ช่วยคนเร่ร่อนให้รอดพ้นจากโควิด-19 ด้วย

คนเร่ร่อนเป็นกลุ่มคนที่อ่อนไหวที่สุดกลุ่มหนึ่งต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้าไม่ดูแลให้ดี อาจเสี่ยงติดเชื้อไปถึงคนอื่นในกรุงเทพมหานครด้วย
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะประธานมูลนิธิอิสรชนที่ให้การช่วยเหลือคนเร่ร่อนกล่าวว่า ณ ปี 2562 พบผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะหรือคนเร่ร่อน 4,392 คน คาดว่าอาจมีผู้ติดเชื้อ 0.66% หรือประมาณ 29 ราย อย่างไรก็ตามยังไม่มีการพบผู้ติดเชื้อเลย ทั้งนี้คงเพราะไม่มีการตรวจที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่พบผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะที่แสดงอาการป่วยหรือเสียชีวิตจากโควิด-19 ในเวลานี้
การประมาณการนี้มาจากผลการตรวจไวรัสโควิด-19 ของประเทศไทย ปรากฏว่ามีการตรวจแล้ว 71,860 ราย พบผู้ติดเชื้อ 2,369 ราย หรือราว 3.3% ของทั้งหมด ตัวเลขนี้อาจดูสูงผิดปกติ เนื่องจากผู้ที่ไปตรวจอาจมีอาการหรือต้องสงสัย ดังนั้นในกรณีประชาชนทั่วไป อาจประมาณที่เพียง 10% ของอัตราผู้ติดเชื้อ ที่ 3.3% หรือเพียง 0.33% อย่างไรก็ตามในกรณีคนเร่ร่อน อาจอนุมานให้มากกว่าอัตราปกติของบุคคลทั่วไป 1 เท่า หรือประมาณ 0.66% ของทั้งหมด
กรุงเทพมหานครและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ควรจัดทำเต็นท์ให้คนเร่ร่อนพักอยู่บริเวณสนามหลวงเป็นการชั่วคราว เพื่อคัดกรอง ตรวจเชื้อ จนกว่ากระแสข่าวเรื่องโรคไวรัสนี้จะทะเลาลง สำหรับคาใช้จ่ายนั้น คาดว่าจะเป็นเงินคนละ 100 บาทต่อวัน รวมค่าดำเนินการอีก 100 บาทต่อวัน รวมเป็นเงิน 200 บาทต่อวัน สำหรับคนเร่ร่อนในบริเวณดังกล่าวจำนวนประมาณ 800 คน เป็นระยะเวลา 3 เดือน รวมเป็นเงิน 14.4 ล้าน หากรวมค่าเต็นท์และอุปกรณ์ต่างๆ ก็คงไม่เกิน 20 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณเพียงเท่านี้
มูลนิธิอิสรชนจัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะทุกวันอังคารเวลา 18:00 น. ท่านผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบริจาคได้ที่ คุณนงลักษณ์ โทร. 02.295.3905 ต่อ 109
สถานการณ์คนเร่ร่อนในเขตกรุงเทพมหานคร
จำนวนคนเร่ร่อนอยู่ทั้งหมด 4,392 คนเฉพาะในกรุงเทพมหานครในปี 2562 นี้ เพิ่มขึ้นกว่าปี 2561 ประมาณ 10% อันที่จริง อัตราเพิ่มของจำนวนคนเร่ร่อนค่อนข้างน้อยในช่วงปี 2556-2559 คือเพิ่มขึ้นประมาณ 2.8% - 3.5% เท่านั้น แต่หลังจากปี 2560 เป็นต้นมา ปรากฏว่าอัตราเพิ่มของคนเร่ร่อน เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเป็น 5.1%, 10% และ 10% โดยตลอด กรณีนี้แสดงว่าในช่วง 3 ปีหลังที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศไทยถดถอยลง ไม่ได้ดีตามตัวเลขที่เป็นทางการ จึงทำให้คนเร่ร่อนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นเด่นชัด
รายได้ต่อครัวเรือนต่อเดือนในกรุงเทพมหานครในปี 2556 อยู่ที่ 49,191 บาท เทียบกับรายได้ในปี 2561 ที่ 45,779 บาทนั้น ปรากฏว่าลดลงประมาณ 7% ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจที่รายได้ของครัวเรือนแทนที่จะเพิ่มขึ้น แต่กลับลดต่ำลงไปกว่าเดิมอีก และยิ่งเมื่อนำตัวเลขเงินเฟ้อของกรุงเทพมหานครมาปรับค่าเงิน จะพบว่า รายได้ต่อครัวเรือนต่อเดือนในปี 2561 ลดลงเป็นเงิน 33,060 บาท ในขณะที่รายได้ปี 2556 เป็นเงิน 36,549 บาท ตามราคาคงที่ปี 2545 ซึ่งเท่ากับรายได้สุทธิลดลงถึง 10% (เมื่อหักเงินเฟ้อแล้ว) (https://bit.ly/2WCX2n3)
อย่างไรก็ตามจำนวนคนเร่ร่อนในกรุงเทพมหานครยังน้อยกว่าอีกหลายประเทศ เช่น นครนิวยอร์ก มีประชากร 8.5 ล้านคน แต่มีคนเร่ร่อนถึง 63,000 คน หรืออาจากล่าวได้ว่ามีคนเร่ร่อน 1 คนในจำนวนประชากร 135 คน (https://bit.ly/2J7lAkh) แต่สำหรับในกรุงเทพมหานคร มีประชากร 5.7 ล้านคน (https://bit.ly/2gKl52e) มีคนเร่ร่อน 4,392 คน หรือจะพบคนเร่ร่อน 1 คนจากประชากร 1,298 คน ซึ่งยังนับว่าน้อยมาก
ในขณะที่ ณ ปี 2562 มีคนเร่ร่อนอยู่ 4,392 คน ในช่วงปี 2556-2562 อัตราเพิ่มของประชากรคนเร่ร่อนอยู่ที่ 5.75% โดยเฉลี่ย หากใช้อัตรานี้เป็นเกณฑ์ พอถึงปี 2575 หรือในอีก 13 ปีข้างหน้าซึ่งเป็นปีแห่งการครบรอบร้อยปีของการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย จำนวนคนเร่ร่อนน่าจะสูงถึง 9,085 คน หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 2.07 เท่าจากตัวเลขปัจจุบัน แม้ตัวเลขจะไม่มากนัก แต่สิ่งที่พึงตระหนักก็คือ จำนวนการเพิ่มขึ้นของคนเร่ร่อนน่าจะสูงกว่านี้ แต่อัตราเพิ่มสุทธิอาจไม่เปลี่ยนมาก เพราะอายุขัยของคนเร่ร่อนค่อนข้างสั้น จึงมีจำนวนคนเร่ร่อนตายจากไปมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม โดยที่จำนวนคนเร่ร่อนเพิ่มสูงขึ้นมากในรอบ 3 ปีล่าสุดที่ผ่านมาโดยเฉพาะในช่วง 2 ปีหลังเพิ่มขึ้นถึง 10% ต่อปี มีความเป็นไปได้ที่ปี 2563 อัตราเพิ่มของคนเร่ร่อนอาจมากกว่า 10% ก็เป็นได้โดยเฉพาะหากเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ดีเท่าที่ควร และก็มีแนวโน้มว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะต่ำมากในปี 2562 และ 2563 ดังนั้นจำนวนคนเร่ร่อนจึงน่าจะเพิ่มขึ้น
หากใช้ค่าเฉลี่ยของอัตราเพิ่มในรอบ 3 ปีหลัง ณ ค่าเฉลี่ย 8.33% มาปรับใช้กับสำหรับในอีก 13 ปีข้างหน้า คือปี 2575 ซึ่งเป็นปีครบรอยปีคณะราษฎร จำนวนคนเร่ร่อนก็น่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 12,420 คน ในขณะนั้นจำนวนประชากรกรุงเทพมหานครอาจเพิ่มขึ้นเป็น 6.45 ล้านคน (ณ อัตราเพิ่มที่ 1% ต่อปี) ก็จะทำให้สัดส่วนคนเร่ร่อนเป็นทุก 1 คนต่อประชากรกรุงเทพมหานคร 519 คน แทนที่จะเป็น 1 ต่อ 1,298 คนเช่นในปี 2562
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69
ปักธงผืนสุดท้ายเหนือ "ปราสาทคนา" ทัพไทยบุกยึดคืนสำเร็จเป็นที่แรก แต่ปักธงสถาปนาชัยชนะเป็นที่สุดท้าย
หญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่ในสนามบินกัวลาลัมเปอร์ มานานเป็นปีราวกับเป็นบ้านของตัวเอง
แกงกระด้าง:อาหารเหนือหน้าหนาว
ขนมหม้อทอง ขนมสมัยพระนารายณ์
ปักธงผืนสุดท้ายเหนือ "ปราสาทคนา" ทัพไทยบุกยึดคืนสำเร็จเป็นที่แรก แต่ปักธงสถาปนาชัยชนะเป็นที่สุดท้าย
ย้อนตำนาน “ขันทีหัวใจพระโพธิสัตว์” อ่านราชโองการผิดเพียงคำเดียว แต่ช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์นับพัน
หญิงสาวกินผมตัวเองมาตั้งแต่สมัยอนุบาลเป็นเวลา 20 ปี เจอ"ก้อนผม"หนัก 1 กิโลกรัมในท้อง
เผยโฉม "Dracula’s Chivito": จานก่อกำเนิดดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยพบ
“ทำไมคนขยันหลายคนยังไม่ประสบความสำเร็จ? ความจริงที่ไม่มีใครบอกคุณ”
ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊า
จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?