หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

"ขนมแปะโอ่ง" เจ้าสุดท้ายแห่งนาบอน

เนื้อหาโดย เสาวนิจ

วันนี้ขอพามาย้อนรอนขนมโบราณ ตำนาน "ขนมแปะโอ่ง"  ขนมที่มีความยาวนานเป็น 100 ปี  จนได้ขนานนามว่าของดีนาบอน ปัจจุบันมีเพียงผู้สืบทอดเจ้าเดียวในนาบอน ที่ยังทำขายให้คนในพื้นที่และคนที่มาเยือนได้รับประทานกัน 

"ขนมแปะโอ่ง" มีเรื่องราวแสนยาวนาน ผ่านการสืบทอดต่อๆ กันมาจากบรรพบุรุษชาวไทยเชื้อสายจีนที่อพยพมาตั้งรกรากในพื้นที่อำเภอนาบอน

 

 ก่อนที่ชาวจีนฮกจิวจากเมืองฝูโจวจะอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานยังดินแดนสยาม ชาวจีนกลุ่มนี้ได้อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในมลายู

แล้วอพยบเข้ามาในประเทศ สมัยนั้นด้วยรถไฟ ก่อนมีสถานนีรถไฟนาบอน  มาตั้งรกรากทำมาหากิน และนำอาชีพการทำสวนยางมาทำในพื้นที่เป็นครั้งแรกจุดเริ่มต้นของสวนยางแปลงใหญ่ที่นั้น  นั้นเอง   จังหวัดนครศรีธรรมราช 

 

เมื่อชาวบ้านเริ่มทำสวนยาง  อาหารหลักที่นั้นคงหนีไม่พ้น  "ขนมแปะโอ่ง" ชาวบ้านเล่ากันว่า เมื่อก่อนขนมที่นำไปทานในสวนยางจะร้อยเป็นพ่วงแล้วผูกรอบเอว ไว้ทานในสวนยาง ทำให้อิ่มได้เป็นอย่างดี ทานกับ โกปี๊ในสมัยนั้นคืออาหารชั้นเยี่ยม และยังมีการใช้ขนมนำมาต้มจืดแทนเนื้อสัตว์ได้อีกด้วย 

ที่มาของขนมชนิดนี้เกิดขึ้นในยุคของชาวจีนฮกจิวจากเมืองฝูโจว ตั้งแต่สมัยสงครามและมีชื่อเรียกตามชื่อแม่ทัพในสมัยนั้น มีด้วยกัน 2 ชนิดคือชนิดเค็มและชนิดหวาน มีชื่อเรียกต่างกันไป แต่เหมือนมาทำกินในประเทศไทยชาวบ้านก็เรียกตามลักษณะวิธีการทำที่นำมาแปะที่โอ่ง  และจะมีอีกชื่อคือ ขนมสินสอดจะใช้ในพิธีกรรมงานมงคลสมรสในสมัยนั้นเป็นการรับขันหมากของผู้ที่มีฐานะขึ้นมา จะมีใส่ข้างใน

ชาวบ้านจะนิยมนำขนมมาผากลางแล้วกินกับกากหมู ทำให้มีรสชาติมากขึ้น 

ก่อนวัตถุดิบและส่วนผสมต่างๆ แบบโบราณไว้อย่างสมบูรณ์ น่าทึ่งดีเวลาที่ได้เห็นวิธีการอบขนมปังแบบโบราณ นำขนมปังเจาะรูตรงกลางแล้วเอาไปแปะไว้ในโอ่งที่มีเตาถ่านอยู่ตรงกลาง พอทำเสร็จแล้วจะไ้ด้ขนมปังที่มีความนุ่มและรสหวานกำลังดี กินได้เลยโดยไม่ต้องจิ้มอะไร

ปัจจุบันมีการทำแผ่นบางกรอบอบแห้งมากขึ้นสามารถส่งขายให้คนต่างถิ่นได้ลิ้มรส 

ขออภัยหากข้อมูลผิดพลาดประการใด เพราะข้อมูลได้รับจากการบอกเล่าพูดคุยกันระหว่างผู้เขียนและชาวบ้าน ไม่ได้ลงไปทำการศึกษาแบบจริงจัง เพียงนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้วิถีเท่านั้น

เขียนโดย เสาวนิจ  ปากบารา 

เนื้อหาโดย: เสาวนิจ
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เสาวนิจ's profile


โพสท์โดย: เสาวนิจ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (5/5 จาก 4 คน)
VOTED: Vaishya, โดนแมวตบ, zerotype, ลิงเป็นเด็กดีย์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอมเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหมแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยบุกจับเซียนพระลูกผู้ใหญ่บ้าน ยิงกลางร้านอาหารนครปฐม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอมปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get outชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าว บทความ รวมสาระต่างๆ
เชื้อราสารแฝงอาหารแห้ง ตัวก่อมะเร็งตับบทเรียนดราม่าธุรกิจเสริมความงาม7 เทพแห่งโชคลาภจากญี่ปุ่น ความหมายที่มากกว่าเงินทองล่าแม่มดแห่งซาเลม
ตั้งกระทู้ใหม่