มันคือ "วัตถุบินที่ไม่สามารถระบุได้" จริงๆ!! แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บอกว่า มันเป็นวัตถุที่มาจากต่างดาว
เพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โพสต์น่าคิด ข้อความว่า คิดอย่างไรกันบ้าง กับข่าวที่บอกว่า "เพนตาก้อนของสหรัฐอเมริกาเผยแพร่คลิปยูเอฟโอ อย่างเป็นทางการแล้ว"
เจ้ายูเอฟโอ หรือ วัตถุบินที่ไม่สามารถระบุได้ (UFO unidentified flying object) ในคลิปที่เป็นข่าวดังกันอยู่ตอนนี้ (ดู https://youtu.be/6rWOtrke0HY ) มีชื่อเล่นว่า ทิกแท็ก Tic Tac (ลูกอมรสมิ้นต์ รูปทรงยาวๆ รีๆ คล้ายลูกอมคลอเร็ต) ตามที่เพนทาก้อนระบุไว้ว่า มีลักษณะเป็นวัตถุทึบสีขาวผิวเรียบ รูปทรงคล้ายไข่ที่ฟองยืดยาวออก
ชมคลิปที่เป็นข่าว
คลิปวิดีโอของเจ้าทิกแท็ก หลุดออกมาสู่สาธารณชนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 และปี 2017 แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาตัดสินใจเผยแพร่เองอย่างเป็นทางการ เพื่อสาธารณชนจะได้เข้าใจได้ถูกต้องว่าคลิปที่เห็นกันนั้นเป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่ .. โดยทางเพนตาก้อน ได้ใช้คำว่า "ไม่สามารถระบุได้" กับมัน ในคำเต็มๆ ที่ว่า "ปรากฏการณ์ฟากฟ้าที่ไม่สามารถระบุได้" (unidentified aerial phenomenon UAP)
คนที่ถ่ายคลิปเจ้าทิกแท็กได้ คือ นักบินกองทัพเรือชื่อว่า Chad Underwood เขาระบุว่าพบเห็นสิ่งนี้ในท้องฟ้าเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ปี 2004 โดยใช้กล้องอินฟราเรด หลังจากที่ David Fravor นักบินผู้บังคับบัญชาของเขาแจ้งว่าได้พบเห็นวัตถุฟากฟ้าที่ไม่รู้จัก (unknown aerial object กองทัพเรือนิยมใช้คำนี้ มากกว่ายูเอฟโอ) รูปทรงไม่คุ้นเคย ระหว่างที่เขาทำการฝึกบิน
Underwood บอกว่าก่อนที่เค้าจะตรวจเจอเจ้าวัตถุบินนี้ ผู้บังคับบัญชาของเขาได้แจ้งล่วงหน้าแล้วว่า อาจจะมีอะไรแปลกๆ อยู่บนท้องฟ้า เนื่องจากไม่กี่วันก่อน เรือรบ USS Princeton ได้ตรวจพบวัตถุบินลึกลับ ประมาณ 8-10 ลำ ใกล้กับเกาะ Catalina และเกาะ San Clemente ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
วันนั้น ทั้งสองได้ฝึกบินในเครื่องบินรบ F18 Super Hornet จากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz ซึ่งเป็นวันที่อากาศปลอดโปล่ง แต่ทันใดนั้น เขาก็พบว่ามีสัญญาณเตือนขึ้นบนจอเรดาร์ เรดาร์บอกว่าวัตถุนั้นอยู่เบื้องหน้าเขาและบินในลักษณะที่แปลกประหลาด มันสามารถเปลี่ยนระดับเพดานบิน ความเร็ว และทิศทางได้ในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ... มันสามารถจะเปลี่ยนระดับจากความสูงถึง 6 หมื่นฟุต ลงมาอยู่แค่ที่ 50 ฟุตได้ในเวลาไม่กี่วินาที หรือทำการหักเลี้ยวอย่างกระทันหันไปทางซ้ายได้
Underwood เชื่อว่ามันไม่ใช่นก ไม่ใช่บอลลูนตรวจอากาศ และมันบินช้ากว่าที่จะเป็นเครื่องบิน (บินด้วยความเร็วเพียง 138 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และการที่มันไม่มีปีก หรือปล่อยความร้อนออกมา มันก็ต้องไม่ใช่จรวดร่อน (cruise missile) แน่ๆ
ในรายงานของกระทรวงกลาโหม ยังระบุด้วยว่า เจ้าวัตถุนี้อาจจะสามารถ "ล่องหน" จากสายตาของมนุษย์ได้ (คือเห็นได้เฉพาะจากกล้องอินฟราเรด) และอาจจะทำงานใต้ทะเลได้ด้วย เลยทำให้ไม่สามารถตรวจจับด้วยเซนเซอร์ใดๆ ได้
แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บอกว่า มันเป็นวัตถุที่มาจากต่างดาว !
อย่างไรก็ตาม อดีตนายทหารหลายๆ นายของกองทัพอเมริกา เชื่อว่าวัตถุบินลึกลับนั้น จริงๆ แล้วเป็นแค่ความผิดปรกติของกล้องอินฟราเรด บนเครื่องบินของ Underwood และมันก็ไปหลอกสายตานักบิน
กระเปาะบรรจุระบบเซนเซอร์อินฟราเรดบนเครื่องบินรบ Super Hornet นั้น คือ Raytheon AN/ASQ-228 Advanced Targeting Forward-Looking Infrared (ATFLIR) pod ซึ่งสามารถดูภาพได้สองแบบ คือ แบบอินฟราเรดความยาวคลื่นปานกลาง และแบบภาพทีวีปรกติ มันมีความละเอียดสูงและสามารถตรวจจับเป้าหมายได้ที่ระยะไกลถึง 40 ไมล์ทะเล (74 กิโลเมตร)
ภาพคลิปที่เราได้ดูกัน ชื่อว่า FLIR1 นั้นมาจากหน้าจอภาพของนักบิน โดยเริ่มจากโหมดอินฟราเรด มีเจ้าทิกแท็กเป็นวัตถุสีขาวอยู่กลางจอ ที่ระดับความสูง 24,000 ฟุตโดยไม่แสดงไอความร้อนของเครื่องยนต์ออกมาเหมือนเครื่องบินอื่นๆ / ระบบเซนเซอร์พยายามล็อคเป้า และซูมเข้าไปดูวัตถุนั้น ทำให้บางครั้งมันดูใหญ่ขึ้นในคลิป / เมื่อตัดเข้าโหมดทีวี จะเห็นมันเป็นวัตถุสีเข้ม ตัดกับแสงจ้าของท้องฟ้าตอนกลางวัน / เมื่อนาทีที่ 1:14 วัตถุนั้น วัตถุนั้นได้เร่งความเร็วไปทางซ้ายอย่างรวดเร็วและกระทันหัน จนเซนเซอร์ไม่สามารถตามจับมันได้
แต่ Jim Gillingham ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม ที่ได้ทำงานให้กับระบบ ATFLIR ของบริษัท Raytheon ได้ให้สัมภาษณ์กับเพจ Intelligencer (ดูลิงค์ด้านล่าง) ว่า “ถ้ามีวัตถุหลายอย่างอยู่บนท้องฟ้า มันอาจจะทำให้เกิดความผิดปรกติของระบบ ATFLIR ขึ้นได้ เขาเคยมีประสบการณ์คล้ายแบบนี้มาแล้วเมื่อใช้ระบบ ATFLIR ในการติดตามเครื่องบินหลายลำจากภาคพื้นดินระหว่างที่ทดสอบระบบ “เราเจอความผิดปรกติเช่นนี้ เมื่อพยายามที่จะล็อคเป้าเครื่องบิน แล้วมีเครื่องบินสองลำบินขึ้นพร้อมกันจากสนามบิน ทำให้ภาพที่ได้จากระบบนั้นสวิตช์กลับไปกลับมาอย่างรุนแรง จนกว่าเราจะหาทางปรับระบบการล็อคเป้าได้สำเร็จ"
ส่วน James McGaha อดีตนักบินของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ก็เสนอว่า ที่เจ้าวัตถุบินนั้นดูเหมือนจะสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็วมาก ก็เป็นผลจากวิธีการบินของนักบินอย่าง Underwood เอง (หมายถึงตอนที่มันเหมือนจะบินหักเลี้ยวไปทางซ้ายอย่างรวดเร็วนั้น จริงๆ แล้วเป็น Underwood รู้สึกไปเอง เขาไม่สามารถยืนยันได้ว่ามันเร่งเครื่อง แล้วหักไปทางซ้ายจริงๆ แค่ภาพบนจอ ที่พบว่ามันหายไป)
ท้ายที่สุด Underwood ให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่คิดว่ามันเป็นโครงการทดลองลับของนาซ่า หรือของกองทัพ และเขาไม่เคยถูกสั่งให้ปิดปากเงียบกับสิ่งที่เขาพบด้วย ... และไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้ามันเป็นโครงการของรัฐบาลจริงๆ เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ด้วย
ข้อมูลจาก https://www.businessinsider.com/navy-pilot-tic-tac-ufo-inte… และ https://thevault.tothestarsacademy.com/2004-nimitz…/…/ATFLIR และ https://nymag.com/…/tic-tac-ufo-video-q-and-a-with-navy-pil…
ปล. แล้วผมคิดว่ามันเป็นอะไรล่ะ?? คำตอบคือ ไม่รู้สิครับ ฮะๆๆ ผมไม่เชื่อเรื่องยานบินลึกลับจากต่างดาวอยู่แล้ว และถ้ารัฐบาลและกองทัพอเมริกายอมเผยแพร่ขนาดนี้ มันก็ไม่ใช่ของแปลกประหลาดอะไรในสายตาพวกเขา จนต้องเก็บเป็นความลับอีกต่อไป
มันอาจจะเป็นแค่ความผิดปรกติของระบบเซนเซอร์อินฟราเรดจริงๆ หรือไม่ก็เป็นโครงการทดลองที่ไม่ค่อยลับแล้วของอเมริกาก็ได้ (หลังจากผ่านมากว่า 13 ปีแล้ว) เช่น อาจจะเป็นเครื่องต้นแบบลับของ UAV รุ่นล่าสุดก็ได้ รอดูกันในอนาคต