โฆษกกอ.รมน.ภาค4 แจงรัว ข่าวใหญ่ 42 คนไทยจว.ชายแดนใต้ กลับจากอินโดฯป่วยติดเชื้อโควิด ยันไม่เคยให้ข่าว
จากสถานการณ์โรคปอดอักเสบชนิดรุนแรงที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด -19 ที่ชาวไทยกำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น. เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 1,431,540 ราย มีผู้เสียชีวิต 82,058 คน ในจำนวนนี้มีผู้รักษาหายแล้ว 302,140 ราย
โดยสหรัฐอเมริกายังคงครองอันดับหนึ่งของโลกที่มียอดผู้ป่วยสะสมพุ่งไปถึง 400,412 ราย รองลงมาคือสเปนที่มียอดผู้ป่วยสะสมที่ 141,942 รายอันดับสามเป็นอิตาลีอยู่ที่ 135,586 ราย อันดับสี่เป็นฝรั่งเศสที่ 109,069 ราย อันดับที่ห้าตกเป็นของเยอรมันที่ 107,663 ราย อันดับที่หกเป็นจีนที่ 81,802 ราย อันดับเจ็ดเป็นอิหร่านมีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 62,589 ราย อันดับที่แปดเป็นสหราชอาณาจักรที่ตัวเลข 55,242 ราย อันดับที่เก้าเป็นตุรกีที่ 34,109 ราย และอันดับสิบเป็นสวิตเซอร์แลนด์ที่ 22,253 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น.)
กระทั่งวานนี้ (วันที่ 7 เมษายน 2563) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข และ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้อัพเดตผู้ป่วยประจำวันที่ 7 เมษายน 2563 เวลา 11.30 น. ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่อเนื่องแล้วโดยวันนี้เพิ่มขึ้นเพียง 38 ราย สะสม 2,258 ราย ใน 66 จังหวัด รักษาหายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 31 ราย รวมเป็น 824 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 27 ราย
โดย พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แก่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า คนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศอินโดนีเซียทั้ง 76 คนดังกล่าวมีอยู่ 52 คน ที่มีไข้สูง ซึ่งจะต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ เมื่อตรวจเบื้องต้นเสร็จแล้วได้แยกไปกักตัวตามแต่ละจังหวัด ส่วนอีก 24 คนที่ไม่ได้เดินทางมาด้วยนั้น เนื่องจากไม่ผ่านการคัดกรอง ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตดูแลอยู่ โดยให้อยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้ กลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จัดทำผลการคัดกรองผู้ที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซียระบุว่า พบผู้มีอาการ 52 คน ซึ่งตรงกับที่ พล.ต.ปราโมทย์ ให้สัมภาษณ์ และตรวจพบเชื้อทั้งสิ้น 42 คน แยกตามรายจังหวัดได้ดังนี้
1.จ.สงขลา 22 คน ส่งไปกักตัวที่สนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ หรือสนามกีฬาพรุค้างคาว ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ เป็นชาว จ.สงขลา 20 คน กรุงเทพฯ 1 คน และเชียงราย 1 คน ปรากฏว่า มีอาการ 11 คน ตรวจพบเชื้อ 10 คน
2.จ.นราธิวาส 7 คน ส่งไปคัดกรองและกักตัวที่ โรงเรียนแสงธรรม ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ นราธิวาส มีอาการ 5 คน ตรวจพบเชื้อ 2 คน
3.จ.ปัตตานี 14 คน ส่งไปคัดกรองที่สนามกีฬา อบจ.ปัตตานี แล้วให้อำเภอรับตัวไปกักตัว ณ สถานที่ที่จัดไว้ของแต่ละอำเภอ มีอาการ 8 คน ตรวจพบเชื้อ 7 คน
4.จ.ยะลา 7 คน ส่งไปกักตัวที่ศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา มีอาการ 7 คน ตรวจพบเชื้อทั้ง 7 คน
5.จ.สตูล 26 คน ส่งไปกักตัวที่วิทยาลัยราชภัฏสงขลาวิทยาเขตสตูล อ.ละงู จ.สตูล มีอาการ 21 คน ตรวจพบเชื้อ 16 คน นอกจากนี้ ยังมีลูกเรือของเที่ยวบินนี้อีก 35 คน ที่ต้องกักตัวเช่นกัน โดยนำไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ แต่ไม่มีใครมีอาการและตรวจไม่พบเชื้อ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ จ.สตูลยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้แต่คนเดียว แต่เมื่อมีกลุ่มดังกล่าวกลับมาจะทำให้ จ.สตูลมีจำนวนผู้ป่วยพุ่งพรวดในคราวเดียวถึง 16 คน โดยผลการคัดกรองนี้จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการในวันนี้
ล่าสุด โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ยันไม่เคยให้ข่าวกลุ่มดาวะห์อินโดฯ ติดเชื้อโควิด 42 คน ซึ่งตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อต่างๆ ว่า พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยัน มีผู้กลุ่มดาวะห์ที่เดินทางกลับมาจากอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563ติด เชื้อโควิด – 19 จำนวน 42 คน นั้น
ทั้งนี้ พล.ต. ปราโมทย์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ได้ออกมายืนยันว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์หรือให้ข่าวในประเด็นดังกล่าว ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้เพราะการแถลงข่าวยืนยันคนติดเชื้อเป็นหน้าที่ผู้ที่รัฐบาลได้มอบหมาย ซึ่งในห้วงที่ผ่านได้ชี้แจงการเข้าตรวจการเตรียมการและสังเกตการณ์คัดกรองของ ผอ.รมน.ภาค 4และการคัดแยกผู้เดินทางไปกักตัว ณสถานที่ที่แต่ละจังหวัดเป็นผู้กำหนด