พระราชชายาเจ้าดารารัศมี กับวัดแสนฝาง
วัดแสนฝาง(แสนฝัง) เป็นอีกวัดหนึ่งที่พระองค์ทรงอุปถัมภ์มาโดยตลอด เหตุเพราะว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่เก่าแก่สร้างโดยกษัตริย์ราชวงศ์มังราย (พญาแสนภูทรงสร้าง) จนกระทั่งราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน เจ้าผู้ครองนครได้ให้ความอุปถัมภ์เป็นประจำทุกๆพระองค์ อาทิ พระเจ้ากาวิโรรสสุริยวงศ์(พระอัยกา) ตลอดถึงพระบิดา พระมารดา พระเชษฐา(เจ้าแก้วนวรัฐ) ทรงได้ทำนุบำรุงวัดแห่งนี้มาโดยตลอด พบหลักฐานว่าพระเจ้าอินทวิชยานนท์และแม่เจ้าเทพไกรสรราชเทวี ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จมาสดับพระธรรมเทศนา ณ วัดแสนฝางนี้เสมอ จนถึงเจ้าแก้วนวรัฐและพระราชชายาฯ ก็ได้เสด็จที่วัดแห่งนี้เช่นกัน เมื่อครั้งพระครูบาโสภาโณเถระและรองอำมาตย์เอกหลวงโยนการพิจิตร (คหบดี) พร้อมด้วยศรัทธาสาธุชนในสมัยนั้น ได้ร่วมกันฉลองเสนาสนะสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดของวัดแสนฝาง ก็ตรงกับเวลาที่ ร.๕ เสด็จสวรรคต เมื่อการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระเพลิงพระบรมศพเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเสด็จพระราชชายาฯ จึงได้เสด็จมาประทับเชียงใหม่อย่างเป็นการถาวร ทรงได้ทำการไถ่ซื้อเอาพระอุโบสถ จากรองอำมาตย์เอก หลวงโยนการพิจิตรเป็นมูลค่า ๑,๐๐๐ รูปี และทำพิธีฉลองยกถวายพระอุโบสถอุทิศพระกุศลถวายดวงพระวิญญาณ พระเจ้าอินทวิขยานนท์ แม่เจ้าเทพไกรสร ณ วัดแสนฝางแห่งนี้ และพระอุโบสถยังคงมีสภาพอยู่ในปัจจุบัน
ในคราวที่พระราชชายาฯ เสด็จเยือนนครเชียงใหม่เป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ.๒๔๕๑ ได้เสด็จมาทรงบำเพ็ญพระกุศลที่วัดแสนฝางเป็นเวลาหลายวัน ดังปรากฎในรายงานที่ท้าวโสภานิเวศร์ ได้กราบบังคมทูลถวายรายงาน รัชกาลที่๕ เมื่อตามเสด็จพระราชชายาฯ ที่นครเชียงใหม่ว่า " วันที่๑ มิถุนายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๘ เวลาบ่าย๔ โมง ๑๕ นาที พระราชชายา เจ้าดารารัศมี เสด็จโดยกระบวนรถม้า ไปที่วัดแสนขวางประทับบนพลับพลาวัดแสนขวางทอดพระเนตรกระบวนแห่ครัวทานเป็นการ สำหรับฉลองวัดเสร็จแล้ว พระราชชายา เจ้าดารารัศมี เสด็จไปในพระอุโบสถทรงนมัสการพระเสร็จแล้ว เลยเสด็จขึ้นไปพระกุฎีของหลวงโยนการ เสด็จกลับเวลาย่ำค่ำ ๕ นาที
วันที่ ๒ มิถุนายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๘ เสด็จเลยไปวัดแสนขวาง ประทับบนพลับพลาทอดพระเนตรกระบวนแห่เสร็จแล้ว เสด็จกลับเวลาย่ำค่ำ "
เพิ่มเติม....บริเวณวัดแสนฝางนี้เคยเป็นประตูเมืองชั้นนอกของนครเชียงใหม่ที่เรียกกันว่า"ประตูเชียงเรือก"เพราะเป็นแนวของกำแพงดินที่สร้างขนาบมากับลำคลองแม่ข่า การคมนาคมสมัยก่อนที่มักจะเดินทางทางน้ำพอมาถึงจะต้องผ่านประตูนี้เพื่อจะเข้าไปประตูเมืองชั้นใน สังเกตุว่าลานประทักษินรอบเจดีย์จะมีปืนใหญ่ตั้งประดับไว้.....เจดีย์วัดแสนฝางเป็นเจดีย์สำหรับท่านที่เกิดในปีนักษัตรปีมะเมีย(ม้า)ซึ่งการเดินทางไปสักการะเจดีย์ชเวดากองที่กรุงย่างกุ้งลำบากมาก จึงตั้งเจดีย์แห่งนี้แทนมหาเจดีย์ชเวดากองแทน.....