ยกคิ้ว ที่ไทยดีกว่าบินไปเกาหลีอย่างไร?!!
ยกคิ้ว ที่ไทยดีกว่าบินไปเกาหลีอย่างไร?!!
ขึ้นชื่อว่า ศัลยกรรมเป็นการเปลี่ยนชีวิตคน ๆ นึงให้เปลี่ยนไปได้ภายในชั่วพริบตา และการผ่าตัดยกคิ้วก็เป็นอีกหนึ่งการศัลยกรรมที่เห็นผลได้ชัดเจนเรื่องความอ่อนเยาว์ จบครบในหลายปัญหาทั้ง ตาตก คิ้วตก คิ้วแคบ พื้นที่ระหว่างตากับคิ้วน้อยทำให้หน้าดุ ดูไม่สดใส มีรอยย่นที่หน้าผาก และวิธีนี้กำลังได้รับความนิยมในหมู่ดารา เซเลป แต่จะปังหรือจะพังกันแน่ ถ้าคุณเลือกไปทำที่เกาหลี จะดีกว่าไหมถ้าสวยจบอย่างอุ่นใจที่ไทยเท่านั้น
1.กฎหมายในเกาหลี
แน่นอนคนที่ไปทำศัลยกรรมยกคิ้วที่เกาหลีไม่ใช่ทุกเคสที่จะรอด มีเปอร์เซ็นต์ไม่น้อยที่มีปัญหา เกิดการติดเชื้อ หมอไม่รับผิดชอบเมื่อเกิดปัญหาตามมา กรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังจากผ่าตัด ลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่จะยื่นฟ้องหรือแก้ปัญหาถือว่าเป็นเรื่องยาก เพราะกฎหมายในแต่ละประเทศเป็นเรื่องแตกต่างกัน เมื่อเกิดปัญหาทางรพ.เกาหลี จะยกเอาข้อกฎหมายอีกทั้งยังคำพิพากษาของศาลเกาหลี มาอ้างเมื่อถึงจุดนั้น การฟ้องร้องจะยุ่งยากมากต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลามากมาย ไม่คุ้มเลยใช่ไหมคะ และยังมีอีกไม่น้อยที่บินไปทำกับหมอเกาหลีแล้ว ยังต้องบินกลับมาให้หมอที่ไทยแก้ไขปัญหา
2. เงินนั้นสำคัญ เวลาก็เช่นกัน
คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่านอกจากเวลาที่เสียไปกับการเดินทาง เสียเวลาทำพาสปอร์ต ค่าเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าผ่าตัด ค่านอนโรงพยาบาลในเกาหลี เวลาเดินทางไปกลับ อาจจะไม่ได้รับรองแน่ชัดว่าเงินและเวลาที่เสียไปจะออกมาคุ้มค่า เมื่อเทียบกับการผ่าตัดในโรงพยาบาลชั้นนำในไทยที่ไว้ใจได้ และ สามารถเข้ามาดูแลหลังทำ ตัดไหมหลังผ่าตัดยกคิ้ว ปรึกษาอาการหลังทำกับแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร สะดวกสบาย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สบายใจกว่าไปทำที่อื่นเป็นไหน ๆ
3. การสื่อสารคนละภาษาอาจทำให้ผลออกมาไม่ตรงใจ
การสื่อสารที่ไม่เข้าใจตรงกันทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้อย่างใจ สำหรับคนไทยส่วนใหญ่อาจจะมีหลายคนที่พูดเกาหลีไม่ได้ คงต้องอาศัยล่ามเป็นตัวกลางในการสื่อสารกับหมอเพื่อช่วยแปล ทำให้ข้อความที่สื่อสารออกไปคลาดเคลื่อน แน่นอนเมื่อการสื่อสารเกิดการเข้าใจไม่ตรงกัน ผลลัพธ์ที่ออกมา ก็คงไม่เป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่ ศัลยกรรมของคุณจะออกมาอย่างที่คาดหวังไหม คงจะน่าหงุดหงิดใจน่าดูใช่ไหมหละคะ แบบนี้ คงจะดีกว่าไม่น้อยถ้าได้เข้าพบกับหมอไทยที่สื่อสารตรงใจคุยกันรู้เรื่องถึงรายละเอียด ความต้องการของเราแบบตัวต่อตัว
4.แพทย์ที่เกาหลีไม่ได้เก่งกันทุกคน!
ถ้าคุณคิดจะบินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี ควรได้รับผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะที่เกาหลีแพทย์ควรต้องผ่านการเป็นแพทย์ฝึกหัด 1 ปี และยังต้องศึกษาต่อในเฉพาะทางอีกถึง 4 ปี ซึ่งโรงพยาบาลที่เกาหลีนั้นแพทย์โดยทั่วไปไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรม ดูได้จากชื่อขึ้นต้น โรงพยาบาลที่ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้นมักจะใช้ชื่อขึ้นต้นว่า ‘โรงพยาบาลศัลยกรรม’ หากเป็นโรงพยาบาลที่ไม่เชี่ยวชาญเฉพาะทางนั้นจะใช้ชื่อขึ้นต้นว่า ‘โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง’ แต่สำหรับเหล่าคนไทยที่อ่านภาษาเกาหลีไม่ออกนั้นมักจะไม่สามารถแยกออกได้ ดังนั้นควรต้องเช็คผ่านทางเซลหรือเอเจนซี่ผู้ที่มีความน่าเชื่อถือแล้วจึงจะตัดสินใจทำศัลยกรรม
5.เอเจนซี่ ผู้แสนดี ของโรงพยาบาลเกาหลี
สมัยนี้มีเอเจนซี่ศัลยกรรมของรพ.เกาหลีมากมาย ทั้งปลอดภัยและไม่ปลอดภัย แต่ก็มีไม่น้อยที่เอเจนซี่โน้มน้าวหลอกให้เราบินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี ไม่ว่าจะอวดอ้างสรรพคุณของหมอในเกาหลีสารพัด พูดจนลูกค้าเคลิบเคลิ้มหลงเสียเงินไปหลักล้าน แต่ผลลัพธ์ของลูกค้าหลายคนออกมาพังเพราะหมอไม่ได้เก่งอย่างที่โฆษณาไว้หรือไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง ถ้าคุณยังไม่มีความรู้เหมือนคนในประเทศเกาหลีจริงๆมาโดนโน้มน้าวแบบนี้ก็เคลิ้มสิคะ หรืออีกกลุ่มหนึ่งมักถูกโกงเงินจากเอเจนซี่พวกนี้อย่างหน้าตาเฉย กลายเป็นเรื่องเป็นราวต้องฟ้องร้องกันอีกทอด ถ้าโชคดีอีกหน่อยอาจจะแค่โดนเก็บเงินเกินจำนวนที่ต้องจ่ายจริงสักก้อนนึง เจ็บทุกทาง สบายใจแค่ไหนถ้าคุณเข้ามาติดต่อด้วยตอนเองตั้งแต่แรก โดยไม่ต้องผ่านกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ หาข้อมูลและเข้ามาพบแพทย์ด้วยตัวเองกับโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือทางด้านยกคิ้วในไทยเถอะค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับคนที่คิดไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีอ่านแล้วเปลี่ยนใจกันบ้างมั๊ย เพราะที่ไทยก็ยังมีโรงพยาบาลอีกมากมายที่น่าเชื่อถือไม่แพ้กัน เท่าที่แอดหาข้อมูลมาโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือทางด้านนี้น่าจะหนีไม่พ้น โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ นี่แหละเพราะที่นี่เขาชื่อเรื่องการผ่าตัดยกคิ้ว เพราะบรรดาดารา เซเลป หลายคนไว้วางใจมาใช้บริการ ทั้งยังมีหมอคนแรกของประเทศไทย ที่เริ่มทำศัลยกรรมยกคิ้วรวมถึงมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยการันตีจากรางวัลอันดับ 1 ของประเทศไทยในเรื่องการยกคิ้วด้วย Endotine ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ยังไงก็ศึกษาข้อมูลดีๆนะคะ สมัยนี้ศัลยกรรมได้ง่ายแต่หาที่ปลอดภัยและออกมาสวยปังได้มาตรฐาน คงต้องศึกษากันให้มาก