นักสิทธิมนุษยชนวัยรุ่นไทยกับหัวใจเพื่อเด็กและสตรีบนเวทีโลก
“ชีวิตจะมีความหมายหากได้ทำอะไรที่แตกต่าง”
กมลนันท์ เจียรวนนท์ หรือ น้องฟ่ง วัย 23 ปี ทายาทคนที่สองของศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และหลานปู่ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เลือกเส้นทางชีวิตที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในตระกูล ที่ล้วนแล้วแต่เป็นนักธุรกิจ กับการเป็นนักสิทธิมนุษยชนตัวยง ให้ความสำคัญกับปัญหาเด็กเร่ร่อนไร้สัญชาติและสตรี
สำนักข่าว CNN ของสหรัฐอเมริกา ได้ปล่อยคลิปสั้นบทสัมภาษณ์กมลนันท์ ที่แสดงให้เห็นถึงแรงบันดาลใจและจุดยืนในการทำงานเพื่อสังคม เธอบอกว่า ตั้งแต่จำความได้ คุณพ่อคุณแม่มักพาเธอกับพี่ชายและน้องชายไปทำบุญตามสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าและมูลนิธิต่าง ๆ อยู่เสมอ
โดยที่แรกที่เธอประทับใจก็คือ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน ดอนเมือง เพราะให้การดูแล รักษาเยียวยาหญิงที่ถูกข่มขืน ท้องไม่พร้อม ติดเชื้อ HIV และผู้ที่ไร้ที่พึ่งพิง รวมถึงเด็กที่คลอดจากหญิงที่อยู่ระหว่างการพักฟื้นในสถานที่แห่งนี้ด้วย เพื่อให้บุคคลเหล่านี้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
น้องฟ่ง บอกว่า บางครั้งการทำบุญหรือบริจาคอาจถูกมองว่ารวยแล้วเพิ่งจะมาบริจาค แต่สำหรับเธอมองว่า ไม่ว่าจะในฐานะนักสิทธิมนุษยชน หรือมนุษย์ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เธอก็รู้สึกว่าต้องมีความรับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และเชื่อเสมอว่า เด็กคืออนาคต เพราะฉะนั้นชีวิตนี้หากทำอะไรแล้ว ไม่มีประโยชน์ต่อคนรุ่นต่อ ๆ ไป สิ่งที่ทำนั้นก็จะไม่มีคุณค่า
กมลนันท์เริ่มทำงานกิจกรรมเชิงสังคมมาตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยมีโอกาสเข้าร่วมการประชุมระดับโลก One Young World ครั้งแรกที่กรุงดับบลิน ประเทศไอร์แลนด์ หลังจากนั้นในปี 2558 ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนของประเทศไทยขึ้นเวที One Young World อีกครั้งที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ได้นำเสนอแนวคิดด้านสิทธิมนุษยชน โดยเรียกร้องให้สังคมโลกหันมาแก้ไขปัญหาคนไร้สัญชาติ ซึ่งสะกดใจผู้ฟังที่เป็นผู้นำรุ่นใหม่จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านประสบการณ์ที่ได้สัมผัสมาด้วยตนเอง เกี่ยวกับชะตากรรมที่ยากลำบากของผู้อพยพไร้สัญชาติชายแดนประเทศไทย เรียกเสียงปรบมือกึกก้องห้องประชุม