เข้านอนที่ด่าหรัต เวียดนาม

     ด่าหลัต Đà Lạt, Việt Nam 3 วัน 2 คืน     

(งบ 1,786 บาท)

ด่าหลัต (Đà Lạt) เป็นเมืองในจังหวัดเลิมด่ง (Lâm Đồng) ทางภาคใต้ของประเทศเวียดนามครับ ตั้งอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลที่ 1,500 เมตร ชาวฝรั่งเศสเริ่มสร้างเมืองนี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2453 หลังจากอาแล็กซ็องดร์ แยร์แซ็ง นักวิทยาแบคทีเรียชาวฝรั่งเศษได้เข้ามาสำรวจที่ดินผืนนี้ และได้สร้างเมืองแห่งนี้ขึ้นครับ

เมืองด่าหรัตแห่งนี้เป็นเมืองที่มีอากาศดีม๊วกๆครับ กล่าวคือมีอากาศที่เย็นตลอดทั้งปี โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยราวๆ 18 – 25 องศาเซลเซียสครับ … สำหรับอุณหภูมิสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นในด่าหรัตคือ 27 องศาเซลเซียสครับ และต่ำสุดที่ 6.5 องศาเซลเซียสครับ

 

สนามบินด่าหลัต เป็นสนามบินเล็กๆครับ เมื่อเราลงจากเครื่องแล้วเดินเข้ามาก็จะเจอ ตม. เลย ไม่งง ไม่มีทางหลงอย่างแน่นอนครับ ซึ่งทริปนี้ผมเจอ ตม.ทั้งหล่อและเฟรนรี่มากๆครับ คือประทับใจสุดๆ พูดไทยได้ด้วย ยิ้มหวาน มองหน้าและชวนคุยตลอด นี้ถ้าเขาไม่ชวนทุกคนคุย เราก็คงมโนไปแล้วว่าเขาคงแอบมีใจให้กับเราแน่ 555+ … เมื่อผ่านด่าน ตม. ออกมาได้แล้ว ก็จะเจอกับประตูทางออกครับ ซึ่งตรงนั้นจะมีตู้เคาน์เตอร์สำหรับแลกเงินตราให้บริการ ซึ่งในทริปนี้ผมแลกเงินทั้งหมด 100 ดอลลาร์ครับ ซึ่งก็จะได้เงินเวียดนามอยู่ที่ 2,250,000 ดอง หรือตีเป็นเงินไทยก็ราว 2,955 บาทนั้นเองครับ

(ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม) 50,000 ดอง หรือประมาณ 65 บาท และขนมจีนหมอไฟ 79,000 ดอง หรือประมาณ 103 บาท ซึ่งรสชาติก็จะแปลกๆนิดนึ่งนะครับ แต่ก็อร่อยไปอีกแบบแหละ 555+

 

ใครที่ชอบความมุ้งมิ้ง สดใส ผมแนะนำที่สวนไฮเดรนเยียในด่าหลัตนี้เลยครับ เพียงแค่เราเสียค่าเข้าประมาณ 20.000 ดอง หรือประมาณ 27 บาท ก็สามารถเข้าไปถ่ายภาพสวยๆในสวนกันได้แล้วครับ ซึ่งที่สวนแห่งนี้มีดอกไฮเดรนเยียออกดอกตลอดทั้งปี เพราะเนื่องจากสภาพอากาศในด่าหลัต นั้นค่อนข้างเย็น จึงทำให้การเจริญเติบโตของดอกไม้ชนิดนี้มีการเจริญเติบโตค่อยข้างสูง แต่ถ้าอยากมาแบบบานสุดๆ ดอกเยอะๆเงี่ย ผมแนะนำให้มาในช่วงปลายปีครับ แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าคุณจะมาในช่วงเดือนไหน ก็คือได้เจอดอกไฮเดรนเยียเนี่ยเบ่งบานรอต้อนรับคุณอยู่อย่างแน่นอนครับ

แน่นอนครับว่า ไม่ว่าเราจะไปยังส่วนไหนในเมืองด่าหลัต เราก็ต้องผ่าน Lam Vien Square อย่างแน่นอนครับ เพราะที่นี่เขาจะเป็นคล้ายๆกับจัตุรัสศูนย์กลางเมืองที่เป็นจุดศูนย์รวมของวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวด่าหลัต ครับ โดยเราสามารถสังเกตสัญลักษณ์ได้แต่ไกลจากโดมสองโดมที่สร้างเลียนแบบดอกไม้ ซึ่งนั่นคือโดมดอกทานตะวันที่มีตัว Big-C อยู่ด้านล่าง และโดมดอกอาร์ติโชค (Atiso) เป็นดอกไม้เมืองประจำเมืองด่าหลัต นั้นเองครับ โดยโดมสีเขียวนี้จะเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ที่มีชื่อว่า Doha Cafe ซึ่งทั้งวัยรุ่นเวียดนาม และแขกไปไทมา ก็จะนิยมมาถ่ายรูปคู่และแวะเข้าไปจิบกาแฟกันในเจ้าโดมสีเขียวแห่งนี้ครับ

สำหรับคาเฟ่ที่ทำเลดีสุดในเมืองด่าหลัตที่สามารถมองเห็นวิวเมืองด่าหลัต ได้สวยที่สุดสำหรับผมแล้ว ต้องยกให้กับUP Coffee Đà Lạt แห่งนี้เลยครับ … วิวเมืองด่าหลัตจาก UP Coffee ว่าสวยยิ่งแล้ว การตกแต่งของคาเฟ่นี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยครับ คือดีย์มากกกกยอมใจจริงๆ ที่นี้จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้นโดยชั้นแรกจะเป็นที่สำหรับสั่งเครื่องดื่มและมีระเบียงโถงกว้างให้เราเดินออกไปดูวิวเมืองด่าหลัตได้ ส่วนที่นั่งจิบกาแฟจะอยู่ชั้น 2-3 ซึ่งเราสามารถเลือกนั่งได้ตามอัธยาศัยเลยครับ ซึ่งแต่ละชั้นก็มีดีไม่แพ้กันผมและเพื่อนนั่งแม่งเลยทั้งชั้น 2และ 3 คือบรรยากาศดีโคตรๆ 55+

สำหรับใครที่ชอบทานแหนมเนืองต้องมาลอง Nem Nướng ออริจินที่เวียดนามสักครั้งครับ ซึ่งผมไปกินที่ร้าน KQH Hoàng Văn Thụ ร้านนี้เห็นมีคนกินเยอะมากและยังมี GRAB Food มารับอีกก็เลยลองดูครับว่ามันจะอร่อยแค่ใหนกัน ซึ่งราคาอยู่ที่ชุดละ 40,000 ดอง หรือประมาณ 53 บาทครับ โดยจะเสริฟผักเคียงมาให้ถาดใหญ่หนึ่ง และแหนมทั้งแบบกรอบและไม่กรอบมาเสริฟให้กับเรา แต่ผมว่าแหนมเขาแอบเค็มนะ เล่นเอาไตผมแทบวายแหนะ 555+ … ครั้งเดียวพอเลยสำหรับผมนะ แหนมเนืองหนองคาย–อุดร บ้านเฮาอร่อยกว่าเยอะเลยครับ 555+

Cối Xay Gió เป็นร้านขนมปัง Banh Mi หรือขนมปังแซนวิชเวียดนามแบบสไตล์ฝรั่งเศสครับ โดยที่เห็นในเมืองด่าหลัตมีอยู่ด้วยกัน 2 สาขาคือ สาขาแรก 10 Ba Tháng Hai, Phường 1

 

และสาขาที่ สอง 135 Ba Tháng Hai, Phường 1 ซึ่งก็ไม่ได้ห่างจากกันมากครับ แต่สาขาที่ผมอยากแนะนำคือสาขาที่สองครับ ซึ่งสาขานี้จะอยู่ใกล้ๆ กับตลาดดาลัด ซึ่งที่เขาฮิตมาที่ร้าน Cối Xay Gió สาขานี้กัน ก็เพราะมาถ่ายรูปกันกับเจ้ากำแพงสีเหลืองที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านขนมปังร้านนี้นั้นเองครับ

หลังจากที่แว๊บถ่ายภาพและกินขนมปังแซนวิชเวียดนามแบบสไตล์ฝรั่งเศสลองท้องเสร็จแล้ว พวกเราก็นั่งแท็กซี่มาลงที่หน้าโรงแรม Ngoc Phat Hotel หลัง Big-C เช่นเดิมครับ เพื่อขึ้นรถ Shuttle Bus ไปยังสนามบินด่าหลัตเพื่อกลับยังกรุงเทพฯครับ ซึ่งค่าตั๋วรถก็เท่าเดิมคืออยู่ที่ 40,000 ดอง หรือ ประมาณ 60 บาทครับ

สรุปค่าใช้จ่ายในทริปนี้

• ค่าที่พัก 446,666 ดอง หรือประมาณ 613 บาท
• ค่าซิมเน็ต 175,000 ดอง หรือประมาณ 230 บาท
• ค่าเข้า Garden Hydrangeas 20,000 ดอง หรือประมาณ 26 บาท
• ค่า Shuttle Bus จากสนามบินเข้าเมือง 40,000 ดอง หรือประมาณ 52 บาท
• ค่า Shuttle Bus จากในเมืองไปสนามบิน 40,000 ดอง หรือประมาณ 52 บาท
• ค่ากินรวม 461,334 ดอง หรือประมาณ 605 บาท
• ค่าแท็กซี่หารสามคน 157,000 ดอง หรือประมาณ 206 บาท

รวมค่าใช้จ่ายตลอดทั้งทริป  1,360,000 ดอง หรือประมาณ 1,786 บาท

หมายเหตุ* ผมแลกเงินไป 2,250,000 ดอง หรือประมาณ 2,955 บาท – ยอดคงเหลือกลับไทย 890,000 ดอง หรือประมาณ 1,170 บาท

หากรวมค่าเครื่องบินเข้าไป 2,800 บาท – ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะอยู่ที่ 4,586 บาท