สายกินผักดิบควรรู้ วิธีล้างผักให้สะอาด ป้องกันพยาธิและสารปนเปื้อน
สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวพบกลุ่มไข่พยาธิที่ลิ้น ซึ่งหมอสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการกินผักสดที่ไม่สะอาดหรือมีการปนเปื้อนของไข่พยาธิ วันนี้มาเรียนรู้วิธีล้างผักให้สะอาดปลอดภัยเพื่อป้องการปัญหาเหล่านี้ที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
1. น้ำส้มสายชู
ผสมน้ำส้มสายชูที่มีความเข้มข้น 5% ในอัตราส่วน 1 : 10 กับน้ำเปล่าสะอาด แล้วนำผักไปแช่ 10-15 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด
2. เปิดน้ำไหลผ่าน
เด็ดผักเป็นก้าน/ใบใส่ในตะแกรง เปิดน้ำไหลผ่านและใช้มือช่วยล้าง ๆ ถู ๆ เป็นเวลาสองนาที (ใช้เวลานานหน่อย และอาจเปลืองน้ำได้)
3. เกลือ
ใส่เกลือ 1 ช้อนโต๊ะในน้ำ 4 ลิตร แช่ผักหรือผลไม้ไว้ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
4. การใช้สารสังเคราะห์ล้าง เช่น ด่างทับทิมหรือเบกกิ้งโซดา
เป็นวิธีการล้างที่ทำให้ผักสะอาดมากที่สุดถึง 90% แต่หากล้างสารเหล่านี้ออกจากผักไม่สะอาดพอ อาจส่งผลต่อร่างกายได้ เช่น ท้องเสีย หรือระบบทางเดินอาหาร สารที่นิยมใช้ ได้แก่
- ด่างทับทิม (เกล็ดสีม่วง) ใช้ประมาณ 20 เกล็ดละลายในน้ำ 4 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 4 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- โซเดียมไบคาร์บอเนตหรือเบกกิ้งโซดา/ผงฟูทำขนม ผสมผงฟูครึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา 10 ลิตร แล้วแช่ผักไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
5.น้ำซาวข้าว
แช่ผักในน้ำซาวข้าว 10 นาทีแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
6.น้ำปูนใส ปูนสีแดงที่ใช้กินหมาก
เตรียมน้ำปูนใสอิ่มตัวที่ผสมกับน้ำเท่าตัว จากนั้นแช่ผักลงไป 10 นาที แล้วล้างผักด้วยน้ำสะอาด
7. ผงถ่านหรือผงคาร์บอนกัมมันต์ (ชาโคล)
มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษสูงและร่างกายไม่สามารถดูดซึมผงถ่านได้ ใช้ผงถ่าน 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 5 ลิตร แล้วนำผักผลไม้มาแช่ไว้ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ใครสะดวกวิธีไหนก็ลองไปใช้ดูนะจ๊ะ การทานผักสดดีกว่าผักผักลวก/ผักต้ม หรือผักที่ผ่านการปรุงด้วยความร้อน เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการ(ปริมาณสารอาหารต่างๆ) ดีกว่า อีกทั้งเราจะได้รับประโยชน์จากกากใยหรือไฟเบอร์โดยตรง เนื่องจากเส้นใยเหล่านี้จะจับกับกรดน้ำดี และขับถ่ายออกไปพร้อมอุจจาระ ช่วยทำให้โคเลสเตอรอลในน้ำดีดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือดใหม่ไม่ได้ ผลคือ ช่วยให้โคเลสเตอรอลในเลือดลดลงได้ แต่การทานผักสดก็มีโอกาสที่เกิดการปนเปื้อนของสารฆ่าแมลงหรือไข่พยาธิได้มากกว่าผักต้ม/ผักลวกเช่นกัน ดังนั้น การใส่ใจในการล้างผักให้สะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ผักบางชนิดรับประทานสุกจะมีประโยชน์กว่า เช่น มะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกหรือผ่านกระบวนการ เช่น ซอสมะเขือเทศ น้ำมะเขือเทศ ร่างกายจะนำไลโคปีนไปใช้ได้ดีกว่าผลสด นอกจากนี้ การรับประทานผักต้มสุกทำให้ลดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อดีกว่าการทานผักสด
ใครจะทานผักสดหรือผักต้ม/ลวก ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของร่างกาย ถ้าท้องอืด ท้องเฟ้อบ่อย ควรกินผักต้ม/ลวกมากกว่า หากโคเลสเตอรอลสูง ควรเลือกทานผักดิบช่วยได้จ้า ^^