ใครทันกันบ้าง รถขายหนังสือ กับความสุขไม่กี่อย่างของเด็กๆในชนบท
ในยุคสมัยที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างค้นหาได้เพียงแค่ปลายนิ้วคลิกอย่างในสมัยนี้ เด็กๆ ในยุคสมัยนั้นเลยต้องหากิจกรรมเล่นเพื่อหาความสนุกให้กับตัวเอง ซึ่งเมื่อมองย้อนไปในวันนั้นมันก็ทำให้เรามีความสุขมากๆ ล่าสุดเพจ วันนั้นเมื่อฉันสอน ได้ออกมาโพสต์แชร์ภาพของเด็กๆ โรงเรียนชนบท ที่กำลังรุมซื้อหนังสือจากรถที่มาจอดขาย พร้อมกับระบุข้อความว่า
คนขายหนังสือที่แต่งตัวดีท่าทางเป็นมิตรกับเด็กก้าวเข้ามาในห้องเรียนผม เขาขออนุญาตอย่างสุภาพ ก่อนที่ผมจะให้เข้าไปและเริ่มเปิดงานขายอย่างทะมัดทะแมง
"พรุ่งนี้นะคะน้องๆ จะมีสมุดวาดภาพระบายสี สมุดเพลงไทย ดิคชั่นนารีไทยอังกฤษ พจนานุกรม คู่มือเตรียมสอบ ความรู้รอบตัว ปริศนาคำทายมาขาย วันนี้พี่จะมอบรายการหนังสือเป็นกระดาษยาวให้น้องๆเก็บไว้ และเตรียมเงินมาให้พอดีกับค่าหนังสือในวันพรุ่งนี้ ในตอนเช้าจะมีรถกระบะมาจอดขายหน้าโรงเรียนถ้าตรงกับวันปิดเรียนทางเราก็จะมาในวันต่อไป
หนังสือบางเล่มมีการลดราคาด้วยคำว่าพิเศษ ซึ่งมันก็ราคานี่แหละแต่ผมไม่ได้บอกนักเรียนไป บางอย่างไม่จำเป็นต้องรู้ความจริงมากก็ได้ พวกเขาอยากซื้อก็ให้ซื้อเพราะมีไม่กี่ครั้งในชีวิตหรอกที่ความเจริญจากเมืองจะเข้ามาสู่พวกเขา
อันที่จริงรถขายหนังสือมาสาย คงอาจเพราะไปตระเวณโรงเรียนอื่นที่ใหญ่กว่าก่อนที่จะมาโรงเรียนผม ซึ่งก็สายจนเริ่มคาบเรียนไปแล้ว มีนักเรียนหลายคนมาขอออกไป ซึ่งผมก็ไม่อยากให้ไปเพราะได้เวลาเรียนแล้ว แต่เมื่อคิดดูอีกทีมันเป็นความสุขของพวกเขาแม้จะเปลืองเงินหน่อยผมก็ต้องจำยอม เพราะครั้งหนึ่งยังจำได้ว่าตัวเองดีใจแค่ไหนในอดีต กับการมาของรถหนังสือและได้มีสมุดเพลงประกอบละครเล่มเล็กเป็นของตัวเอง สมุดเพลงเล่มนั้นสำคัญมากเพราะไม่อาจ่หาเนื้อเพลงในอินเตอร์เน็ตได่อย่างปัจจุบัน
ความสุขไม่กี่อย่างของเด็กๆ รถขายหนังสือจากอดีตที่วิ่งข้ามผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน