เรื่องเล่า 'ค่าความผิด'
ค่าความผิด
"เจ้ รถผมเข้าไม่ได้ เหยียบปูนฟุตบาธเขาแตก ต้องเสียห้าพัน"
"รถคันอื่น เขาเข้าไป 3-4 คันแล้วนะ แล้วเหยียบฟุตบาธเขาแตกแล้วเหรอ"
"ยังครับ"
บทสนทนาที่เกิดขึ้นยามเช้าวันพฤหัสที่ควรสงบสุขของฉัน หลังวางสายโทรศัพท์อยากจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ ก็ไม่ได้ทำ แค่คิดเฉย ๆ บางทีอาจจะดีก็ได้นะ แต่ฉันไม่เคยทำ ไม่เคยกรี๊ด ไม่เคยสบถ และไม่เคยด่า เพราะแม้จะโมโห ก่อนวางสายโทรศัพท์ ฉันก็พูดเสียงเย็น ๆ ตอบไปว่า "คนอื่นเขาทำได้ เธอก็ควรทำได้ รับงานแล้วจะมาทำให้คนอื่นเขาเสียงาน เสียเวลาไม่ได้"
ฉันรับงานขนส่งที่ต้องใช้รถเทรลเลอร์ 22 ล้อ ไว้ เพื่อขนสินค้าเกี่ยวกับการก่อสร้าง ลูกค้าเรียกสินค้าที่จะต้องขนส่งว่าก้อนน้ำหนัก ขนจากถนนนครอินทร์ ลง ปากเกร็ด งานง่าย ๆ แต่ใช้เวลาหน่อย ปกติครั้งที่ผ่าน ๆ มา เรามักเลือกขนส่งกันตอนกลางคืน ตอนนี้เคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึงตี 4 ทำให้เราต้องปรับตัว ความกดดันมีมากขึ้นเพราะรถบรรทุกมีการติดเวลา เวลากลางวันเราวิ่งได้หลังสิบโมงถึงบ่ายสามเท่านั้น
ระยะเวลาที่สั้นลงทำให้ทุกฝ่ายเครียดไปตาม ๆ กัน เพราะอยากให้งานจบวันต่อวัน แต่เชื่อไหม!!! ความซวยมันจะมาในวันที่เราเจอคนจุกจิก หรือคนที่จุกจิกมักพาความซวยมาให้ อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นแบบไหน แต่มักจะเป็นแบบนั้นเสมอ คนขับรถที่มารับงานวันนี้จุกจิกหัวใจฉันมาก โทรศัพท์แจ้งเจ้านายเขาให้โทรมาจิกฉันแทบจะทุก 5 นาที
งานเองก็ดันมามีปัญหา ปัญหาแรกมากับการขอย้ายที่ขึ้นสินค้า จากถนนนครอินทร์ย้ายไปสามโคก ปทุมธานี ก็ต้องมีการปรับราคาค่าขนส่งกันใหม่ เจรจาต่อรองทั้งกับรถขนส่งและกับผู้จ้างงาน พอเจรจาตกลงกันได้ สักพักลูกค้าแจ้งกลับมาอีกว่า ขอเปลี่ยนเป็นขึ้นสินค้าที่เดิม แต่ขอย้ายที่ลงสินค้าจากปากเกร็ดเป็นสามโคก รถคันนี้ก็วุ่น คุยยาก ไม่น่ารักสำหรับฉันเลย ฉันเลยต้องชี้แจงน้องคนประสานงานฝั่งผู้จ้างถึงความจำเป็นที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอโทษที่วันนี้วุ่นวายเหลือเกิน น้องก็ขอโทษกลับมาเช่นกันกับการย้ายที่ไปมาของเจ้านายเขา เราสองคนเข้าใจกันดี ยังต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
ปัญหาที่สองตามมาติดๆ รถเครนเสียหลังจากยกสินค้าไปได้ 2 ชิ้น ต้องรอรถเครนตัวใหม่ กับเวลาที่กระชั้นเข้ามา เกือบบ่ายสามใกล้จะติดเวลาห้ามเดินรถแล้ว รถเครนใหม่ก็ยังไม่มา ถ้ามาจะยกทันไหม ที่ลงสินค้าก็แจ้งมาว่าจะรอสินค้าให้แค่สามทุ่มเท่านั้น นี่มันวันโลกาวินาศอะไรกันเนี่ย ทั้งคนขับและของรถก็กระหน่ำโทรหาฉันยิ่งกว่าคนเป็นแฟนโทรหากันซะอีก
ทุกครั้งที่ฉันกดรับสายโทรศัพท์จากรถคันนี้ คะแนนความประพฤติของเขาก็ติดลบลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งความอดทนของฉันถึงขีดสุด และกากบาทหมายหัวไว้ในใจ รถคันนี้ไม่ผ่าน ต่อไปคงไม่เรียกมาใช้บริการกันอีก เพราะมาทำงานด้วยกันแล้วสร้างความวุ่นวายมาก ปกติรถคันอื่นรับงานเงียบมากถึงเวลาก็ไลน์มาขอเบิกเงินเท่านั้น หรือวันนี้วันซวย
ความผิดมีค่าและมีราคา ราคาของความผิดบางอย่างไม่อาจใช้เงินแก้ไขได้ เพราะความรู้สึกเมื่อเสียไปแล้ว ยากที่จะแก้ให้กลับมาดีได้ดังเดิม จริงไหม?
อักษราลัย
17 เมษายน 2563
fb.me/gooddaywithcandy