มังกรที่ราบสูง "เล้ง ขอนแก่น"

คราครั้งที่ "เต็งโก้"ยกทีมวายร้ายกวนเมือง อดีต วัยรุ่นปลัยกัลป์ เข้าไปดำเนินธุระกิจเถื่อนที่ขอนแก่น โดยเต็งโก้ จับมือกับ"เสี่ยเล็ก" บริหารงานจนรุ่งเรืองพอสมควร ตราบ"เต็งโก้"ทอดร่างกลายเป็ศพสิ้นบารมีชั่วนิรันดร์

แต่คนใหญ่ในขอนแก่นจริงๆแล้ว ไม่ใช่"เสี่ยเล็ก" หากเป็น เล้ง ขอนแก่น หรือ นายเจริญ พัฒนะดำรงกิจ บารมีของเสี่ยเล้ง มิใช่คับแคบอยู่แค่ในอาณาเขตจังหวัดขอนแก่นเท่านั้น หากครอบคลุมไปทั่วภาคอิสาน ดินแดนแห่งที่ราบสูง

ชีวิตของเสี่ยเล้ง ยิ่งกว่านวนิยายก็ว่าได้ ในวัยเด็กลำบากยากเข็ญเพราะความจนเริ่มต้นด้วยการเป็นกุลีแบกข้าวสาร ต่อมาได้งานเบาขึ้นมาหน่อย คือขี่จักรยานส่งข้าวสาร ส่งถ่าน แล้วก้าวหน้าขึ้นมาเป็นเสมียน สมองอันฉลาดล้ำ ผสมกับชั้นเชิงการพนันแพรวพราวทำให้เสี่ยเล้ง สนิทสนมกับเสี่ยเล็ก แล้วร่วมกันเปิดบ่อนไพ่สี่สีเป็นเบื้องแรก

จากนั้นจึงดำเนินธุระกิจรับซื้อพืชไร่ในกาลต่อมา ตราบสามารถตั้งตัวสร้างฐานะเข้าขั้นมหาเศรษฐี ผู้มีกิจการมากมาย เช่นโรงสี โรงแป้ง โรงเลื่อย โรงแรม และยังเปิดศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในขอนแก่น

เสี่ยเล้งไม่เพียงดำเนินธุระกิจการค้าอันมากมายของเขาอย่างเดียว เขายังยื่นมือเข้าไปสนับสนุนนักการเมืองเขตภาคอีสานในฐานะ "แบ๊ค" แต่เสี่ยเล้งไม่นิยมเกื้อหนุนด้วยอิทธิพลและบารมี เขาวางตัวเป็นฐานทางการเงินและอาศัยความกว้างขวางในแวดวงมิตรสหายที่ให้ความช่วยเหลือกันได้เท่านั้น

พลังอำนาจหลายส่วนของเสี่ยเล้ง จึงเป็นแรงสะท้อนกลับจากกลุ่มนักการเมืองที่เขาให้ความสนับสนุน

ไม่เพียงแต่เสี่ยเล้งจะสร้างมิตรภาพกับบุคคลระดับประเทศ ในฐานะ"มังกรแห่งที่ราบสูง" เขายังมีความสนิทสนมกับฝ่ายทหารแนบแน่น เมื่อครั้งที่โครงการอิสานเขียว เริ่มดำเนินการเพื่อพริกพื้นแผ่นดินอีสานอันแห้งแล้ง ให้เปลี่ยนสภาพไปสู่ความอุดมสมบูรณ์ "เสี่ยเล้ง" ได้ให้ความสนับสนุนโครงการนี้จนสุดตัว จากจุดนี้ทำให้เล้ง ขอนแก่น ก้าวขึ้นไปมีความสัมพันธ์กับ สายทหารระดับ"บิ๊ก" อย่างแนบแน่น

ในงานวันเกิดอายุครบ ๕๔ ปี พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ และพล.อ.ชวลิตร ยงใจยุทร ได้มอบพระเครื่องฤาษีลิงดำจำนวน ๙๙๙ องค์ ให้เสี่ยเล้งนำไปมอบให้แขกที่มาร่วมงานวันเกิด แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งอย่างถึงกึ๋นทีเดียว

ความยิ่งใหญ่และมั่งคั่ง บนเส้นทางชีวิตของเสี่ยเล้งนั้น ย่อมมีศัตรูที่จ้องจะล้มเขาทุกขณะจิตร เช่นเมื่อ ๗-๘ ปีผ่านมาแล้ว เล้งพาครอบครัวเข้ามากรุงเทพฯ และไปกินอาหารที่ภัตาคาร "

รินคำ" ขณะพาลูกหลานลงมาขึ้นรถเบนซ์ทะเบียน "ก๓๑๑๓ ขอนแก่น" และยืนคอยให้พนักงานดูแลรถ นำกุญแจไปไขเปิดประตูรถ มือปืนวัย ๓๐ ปี ได้วิ่งเข้ามาระเบิดกระสุนใส่ ๒ นัดซ้อน เล้ง ขอนแก่น ล้มลง มือปืนยังยิงซ้ำอีก ๓ นัด ก่อนจะหลบหนีไป

เสี่ยเล้ง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่ถึงตาย เพราะฝีมือ มือปืนไม่ฉมังพอ เสียกระสุนไป ๕ นัด เข้าเป้าแค่3นัด คือที่ ตะโพก ต้นขาขวา และชายโครง

นับตั้งแต่วันนั้น เล้ง ขอนแก่น ไปไหน มาไหน ต้องมีมือปืนห้อมล้อม คุ้มกันเพียบ!!!
ช่วงระยะปี ๒๕๓๒-๒๕๓๓ มังกรแห่งที่ราบสูง แทบจะอยูกรุงเทพฯตลอดเวลา เนื่องจากแรงดึงดูดของสนามม้า สนามมวยและบ่อนมีพลังสูง

ผลประโยชน์ และการหักล้างคือที่มาของการตัดสินใจ ใช้อำนาจปืน..!!

วันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๓๓ เวลา ๑๑:๐๐ น. กลางวันแสกๆ เสี่ยเล้ง เดินออกมาจากซอยข้าง ร.พ.เปาโลเพียงคนเดียว ขณะยืนเรียกแท็กซี่ที่ริมทางเท้า มือปืนซึ่งตามรอยมาอย่างเงียบกริบ และซุ่มดักอยู่ก่อน ได้ชาร์จเข้าหาเล้ง พร้อมกับระเบิดกระสุนเข้าใส่ ๒ นัดซ้อน

กระสุนเจาะเข้าที่ไหล่ซ้าย และเหนือราวนมซ้าย แต่เล้งทรหดเกินคาด ยังมีแรงวิ่งข้ามถนนไปยังเกาะกลางถนน โดยมือปืนได้ลั่นกระสุนตามไปอีก ๕ นัด แต่พลาดเป้า เล้งวิ่งไปถึงเกาะกลางถนนก็ล้มหมดสติ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโลทันที แพทย์ผ่าตัดช่วยชีวิต "มังกรแห่งที่ราบสูง"จนพ้นขีดอันตราย

๓ ชั่วโมง ๔๕ นาที หลังจากเสี่ยเล้งโดนยิง และเข้ารักษาตัวใน ร.พ.เปาโล พล.อ.สุทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รุดเข้ามาเยี่ยมในฐานะคนรู้จัก และให้การสนับสนุนโครงการอิสานเขียว

พล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เข้าเยี่ยมในฐานะเพื่อน

นาย แคล้ว ธนิกุล (เฮียเหลา) เข้าเยี่ยมในฐานะรุ่นน้องที่รักเคารพ รวมทั้งนักการเมืองระดับ ส.ส. ซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเสี่ยเล้ง

สำหรับมือปืนที่ลั่นกระสุนสังหารเสี่ยเล้ง ถูกจับเกือบทันทีทันควันเพราะ ดวงซวยสุดขีด เนื่องจากขณะนั้น ส.ต.อ.เข็มเพชร นาเมืองรัก ตำรวจจราจร สน.บางซื่อ ตรวจตราอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เผ่นเข้าจับมือปืนไว้ได้พร้อมปืนของกลาง

มือปืนชื่อ นาย คำนึง นกพัฒน์ หลังจากถูกจับกุม มือปืนรับสารภาพว่า นาย ทวีศักดิ์ ชิดชอบ วัย ๓๗ ปี ลูกชาย นาย ชัย ชิดชอบ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ เป็นผู้จ้างวาน นายวิจิตรหรือปอง วิไลวรรณ อายุ ๓๓ ปี กับนาย ชัยยศ รุ่งเจริญพร วัย ๒๗ ปี เป็นคนติดต่อมือปืน

นาย คำนึง นกพัฒน์ ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า การทำงานล่าชีวิตเสี่ยเล้งครั้งนี้ ใช้พาหนะถึง ๓ คัน มีรถเก๋ง รถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์ ซึ่งใช้เป็นยานพาหนะนำมือปืนหลบหนี ตามแผนกำหนดให้นายคำนึงมือปืนลั่นไกปืนสังหาร นายสมปองเป็นคนขับขี่มอเตอร์ไซค์พามือปืนหลบหนี นายดำเป็นคนดูต้นทางและชี้เป้า นายวิจิตรกับนายปูด ทำหน้าที่คุ้มกัน ส่วนนายทวีศักดิ์กับนายยม รอฟังข่าวบริเวณโรงภาพยนตร์นิวยอร์ค

หลังจากนายทวีศักดิ์ ชิดชอบ ถูกจับกุมตัว นายทวีศักดิ์รับสารภาพว่า ตนเป็นนักพนันเล่นม้า แต่ถูกเสี่ยเล้งซึ่งเป็นเจ้าของคอกม้าให้ข้อมูลผิดในการแทงม้า ทำให้ตนกับเซียนม้า หมดตัวแทบล้มละลายตนจึงเจ็บแค้น และวางแผนจ้างวานสังหารเสี่ยเล้งด้วยตัวคนเดียว ไม่มีบุคคลอื่นหรือสาเหตุอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

คำสารภาพของนายทวีศักดิ์ คล้ายส่อเจตนาตัดตอนเรื่องทั้งหมดไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวการ หรือ ผู้บงการตัวจริง!!

สำหรับเสี่ยเล้ง ขอนเเก่นให้การว่า ตนเองไม่รู้สาเหตุในเจตนามุ่งหมายสังหารชีวิตตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่นายทวีศักดิ์ อ้างว่าตนบอกข้อมูลผิด เรื่องแทงม้านั้น...ออกจะเป็นเรื่องไม่ชอบมาพากล เพราะตนไม่มีม้าแข่งและไม่มีคอกม้า ส่วนสาเหตุเกี่ยวกับบ่อนนั้น ไม่น่าถึงกับฆ่ากัน เพราะตนไม่มีบ่อนและไม่ได้ก้าวก่ายกับธุระกิจของใคร

ผู้ออกคำสั่งฆ่า เสี่ยเล้ง หรือ"มังกรแห่งที่ราบสูง" เป็นใคร คงมีแต่เล้ง ขอนแก่นผู้เดียวที่อ่านเกมนี้ทะลุปรุโปร่ง

แต่ไม่พูด...