บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นำทีมร่วมกตัญญู ลุยแจกเงิน หน้ากากอนามัย ถึงมือชาวบ้านในชุมชน

จากสถานการณ์โรคปอดอักเสบชนิดรุนแรงที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด -19 ที่ชาวไทยกำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 5 เมษายน 2563 เวลา 10.35 น. เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 1,201,964 ราย มีผู้เสียชีวิต 64,727 คน ในจำนวนนี้มีผู้รักษาหายแล้ว 246,638 ราย

ทั้งนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข และ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้อัพเดตผู้ป่วยล่าสุดประจำวันที่ 5 เมษายน 2563 ว่าพบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่จำนวน ติดเชื้อเพิ่ม 102 ราย เป็น 66 จังหวัด ติดเชื้อสะสม 2,169 คน รักษาหาย 674 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน รวยยอดเสียชีวิตที่สะสม 23 คน

ล่าสุด กู้ภัยหัวใจพระ อย่าง บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ได้นำทีมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ในชุมชนโรงหมูและชุมชนคลองเตย เพื่อเป็นการป้องการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้สโลแกน “ด้วยความห่วงใย เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน.”  โดยมีชาวบ้านทั้งพ่อแก่แม่เฒ่า ลูกเด็กเล็กแดงจำนวนมากมารับแจก ทั้งนี้ทางทีมงานร่วมกตัญญูได้ บุกถึงบ้านเพื่อแจกหน้ากากอนามัยสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีแรงเรี่ยวแรงเดินออกจากบ้านมารับแจกอีกด้วย

โดย บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เปิดเผยว่า “เมื่อกี้ประมาณ 300 กว่าครอบครัว ที่ผมดำเนินการมอบเงินและหน้ากากอนามัย โดยมอบเงินให้ครอบครัวละ 2,000 บาท และครอบครัวละ 500 บาท โดยเราจะเดินแจกตามบ้านซึ่งจะไม่ให้ใครออกมาเพราะว่าเมื่อกี้มันเกิดความวุ่นวายนิดหน่อย

และตอนนี้ต้องยอมรับว่ามันเดือดร้อนจริงๆ เพราะว่าเป็นช่วงที่ทุกอย่างหยุดหมดคนที่เคยมีรายได้กับไม่ได้ แล้วผมตั้งใจว่าหลังจากเสร็จจากชุมชนตรงนี้แล้ว ผมจะหยุดพักสักก่อนและหลังจากนั้น จะเริ่มต้นชุมชนต่อไป และผมจะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดเดือนเมษายน และจะใช้เงินอีกสักประมาณ 5 ล้าน 10 ล้าน ผมก็จะทำ

แล้วบอกเลยนะครับว่าผมไม่ได้ทำเพื่อเอาหน้า หรือไม่ได้ทำมาเพื่อตัดหน้ารัฐบาลที่จะรอเงิน 5,000 บาทมันไม่ใช่นะครับ ผมเห็นชาวบ้านเขาเดือดร้อนจริงๆ แล้วผมก็จะมอบให้กับตามชุมชนต่างๆ ซึ่งเป็นชุมชนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ต่างจากชุมชนที่ใหญ่กว่านี้ที่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งผมคิดว่าถ้าสามารถทำได้ก็ช่วยแบ่งเบาภาระได้กับทุกฝ่าย”