เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Bionic Eyes ฝังชิปเข้าไปในประสาทตา เพื่อแปลงสัญญาณไฟฟ้าให้ตรงกับสมอง
“หลังจากที่ผมมืดบอดมานาน 20 ปี วันนี้ผมก็กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง”
นี่คือความมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจริงกับ แอนโธนี่ แอนดรีโอโทลลา ชายชาวสหรัฐฯที่ป่วยเป็นโรคจอตาเสื่อมประเภท Retinitis Pigmentosa (PR) จึงทำให้เขาต้องสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่เป็นวัยรุ่น แต่ตอนนี้เขาสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้งด้วย อุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Bionic Eye
“แม้ว่าตาของผมจะไม่ได้บอดสนิท แต่มันก็แทบใช้งานไม่ได้ ผมเห็นสิ่งต่าง ๆ ผิดเพี้ยนไปจากคนปกติ ก้อนเมฆ รถบนถนน ทุกอย่างกลับบิดเบี้ยวและกลายเป็นสีดำ” แอนโธนี่ อธิบายถึงอาการป่วยของตน
แต่หลังจากที่เขาได้ทดลองสวมใส่ Bionic Eye เขาก็พูดว่า “ผมได้ความหวังกลับคืนมา ผมต้องทำใจอยู่นานที่จะยอมรับว่าต้องสูญเสียการมองเห็นไปตลอดชีวิต และถึงแม้การมองเห็นในครั้งนี้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ผมเชื่อว่าถ้าผมมีชีวิตอยู่นานกว่านี้ ผมจะสามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้แน่นอน”
เทคโนโลยี “Bionic Eyes” สร้างขึ้นโดยบริษัทในปารีสที่ชื่อ Pixium Vision เป็นแว่นตาที่มีกล้องติดอยู่ ซึ่งภาพที่ถ่ายจากกล้องจะถูกส่งไปยังไมโครชิปที่ฝังอยู่ในจอประสาทตาของผู้สวมใส่ และสัญญาณนี้ก็จะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่สมองสามารถเข้าใจจึงทำให้ผู้ที่สวมมองเห็นภาพนั้นได้
ที่ผ่านมามีการทดลองใช้แว่นตากับอาสาสมัคร โดยผู้เข้าร่วมต่างสูญเสียการมองเห็นก่อนที่จะฝังไมโครชิป พอหนึ่งปีหลังจากผ่าตัดฝังชิปเข้าไป ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่สามารถอ่านตัวหนังสือในระดับหนึ่งได้ บางคนสามารถอ่านได้เฉพาะตัวอักษร ในขณะที่บางคนสามารถอ่านเป็นคำได้
ภาพที่สร้างขึ้นโดยชิปที่ถูกฝังลงไปนั้นมีความคมชัดเพียง 378 พิกเซล แม้ว่าจะห่างไกลจากการมองเห็นปกติแบบคนทั่วไปในค่าสายตาในระดับ 20/20 แต่ก็ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการช่วยให้คนตาบอดสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
ความหวังของ Bionic Eyes คือการให้มันสามารถรักษาผู้ป่วยแบบต่าง ๆ เช่น โรคจุดภาพชัดของจอตาเสื่อม ที่ปัจจุบันไม่สามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้ เป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อจอประสาทตาที่รับผิดชอบในพื้นที่ส่วนกลางของการมองเห็น ส่งผลให้คนที่เป็นโรคดังกล่าว จะเห็นจุดส่วนกลางเบลอหรือไม่เห็นอะไรเลย
แต่น่าเสียดายที่เทคโนโลยีนี้ไม่สามารถใช้กับคนที่เกิดมาตาบอดตั้งแต่กำเนิดได้ เพราะมันต้องทำงานร่วมกับเส้นประสาทตาที่พัฒนาอย่างสมบูรณ์แล้วเท่านั้น ซึ่งแผนต่อไปคือการช่วยให้คนที่ตาบอดตั้งแต่กำเนิดสามารถมองเห็นได้ จะเริ่มทดลองในปี 2020 ที่จะถึงนี้ครับ
Fact – บางคนเกิดมาพร้อมกับตาทั้งสองข้างที่มีสีไม่เหมือนกัน ซึ่งเรียกว่าโรค Heterochromia Iridum เป็นผลมาจากค่าเม็ดสีเมลานินในดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่มักได้รับการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นผ่านพันธุกรรม แต่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอุบัติเหตุได้เช่นกัน
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
เจ็บ 5 ราย หลังเกิดเหตุกราดยิง ในกรุงวอชิงตัน
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
เจาะเทรนด์ปี 2026! นิสัยและไลฟ์สไตล์ผู้ชายแบบไหนที่ "ดึงดูดใจ" สาวๆ ยุคใหม่มากที่สุด
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
บทเรียนรักกลางสมุทร: อดีตลูกเรือสำราญเตือนสติ ทำไม "ความรักในที่ทำงาน" บนเรือถึงเป็นดราม่าที่หนีไม่พ้น
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69
เปิดตำนานอาถรรพ์ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" แห่งวัดกุฎีดาว: ความลี้ลับที่อยู่คู่แผ่นดินอยุธยา
'ภิกษุณี' สตรีที่ผ่านการอุปสมบทอย่างสมบูรณ์ในพระพุทธศาสนา
อศาสนิก SBNR (Spiritual But Not Religious) เชื่อเรื่องธรรม จิตวิญญาณ แต่ไม่นับถือศาสนา
เจาะระบบเตือนภัย J-ALERT ระบบเตือนภัยที่ทรงพลังที่สุดในโลก
10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวที่คุณอาจเข้าใจผิด
ใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
ปีใหม่นี้ไหนใครขับรถเที่ยว ไปต่างจังหวัดบ้าง งั้นต้องมาเซฟนี่เลย #ทางด่วน #มอเตอร์เวย์ฟรี
🤯Google ค้นพบความลับ พิมพ์ "67" แล้วจอจะสั่น! ไขปริศนาทำไม Google ถึงกลายเป็นสนามเด็กเล่นของชาวเน็ต
เสน่ห์เหนือกาลเวลา Polaroid vs Instax – การต่อสู้ของภาพถ่ายด่วนในยุคดิจิทัล
PixNapping ภัยคุกคามใหม่สำหรับ Android ที่ 'ลึก' กว่าเดิม ขโมยข้อมูลได้แม้กระทั่งในอดีต!



