หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Bionic Eyes ฝังชิปเข้าไปในประสาทตา เพื่อแปลงสัญญาณไฟฟ้าให้ตรงกับสมอง

โพสท์โดย BW KU

“หลังจากที่ผมมืดบอดมานาน 20 ปี วันนี้ผมก็กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง”

นี่คือความมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจริงกับ แอนโธนี่ แอนดรีโอโทลลา ชายชาวสหรัฐฯที่ป่วยเป็นโรคจอตาเสื่อมประเภท Retinitis Pigmentosa (PR) จึงทำให้เขาต้องสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่เป็นวัยรุ่น แต่ตอนนี้เขาสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้งด้วย อุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Bionic Eye

 

“แม้ว่าตาของผมจะไม่ได้บอดสนิท แต่มันก็แทบใช้งานไม่ได้ ผมเห็นสิ่งต่าง ๆ ผิดเพี้ยนไปจากคนปกติ ก้อนเมฆ รถบนถนน ทุกอย่างกลับบิดเบี้ยวและกลายเป็นสีดำ” แอนโธนี่ อธิบายถึงอาการป่วยของตน

แต่หลังจากที่เขาได้ทดลองสวมใส่ Bionic Eye เขาก็พูดว่า “ผมได้ความหวังกลับคืนมา ผมต้องทำใจอยู่นานที่จะยอมรับว่าต้องสูญเสียการมองเห็นไปตลอดชีวิต และถึงแม้การมองเห็นในครั้งนี้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ผมเชื่อว่าถ้าผมมีชีวิตอยู่นานกว่านี้ ผมจะสามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้แน่นอน”

เทคโนโลยี “Bionic Eyes” สร้างขึ้นโดยบริษัทในปารีสที่ชื่อ Pixium Vision เป็นแว่นตาที่มีกล้องติดอยู่ ซึ่งภาพที่ถ่ายจากกล้องจะถูกส่งไปยังไมโครชิปที่ฝังอยู่ในจอประสาทตาของผู้สวมใส่ และสัญญาณนี้ก็จะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่สมองสามารถเข้าใจจึงทำให้ผู้ที่สวมมองเห็นภาพนั้นได้

ที่ผ่านมามีการทดลองใช้แว่นตากับอาสาสมัคร โดยผู้เข้าร่วมต่างสูญเสียการมองเห็นก่อนที่จะฝังไมโครชิป พอหนึ่งปีหลังจากผ่าตัดฝังชิปเข้าไป ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่สามารถอ่านตัวหนังสือในระดับหนึ่งได้ บางคนสามารถอ่านได้เฉพาะตัวอักษร ในขณะที่บางคนสามารถอ่านเป็นคำได้

ภาพที่สร้างขึ้นโดยชิปที่ถูกฝังลงไปนั้นมีความคมชัดเพียง 378 พิกเซล แม้ว่าจะห่างไกลจากการมองเห็นปกติแบบคนทั่วไปในค่าสายตาในระดับ 20/20 แต่ก็ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการช่วยให้คนตาบอดสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง

ความหวังของ Bionic Eyes คือการให้มันสามารถรักษาผู้ป่วยแบบต่าง ๆ เช่น โรคจุดภาพชัดของจอตาเสื่อม ที่ปัจจุบันไม่สามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้ เป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อจอประสาทตาที่รับผิดชอบในพื้นที่ส่วนกลางของการมองเห็น ส่งผลให้คนที่เป็นโรคดังกล่าว จะเห็นจุดส่วนกลางเบลอหรือไม่เห็นอะไรเลย

 

แต่น่าเสียดายที่เทคโนโลยีนี้ไม่สามารถใช้กับคนที่เกิดมาตาบอดตั้งแต่กำเนิดได้ เพราะมันต้องทำงานร่วมกับเส้นประสาทตาที่พัฒนาอย่างสมบูรณ์แล้วเท่านั้น ซึ่งแผนต่อไปคือการช่วยให้คนที่ตาบอดตั้งแต่กำเนิดสามารถมองเห็นได้ จะเริ่มทดลองในปี 2020 ที่จะถึงนี้ครับ

Fact – บางคนเกิดมาพร้อมกับตาทั้งสองข้างที่มีสีไม่เหมือนกัน ซึ่งเรียกว่าโรค Heterochromia Iridum เป็นผลมาจากค่าเม็ดสีเมลานินในดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่มักได้รับการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นผ่านพันธุกรรม แต่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอุบัติเหตุได้เช่นกัน

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
BW KU's profile


โพสท์โดย: BW KU
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: jarasporn
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568ไทยเคารพการตัดสินใจของมาเลเซีย ในการปิดฐานด่านผ่านแดนผิดกฎหมายเจ้าของร้านขายเนื้อหมา ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าตๅยใน 3 วันโลกออนไลน์แฉ ร้านอาหารของคนจีน แถวคลองเตยไม่ตรงปกสภาพสุดยี้ ไรเดอร์ไปทีไรแทบอ้วกแสงปริศนาโผล่เหนือท้องฟ้าทั่วไทย ไม่ใช่ต่างดาว!..เฉลยแล้วคืออะไร ?เสียชีวิตทันที หนุ่มอินเดียซ้อมท่าพลิกตัวกลางอากาศ พลาดหัวปักลงพื้น50 ปัญหายอดฮิต "มนุษย์งาน"หนุ่มคลั่งการ์ตูนชินจัง ลงทุนสร้างบ้านเหมือนเป๊ะ!!หนุ่มชาวจีนตัดสินใจลบรอยสัก เพราะทำให้ชีวิตลำบากมากขึ้นด่วน !!! เกิดเหตุสลด!! เครื่องบินเล็กตก เสียชีวิตกว่า 10 ราย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ขี้เถ้าถ่าน มีประโยชน์มากที่หลายคนยังไม่รู้เสียชีวิตทันที หนุ่มอินเดียซ้อมท่าพลิกตัวกลางอากาศ พลาดหัวปักลงพื้น50 ปัญหายอดฮิต "มนุษย์งาน"
กระทู้อื่นๆในบอร์ด มือถือ Gadget เทคโนโลยี
Tesla เรียกคืนรถยนต์3 รุ่น เกือบ 700,000 คันมือถือระเบิดใส่หูสาวอินเดียจนเสียชีวิต เพราะคุยโทรศัพท์ขณะชาร์จ"รีวิว/เปรียบเทียบ: แว่น VR รุ่นไหนในปี 2024 ที่ให้ภาพคมชัดสุด? (ขอคำแนะนำหน่อยครับ)""Al Hamra Business Tower" ตึกระฟ้าสุดโดดเด่น แลนด์มาร์คแห่งคูเวต
ตั้งกระทู้ใหม่