงเฉลี่ย 2 แสนบาทต่อคน ซึ่งจะสร้างรายได้มากถึง 1 ล้านล้านบาท
ล่าสุด คุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ททท. อยู่ระหว่างทำแผนการท่องเที่ยวในครึ่งปีหลัง 2563 โดยจะมุ่งเน้นตลาดในประเทศภายใต้การท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก และมุ่งเป้าไปที่กลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง ให้หันมาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
ก่อนหน้านี้มีผลสำรวจเผยว่า ประเทศไทยรั้งอันดับ 1 ของประเทศที่เหมาะสมในการเริ่มต้นธุรกิจ และชาวต่างชาติก็ยังคงมองเมืองไทยเป็นเมืองน่าอยู่ ตอบโจทย์มากกว่าประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย โดยเหมาะกับการพาครอบครัวมาอาศัยในระยะยาว ด้วยความพร้อมด้านสาธารณูปโภค มาตรฐานโรงเรียนนานาชาติ ผู้คนอัธยาศัยดี ความสะดวกในการใช้ชีวิต เช่น การช็อปปิ้ง ทำกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งการท่องเที่ยว
โดยภาพรวมแล้วดูเหมือนการท่องเที่ยวไทยจะพาเศรษฐกิจไทยกลับมาสดใสอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้






















