5 วิธีประหารชีวิต ที่อํามหิตที่สุดในประวัติศาสตร์ (มันควรโดน)
1. Boiling to Death ต้มน้ำเดือดจนตาย
วิธีประหารที่ทำให้นักโทษได้รับความเจ็บปวดทรมานช้าๆ โดยทั่วไปแล้ววิธีนี้จะให้นักโทษค่อยๆ เอาเท้าลงไปในหม้อต้มก่อน ซึ่งภายในหม้ออาจเป็นน้ำมันเดือด น้ำเดือด หรือขี้ผึ้งเดือดก็ได้ (เคยมีบันทึกว่าบางกรณีก็ใช้ไวน์เดือดแทน) ลองจินตนาการตามดูสิว่า แค่โดนน้ำมันกระเด็นใส่ตอนทำอาหารทีนี่ เราก็สะดุ้งตัวลอยกันแล้ว แล้วการที่ให้นักโทษเอาทั้งตัวลงไปแช่ในน้ำเดือดนี่มันจะทุรนทุรายขนาดไหน ผิวหนังคงหลุดออกเป็นแถบๆ เพราะโดนน้ำร้อนจัดแน่ๆ
2. The Blood Eagle อินทรีเลือด
การคาดเดาว่า วิธีประหารอินทรีเลือดนี้น่าจะมีที่มาจากเหล่านักรบโบราณสุดโหดแถบสแกนดิเนเวียอย่างพวกไวกิ้ง เดากันว่าพวกที่ดิบๆ เถื่อนๆ ในยุคก่อน ก็น่าจะมีแต่พวกไวกิ้งนี่แหละที่ดูท่าจะสามารถรังสรรค์จินตนาการเหี้ยมอำมหิตนี้ขึ้นมาได้ วิธีประหารนี้ขั้นแรกนักโทษจะถูกจับขึง เพชฌฆาตจะทำการผ่าเปิดผิวหนังด้านหลังจนเห็นกระดูกซี่โครง จากนั้นก็จะงัดเลาะกระดูกออกมาจากลำตัว จับกระดูกดัดชี้ขึ้นฟ้า ให้เป็นรูปทรงแบบปีกของนกอินทรี พอตัวนักโทษเหลือเป็นโพรงโบ๋ๆ แล้ว เพชฌฆาตก็จะดึงปอดนักโทษออกมา เอาเกลือโรยแผล (ไม่อยากคิดว่าจะแสบขนาดไหน แต่นักโทษคงตายตั้งแต่โดนแหวกหลังแล้วล่ะ) แม้จะเคยมีการพูดถึงว่าชายชนชั้นสูงเคยถูกประหารด้วยวิธีอินทรีเลือดในข้อหาฆาตกรรมพ่อแท้ๆ ของตัวเอง แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าเคยมีคนใช้วิธีนี้ประหารนักโทษจริงๆ หรือความจริงแล้วเป็นเรื่องจริงแค่บางส่วนแต่มีการแปลความกันผิดๆ กันแน่
3. Impalement เสียบ แทง
วิธีนี้ดูจากภาพแล้วก็เข้าใจได้ง่าย คือเหลาไม้ให้แหลม ปักไม้ลงพื้น แล้วเสียบร่างนักโทษ ถ้าเป็นนักโทษชายจะถูกเสียบทางรูทวาร ถ้าเป็นนักโทษหญิงจะถูกเสียบทางช่องคลอด โดยเพชฌฆาตจะเสียบไม้นี้จากร่างกายส่วนล่างขึ้นไปส่วนบน มีทั้งเสียบทะลุคอหอยหรือเสียบออกกลางลำตัว วิธีนี้จะทำให้นักโทษได้รับความเจ็บปวดทรมานช้าๆ จนเสียชีวิตในที่สุด บ้างก็ว่านักโทษบางคนต้องทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดจากการโดนเสียบนี้ไปถึง 8 วันทีเดียวกว่าที่จะตายสนิท
4. Keelhauling เรือลาก
การประหารบนบกอาจมีหลายวิธี แต่ถ้าลองเปลี่ยนสถานที่มาอยู่ในน้ำแทน ลองเดาดูสิว่าจะมีวิธีประหารแบบไหนบ้าง เท่าที่เคยเห็นในหนังก็มีการเอาไม้กระดานพาดยื่นออกไปนอกเรือ ให้นักโทษเดินไปสุดปลายไม้กระดาน แล้วกระโดดลงน้ำ ปล่อยให้นักโทษจมน้ำตายไปเอง ใครจะรู้ว่ายังมีการประหารด้วยวิธีเรือลากอีก โดยการประหารด้วยวิธีนี้จะนำเชือกมาผูกขาหรือเอวนักโทษ หย่อนตัวนักโทษลงไปในน้ำแล้วปล่อยให้ถูกกระแสน้ำพัดเหวี่ยงไปมา พูดให้เห็นภาพเข้าใจง่ายๆ ก็คือ เอานักโทษไปลากถูลู่ถูกังในน้ำ ตามชื่อวิธีประหาร ซึ่ง Keel แปลว่า กระดูกงูเรือ โครงเรือ Haul แปลว่า ลาก ฉุด ดึง ในที่นี้ขอเรียกอย่างโหดร้ายว่า วิธีเรือลาก เนื่องจากนักโทษจะถูกเรือลากไปตามกระแสน้ำ ถูกแรงปะทะของคลื่น ถูกเหวี่ยงไปชนเรือ เรียกว่าเป็นวิธีที่หฤโหดจริงๆ แค่โดนจับถ่วงน้ำยังไม่พอ ยังต้องมาโดนเรือลากไปอีก
5. The Roman Candle ดอกไม้เพลิง
ถ้าพูดถึงการประหารชีวิตด้วยวิธีใช้ไฟเผานั้น โดยมากแล้วก็จะนึกถึงการเผาทั้งเป็นที่ใช้ในการประหารหญิงต้องสงสัยว่าเป็นพวกแม่มดในยุคกลาง หรือการจับเผารมควันในวัวกระทิงเหล็กของพวกกรีกโบราณ นอกจากสองวิธีนี้แล้วก็ยังมีวิธีที่หฤโหดยิ่งกว่าที่ว่ามานั้นอีก นั่นก็คือวิธีดอกไม้เพลิงนี่แหละ
วิธีนี้เป็นวิธีที่จักรพรรดิเนโร (อีกแล้ว) โปรดปรานมาก วิธีการก็เดาได้ไม่ยาก เอาคบเพลิงจุดไฟเผานักโทษจากปลายเท้าขึ้นไป ฟังดูเหมือนกับวิธีเผาทั้งเป็นกับรมควันในวัวกระทิงใช่ไหม? อันที่จริงแล้ว วิธีการก็เหมือนกันจริงๆ นั่นแหละ คือจุดไฟเผาทั้งเป็น แต่ส่วนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงก็คือ จักรพรรดิเนโรสั่งให้มีการประหารนักโทษด้วยวิธีนี้ในสวนของพระองค์ เพื่อที่พระองค์จะได้รับชมอย่างเพลิดเพลินประหนึ่งเดินชมดอกไม้ในสวน หรือบางครั้งก็จะสั่งให้เผานักโทษข้างๆ กับงานปาร์ตี้ตอนกลางคืนของพระองค์ เพียงเพื่อให้งานเลี้ยงของพระองค์สว่างไสวจากไฟเผานักโทษพวกนี้นี่เอง ประมาณว่าคนจะตายก็ตายไป คนจะปาร์ตี้ก็ปาร์ตี้ต่อ ด้วยเหตุผลนี้เอง การประหารด้วยวิธีดอกไม้เพลิงจึงกลายเป็นวิธีเผาไฟที่โหดเหี้ยมเลือดเย็นที่สุด
Cr.@UndubZapp