สำหรับใครก็ตามที่ได้ ทำบัตรเครดิต ไว้นั้นแน่นอนว่าก็จำเป็นที่จะต้องรู้เรื่องราวอะไรหลายๆ อย่างเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เรานั้นตกเป็นหนี บัตรเครดิต นั่นเอง ทั้งนี้ก็เพราะว่าการ ทำบัตรเครดิต ไว้ใช้งานนั้นมันก็เหมือนกับการที่เรายืมเงินของธนาคารออกมาใช้จ่ายก่อน แล้วเมื่อถึงระยะเวลาสิ้นรอบบิลเมื่อไหร่เราก็ค่อยเอาเงินไปชำระหนี้คืนให้แก่ธนาคารนั่นเอง ซึ่งมันจะแตกต่างกับการมีบัตรเดบิตไว้ใช้งาน เพราะบัตรเดบิตนั้นเราจำเป็นที่จะต้องมีเงินของเราในบัญชีธนาคารและถ้าหากจะใช้จ่ายเท่าไหร่ก็จะต้องมีเงินในบัญชีให้พอ ทั้งนี้บัตรเดบิตนั้นยังสามารถโอนได้ด้วยโดยที่ไม่ต้องเสีย ค่าธรรมเนียมโอนเงิน อีกด้วย และในวันนี้เรามีเรื่องของข้อกฎหมายที่อยากให้ผู้มีบัตรเครได้รับรู้ไว้ รวมถึงผู้ที่เป็นหนี้ บัตรเครดิต แล้วด้วย ซึ่งนั่นก็คือ
1. ห้ามผู้ทวงถามติดต่อกับคนอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้บัตรเครดิต หรือคนที่ลูกหนี้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ ซึ่งในข้อนี้สำคัญมาก เพราะก่อนที่จะมีกฎหมายออกมานั้น เจ้าหนี้มักจะติดต่อไปยังเพื่อนรวมงาน หรือนายจ้างของลูกหนี้บัตรเครดิต และบอกเล่าเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้บัตรเครดิตให้ฟัง เพื่อให้ลูกหนี้บัตรเครดิตได้รับความอับอาย แต่ทั้งนี้ก็ยังอนุญาตให้ติดต่อกับบุคคลอื่นได้เพื่อถามที่อยู่และสถานที่ติดต่อลูกหนี้ และห้ามบอกถึงความเป็นหนี้ของลูกหนี้ เว้นแต่บุคคลอื่นที่ติดต่อเป็นบุพการี คู่สมรส หรือบุตร และบุคคลดังกล่าวได้สอบถามถึงสาเหตุที่ต้องการติดต่อลูกหนี้นั่นเอง
2. ห้ามติดต่อลูกหนี้บัตรเครดิตไปยังสถานที่อื่น ในกรณีที่ติดต่อทางไปรษณีย์ต้องติดต่อไปตามที่อยู่ที่ลูกหนี้ระบุไว้ แต่ถ้าลูกหนี้บัตรเครดิตไม่ได้แจ้งไว้ และเจ้าหนี้ได้พยายามติดต่อตามสมควรแล้วก็สามารถติดต่อไปยังสถานที่ทำงาน ถิ่นที่อยู่ หรือภูมิลำเนาของลูกหนี้ได้นั่นเอง
3. ห้ามติดต่อนอกเวลา หากโทรศัพท์สามารถทำได้ในวันจันทร์ – ศุกร์ ภายในเวลา 8:00น. – 20:00น. ส่วนในวันหยุดราชการต้องติดต่อภายในเวลา 8:00น. – 18:00น. เท่านั้น หรือเวลาอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
4. ห้ามทวงหนี้โดยไม่ได้รับมอบอำนาจ กรณีผู้ทวงไม่ใช่เจ้าหนี้ ต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจของเจ้าหนี้ให้แก่ลูกหนี้ดูด้วย และเมื่อลูกหนี้ชำระหนี้ให้ออกหลักฐานการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ไว้ด้วย ถ้าหากลูกหนี้ชำระหนี้โดยสุจริตแต่ผู้ทวงถามไม่ได้รับมอบอำนาจมาจริง ถือว่าลูกหนี้ได้ชำระหนี้เรียบร้อยแล้ว
5. ห้ามระทำการทวงถามหนี้โดยใช้วิธีการไม่สุจริต เช่น การข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง ทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น ใช้วาจาดูหมิ่นลูกหนี้หรือผู้อื่น หรือติดต่อลูกหนี้โดยไปรษณียบัตร เอกสารเปิดผนึก โทรสาร ใช้ข้อความ สัญลักษณ์ที่เปิดเผยว่าเป็นการทวงถามหนี้อย่างชัดเจน
6. ห้ามใช้ข้อความอันเป็นเท็จ ห้ามใช้ข้อความ สัญลักษณ์ เครื่องแบบ ที่ทำให้ลูกหนี้เข้าใจได้ว่าเป็นการกระทำของศาล เจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือการแสดง ใช้ข้อความที่ทำให้ลูกหนี้เข้าใจได้ว่าเป็นการทวงถามหนี้โดยทนายความหรือสำนักงานทนายความ หรือแสดง ใช้ข้อความที่ทำให้ลูกหนี้เชื่อว่าจะถูกดำเนินคดี หรือถูกยึด อายัดทรัพย์หรือเงินเดือน