ชาวนาปทุมฯ เฮ นาข้าวกว่า 30,000 ไร่ รอดภัยแล้ง
ชาวนาปทุมฯ เฮ นาข้าวกว่า 30,000 ไร่ รอดภัยแล้งหลังทีมปทุมธานีเร่งสูบน้ำเข้าคลอง
ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี นายชาธิป รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอธัญบุรี นายสมชาย ตรีณาวงษ์ นายอำเภอหนองเสือ นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมรายงานสถานการณ์น้ำ และการบริหารจัดการน้ำในปัจจุบันของจังหวัดปทุมธานี เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชนในพื้นที่
สำหรับพื้นที่อำเภอหนองเสือนั้นมีเกษตรทำนาข้าวอยู่กว่า 50,000 ไร่ ซึ่งก่อนหน้านี้ข้าวที่ปลูกไปแล้วประสบภัยแล้งจนเสี่ยงจะเสียหายแต่ตอนนี้สถานการณ์ภัยแล้งต่างๆเริ่มคลี่คลายลงไป โดยขณะนี้ทางจังหวัดปทุมธานีได้สูบน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์เข้ามาเติมลงยังคลองซอยต่างๆ ก็มีน้ำไหลลงคลองอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในคลองมีน้ำเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้เกษตรสูบน้ำนำไปเลี้ยงพืชผลนาข้าว ทำให้นาข้าวที่ปลูกไปก่อนหน้านี้ รอดพ้นความเสียหายกว่า 30,000 ไร่
นายชาธิป รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เน้นย้ำให้รวบรวมข้อมูลสถานการณ์น้ำ จัดทำเป็นรายงานสรุปน้ำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดให้รับทราบถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อวางแผนการดำเนินการบริหารจัดการน้ำใน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ อย่างทันท่วงที รวมทั้ง ได้เน้นย้ำถึงเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันประหยัดน้ำการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชใช้น้ำน้อย การรายงานสถานการณ์น้ำให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยการสื่อสารผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน เพื่อให้ข่าวสารเรื่องน้ำเผยแพร่ไปยังประชาชนอย่างทั่วถึง โดยชาวบ้านที่เดือดร้อนจากวิกฤตภัยแล้งต่างขอบคุณที่ทางราชการเข้ามาช่วยเหลือวิกฤตภัยแล้งในครั้งนี้ สำหรับจังหวัดปทุมธานี ได้ประกาศให้พื้นที่อำเภอหนองเสือ เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย(ภัยแล้ง)แล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ ได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัยในจังหวัดปทุมธานี รวมไปถึงผู้แทนกลุ่มเกษตรกรคลอง 7,8,9,10,11 และ 12 เข้าร่วมประชุม เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยที่ประชุมได้มีมติให้จัดรอบเวรการสูบน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เพื่อส่งน้ำเข้าไปช่วยพื้นที่อำเภอหนองเสือ อำเภอธัญบุรี รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาถนนชำรุดทรุดตัวและรักษาเสถียรภาพของถนนสาย รังสิต-นครนายก(สาย 305) และจะรักษาระดับน้ำในคลองรังสิตไม่ให้ต่ำจนเกิดผล กระทบต่อสเถียรภาพของคันคลองด้วย
ด้านนายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีกล่าว่า ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีก็เข้าไปช่วยสนับสนุนงบประมาณในการแก้ปัญหาภัยแล้งในครั้งนี้ โดยสนับสนุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำ จัดหาเครื่องสูบน้ำให้ในพื้นที่ที่ไม่มีเครื่องสูบน้ำเพียงพอซึ่งที่ผ่านมาเราสูบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มาเติมลงในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เพื่อให้น้ำในคลองมีปริมาณมากขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านเกษตรกรได้สูบน้ำจากคลองรังสิตฯ เข้าไปใน คลองซอยต่างๆในพื้นที่ ได้ทั่วถึงตั้งแต่คลอง7ถึงคลอง13จากการบูรณาการทุกภาคส่วนของจังหวัดปทุมธานีทำให้ขณะนี้พื้นที่ ที่เสี่ยงได้รับความเสียหายจากภัยแล้งก็ได้รับน้ำกันอย่างทั่วถึง พร้อมกันนี้เราได้จัดเจ้าหน้าที่คอยติดตามผลการจัดรอบเวรการสูบน้ำ และตรวจสอบคุณภาพน้ำโดยเฉพาะความเค็ม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเกษตรกร
กำพล วงศ์สุทธา