เมื่อ COVID-19 กำลังทำลายธุรกิจโรงภาพยนตร์ และใครๆ ก็อยู่บ้านดู Netflix!
จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส หรือ COVID-19 นั้นส่งผลกระทบต่อผู้คนอย่างมากมาย ทั้งเรื่องสุขภาพ และในเรื่องของธุรกิจต่างๆ อย่างเช่น ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงอยู่เหมือนกัน เพราะจากที่ปกติตอนที่ยังไม่มีไวรัส โรงภาพยนตร์ก็ต้องแข่งกับแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Netflix ที่แทบจะแย่งลูกค้าไปเกือบจะหมดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วยิ่งมาตอนนี้ที่เกิดเหตการณ์ COVID-19 ระบาดก็ยิ่งทำให้คนก็แห่ไปดู Netflix กันหมด ธุรกิจภาพยนตร์ก็เลยยิ่งซบเซาไปกันใหญ่
แต่ทาง Netflix เอง ก็ใช่ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เลย เพราะล่าสุดทาง EU ก็ได้ออกมาขอความร่วมมือ ให้ทาง Netflix หยุดสตรีมแบบ HD เพื่อลดความหนาแน่นของการใช้อินเทอร์เน็ต และเพื่อช่วยลดปริมาณการใช้งาน bandwidth ด้วย
ซึ่งทาง Netflix นั้นก็ยินยอมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยการประกาศจะทำการลดคุณภาพของวิดีโอในโซนยุโรปลง เป็นเวลา 30 วัน หลังผู้คนส่วนใหญ่แห่กันไปใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นเกม และดูหนัง Netflix เพื่อคลายเหงาจากการถูกกักตัวจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก จนยอดการใช้อินเตอร์เน็ตพุ่งสูงขึ้นมากถึง 75%
โดย Netflix ระบุว่า การลดคุณภาพวิดีโอนี้ จะช่วยลดการใช้งานดาต้า Netflix ได้ 25% โดยที่ยังคงสตรีมภาพยังคงชัดอยู่ จะมีเพียงผู้ใช้บางคนที่จะเห็นว่าคุณภาพวิดีโอนั้นดรอปลง ซึ่งการสตรีมแบบธรรมดานี้จะใช้ปริมาณเน็ตเพียงแค่ 700MB – 1GB เท่านั้น จากที่ปกติการใช้งานแบบ HD และ Ultra HD จะต้องใช้ปริมาณเน็ตมากถึง 3GB-7GB ต่อ 1 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หากเรายังไม่มีมาตราการควบคุมไอ้เจ้า COVID-19 นี้ให้หายออกไปได้ ธุรกิจโรงภาพยนตร์ก็อาจจะถึงคราวอวสานไปเลยก็ได้