เรือนจำหลอน
เรือนจำเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ถูกร่ำลือว่ามีความเฮี้ยนและหลอนไม่แพ้ที่ไหนๆคนภายนอกอาจไม่เคยรู้ว่าในเรือนจำนั้นมีคนตายขณะถูกจองจำอยู่ไม่น้อยบางคนป่วยตายบางคนแก่ตายและบางคนถูกตัดสินประหารชีวิต เรือนจำบางขวางเรือนจำที่ได้ชื่อว่า โหดติดอันดับต้นๆของโลกแม้จะมีคนออกมาแย้งว่าความโหดที่ว่ากันนั้นเป็นเพียงนิยายที่แต่งขึ้นเท่านั้นแต่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเรือนจำบางขวางก็คือครั้งหนึ่งในอดีตได้มีนักโทษสามคนถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าแม้ว่าพวกเขาจะยืนยันว่าตนเองไม่เกี่ยวข้องกับคดีแต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องจบชีวิตลง ทั้งสามถูกประหารชีวิตท่ามกลางข้อถกเถียงของสังคมโดยทั้งสามคนได้วอนขอสิ่งสุดท้ายก่อนถูกยิงเป้าต่อผู้คุมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ว่า เมื่อทั้งสามคนสิ้นชีพแล้ว ขอให้ปลูกต้นโพธิ์ไว้สามต้น โดยให้จัดลักษณะการปลูกเป็นแนวสามเหลี่ยมไว้ในเรือนจำแต่เมื่อทั้งสามถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้วกลับไม่ได้มีการปลูกต้นโพธิ์ตามคำร้องขอของพวกเขาจึงเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นมากมายในเรือนจำบางขวาง ทำให้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ตัดสินใจปลูกต้นโพธิ์สามต้นในลักษณะรูปสามเหลี่ยม ตามที่อดีตนักโทษได้ขอไว้ก่อนตายจากนั้นเรื่องราว ประหลาดๆทั้งหมดจึงหายไปทุกวันนี้ต้นโพธิ์ทั้งสามก็ยังขึ้นตระหง่านอยู่ภายในเรือนจำ
จึงเป็นตำนานเล่าขานปากต่อปากมาจนถึงทุกวันนี้โดยเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นก่อนปลูกต้นโพธิ์สามต้นนั้นเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ วัย 50 ปี ได้เล่าถึงเรื่องหลอนภายในเรือนจำบางขวางว่า หลายปีก่อนขณะที่เป็นผู้คุมอยู่ที่บางขวางมีเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในวันหนึ่งขณะทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยที่ ตึกขังเดี่ยว ตอนนั้นเป็นช่วงกลางดึกต้องเข้าเวรคนเดียว ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบเชียบจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงของกระป๋องน้ำอัดลมกลิ้งเป็นทางยาวบนตึกชั้นสองเสียงกลิ้งนั้นดังอยู่นานพอสมควรตอนแรกคิดว่านักโทษไม่ยอมนอนตามเวลาและทำอะไรเสียงดัง จึงได้ไขกุญแจเพื่อที่จะเดินขึ้นไปบอกให้เข้านอนแต่พอก้าวขาเข้าไปก็ตกตะลึงเพราะฝั่งที่ขึ้นไปนั้นไม่มีผู้ต้องขังอยู่เลยแม้แต่คนเดียวและก็ไม่พบกระป๋องน้ำอัดลมด้วยจึงรีบเดินลงมาพร้อมกับอาการเกร็งจนแทบก้าวขาไม่ออกมือไม้เย็นเฉียบราวกับจับน้ำแข็งมา ทำเอาผู้คุมคนนั้นหลอนชนิดที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว
นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีเรื่องหลอนอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในเรือนจำบางขวางตอนนั้นเป็นช่วงพักผู้คุมที่เป็นหัวหน้าอยู่ที่ชั้นล่างส่วนลูกน้องนอนอยู่ในห้องชั้นสองจนกระทั่งช่วงกลางดึกลูกน้องได้ลุกไปเข้าห้องน้ำซึ่งต้องเดินผ่านห้องขังในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมืดตอนนั้นสายตาที่จดจ่อไปตามทางเดินก็ไปสะดุดตากับบางสิ่งบางอย่างเข้าพอหยุดเพ่งดูก็เห็นว่าเงาประหลาดนั้น ลักษณะคล้ายผู้หญิงลอยตัวทะลุผ่านลูกกรงห้องขังไปต่อหน้าต่อตาแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้ผู้คุมหวาดกลัวและไม่กล้าขึ้นไปชั้นสองอีกเลย