อนุทิน พูดแล้ว หลังหนุ่ม เอาหน้ากากที่จีนบริจาคให้ไทย มาขายในเฟซบุ๊ก

จากกรณีในเพจ Drama-addict แท็กหา สาธิต ปิตุเตชะ กระทรวงสาธารณสุข ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha พร้อมโพสต์ข้อความระบุว่า คนในวงการแพทย์ฝากมา ตอนนี้เรายังขอรับบริจาคหน้ากากกันจ้าละหวั่นเพราะของมันขาดทุกพื้นที่จริง เขาเลยฝากคำถามมาว่า หน้ากากที่แจ๊กหม่าบริจาคให้เรา จำนวนหลายแสนชิ้น ได้มาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 25 ที่ผ่านมาแล้ว

แต่หน้ากากเหล่านี้ยังไม่ถึง รพ ต่างๆที่ขาดแคลนอยากสอบถามว่า ตอนนี้หน้ากากเหล่านี้อยู่ที่ไหน หรือขั้นตอนในการนำส่ง หน้ากากให้ รพ อยู่ที่ขั้นตอนไหนแล้ว มีการติดขัดที่ขั้นตอนใดบ้าง ทำไมผ่านมาสี่วัน รพ ถึงยังไม่ได้หน้ากากของแจ๊คหม่าเลย

ต่อมา เพจ Red Skull-addict โพสต์ข้อความระบุว่า จีนส่งมาช่วยไทย แล้วเอามาขายได้ไงวะ เรื่องนี้มี...งำอีกแล้ว ถ้าดูซื่อๆแล้วร้องไห้ตลอดทั้งคืน น่าจะรอด ป.ล.มีคนไปชนของมาเรียบร้อย ภาพถ่ายยืนยันได้

ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีมีผู้โพสต์ขายหน้ากากอนามัย ระบุเป็นหน้ากากอนามัยที่จีนส่งมาว่า เรื่องนี้มีนพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดสธ. เป็นผู้บริหารจัดการเรื่องหน้ากากอนามัยที่ได้รับบริจาคมา ตนเพียงใช้คอนเนคชันของตนในการบอกบุญคน คนที่รู้จักตนก็ติดต่อกันเข้ามา ตนก็มีหน้าที่รับและส่งต่อให้กระทรวงไปดำเนินการ แต่ไม่ได้มีหน้าที่ไปเฝ้า

ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า หน้ากากอนามัยที่ได้รับบริจาคมามีหลายส่วน โดยส่วนที่ได้รับมาจากรัฐบาลจีนนั้น หน้ากากอนามัยมีประมาณแสนชิ้น หน้ากาก N95 ประมาณหมื่นชิ้น ซึ่งของทั้งหมดยังอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข ยังไม่มีการกระจายออกไปให้โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการของการตรวจเช็กยอด เพื่อจัดสรรให้โรงพยาบาลต่างๆ

ส่วนของมูลนิธิอาลีบาบาที่มอบหน้ากากอนามัยกว่าแสนชิ้น และมีหน้ากาก N95 ด้วยนั้น ยังอยู่ในโกดังขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) เช่นกัน โดยบางส่วนเริ่มมีการมอบให้แก่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ไปเมื่อวันก่อน ดังนั้นที่มีการประกาศขายหน้ากากอนามัยว่าได้มาจากจีนนั้น ไม่น่าจะเป็นของที่นำมาให้กระทรวงสาธารณสุข

กระทรวงสาธารณสุข มีการตั้งคณะกรรมการมาดำเนินการในเรื่องนี้ ทั้งคณะกรรมการส่วนของการรับของ คณะกรรมการส่วนกระจายหรือจัดสรร และการจะส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ก็ต้องมีการตรวจเช็กยอดว่าตรงกันหรือไม่ที่จะส่งให้ และบุคลากรก็มีจำนวนมาก ไม่ได้รู้จักกัน หากจะลอบนำออกไปขายคงเป็นไปได้ยากมาก จากการตรวจสอบรูปภาพที่นำเอาออกมาขาย ดูเป็นคนละแบบกับที่สธ.ได้รับบริจาคหน้ากากอนามัยมา