ใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนพนักงานในโรงแรม รอดจริงหรือ ?
โรงแรมเป็นสถานที่พิเศษที่ส่งมอบประสบการณ์ในการพักผ่อน และการท่องเที่ยวผ่านการบริการมากมาย ดังนั้นโรงแรมจึงมักจะมีพนักงานคอยให้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวกตลอดเวลา ตั้งแต่การเช็คอิน ช่วยยกระเป๋าไปส่งที่ห้องพัก การบริการสั่งอาหาร Room service รวมถึงพนักงานต้อนรับที่คอยตอบคำถาม เมื่อผู้เข้าพักต้องการบริการเพิ่มเติมต่าง ๆ แต่แล้ววันนี้ เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง Internet of Things (IoT) และ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ Artificial Intelligence (AI) ก็เข้ามาปฎิวัติโรงแรมธรรมดาให้กลายเป็นโรงแรมสุดล้ำ ให้บริการต่างๆ ดังที่กล่าวมาได้ โดยผู้เข้าพักไม่จำเป็นต้องติดต่อกับพนักงานที่เป็นมนุษย์เลย แต่โรงแรมที่ว่าจะดีขนาดไหน? และ เทคโนโลยีเหล่านี้จะมาแทนที่มนุษย์ได้จริงไหม? เราจะมาแนะนำให้รู้จักโรงแรมแห่งอนาคต 3 แห่งจากประเทศจีน และญี่ปุ่น (ศึกษาเพิ่มเติม http://bit.ly/2YfqHUf)
- โรงแรมหุ่นยนต์Henn-na “Strange” Hotel ประเทศญี่ปุ่น
โรงแรมแห่งนี้มีพนักงานต้อนรับเป็น หุ่นยนต์ไดโนเสาร์เวโลซีแรปเตอร์ 2 ตัวที่ประจำหน้าเคาเตอร์เช็คอินซึ่งสมารถช่วยคุณเช็คอินเข้าห้องพักนั่นเอง ขึ้นชื่อว่าโรงแรมหุ่นยนต์ Henn-na “Strange” Hotel จึงมีพนักงานหุ่นยนต์คอยให้บริการอยู่มากมายทั้งพนักงานยกกระเป๋าไปส่งที่ห้องพัก ถ้าอยากฝากกระเป๋าไว้ในตู้นิรภัยส่วนกลาง ก็จะมีหุ่นยนต์ให้บริการนำสัมภาระไปใส่ในตู้นิรภัยให้ และหุ่นยนต์ผู้ช่วยประจำห้องที่มีหน้าที่ตอบคำถามพื้นฐานของผู้เข้าพัก นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์และเครื่องมือที่ทำงานด้านอื่น ๆ เช่น หุ่นยนต์ตัดหญ้า ตู้กดอาหารร้อนที่ให้บริการข้าวปั้นร้อนๆ หรือแฮมเบอร์เกอร์ได้ด้วย
โรงแรม Henn-na “Strange” Hotel ใช้พนักงานหุ่นยนต์แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานมนุษย์ รวมทั้งค่าแรงที่ค่อนข้างสูง และความต้องการห้องพักในโรงแรมที่ยังขาดอีกมากในประเทศญี่ปุ่น โดยมีแนวคิดว่าจะช่วยลดงานและความจำเป็นที่จะต้องมีพนักงานที่เป็นมนุษย์ลงนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ที่ว่าก็ยังไม่สามารถได้รับการพัฒนาได้เทียบเท่ามนุษย์ มีหุ่นยนต์หลายตัวที่เริ่มจะตกรุ่นและล้าสมัย ทำให้ในปี ค.ศ. 2019 ทางโรงแรมจึงต้องลดพนักงานหุ่นยนต์ลง เพราะว่าการลดหุ่นยนต์ลงน่าจะง่ายกว่าการหาหุ่นตัวใหม่มาทดแทน เพราะจะทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ซึ่งลดจำนวนหุ่นยนต์ลง 243 ตัวจากครึ่งของทั้งหมด เนื่องจากหุ่นยนต์เหล่านี้ไม่สามารถทำงานได้ลุล่วง จนมนุษย์ต้องเข้ามาทำงานแทนอย่างซ้ำซ้อน จนทำให้คนเข้าพักไม่สะดวก เช่น หุ่นยนต์ผู้ช่วยประจำห้อง Churi ไม่สามารถตอบโต้ได้เหมือน Google assistant หรือ Alexa จึงไม่สามารถแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารใกล้ ๆ ได้ เดือดร้อนให้พนักงานต้อนรับต้องทวนคำถามกันอีก หรือ หุ่นยนต์ไดโนเสาร์เช็คอินที่ไม่สามารถถ่ายเอกสารพาสปอร์ตได้ รวมทั้งหุ่นยนต์ส่งกระเป๋าที่สามารถนำกระเป๋าไปส่งได้แค่ 24 ห้องจาก 100 ห้อง สุดท้ายแล้วมนุษย์ก็ต้องมาทำงานเหล่านี้แทน กลับกลายเป็นสร้างภาระให้เพื่อนร่วมงานที่เป็นมนุษย์
- โรงแรมแห่งอนาคตFlyzoo Hotel ประเทศจีน
เมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba จะมาทำโรงแรมแห่งอนาคต จะธรรมดาได้อย่างไร? Flyzoo เป็นโรงแรมที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีมากมายจาก Alibaba โดยเฉพาะ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เป็นหัวใจของการบริการอย่างไร้รอยต่อ เทคโนโลยีทั้งหมดช่วยอำนวยความสะดวกได้ในระดับที่ผู้เข้าพักไม่ต้องเจอกับพนักงานเลย เริ่มจากการจองห้องพักผ่านแอปพลิเคชัน FlyZoo App ของโรงแรม หากเป็นผู้เข้าพักคนจีนเมื่อไปถึงโรงแรมก็เช็คอินผ่านมือถือได้เลย ส่วนผู้เข้าพักต่างชาติสามารถเช็คอินที่เคาน์เตอร์โรงแรม ด้วยการสแกนพาสฟอร์ตและหน้าของคุณ ทำให้คุณสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า face recognition หน้าของคุณจะกลายเป็นบัตรผ่านทางในการเข้าลิฟท์ซึ่งจะล็อคให้จอดเฉพาะชั้นของคุณ รวมถึงใช้หน้าคุณเปิดประตูเข้าห้องพักได้โดยไม่ต้องพกบัตรอีกต่อไป
ภายในห้องพักจะมีผู้ช่วยประจำตัว คือ Tmall Genie smart assistant ที่จะคอยตอบคำถามคุณได้ทุกอย่าง รวมทั้งช่วยเปิด-ปิดไฟ ควบคุมอุณหภูมิภายในห้อง ปิดผ้าม่าน ติดต่อให้เอาผ้าขนหนูมาเพิ่มให้ ในส่วนของ Room Service จะมีหุ่นยนต์ส่งของที่จะนำอาหารที่คุณสั่ง ผ้าขนหนู น้ำดื่มที่คุณขอผ่าน Tmall Genie smart assistant มาให้คุณถึงห้อง
ถึงแม้ว่าผู้เข้าพักจะไม่จำเป็นต้องพบพนักงานมนุษย์เลยเพราะใช้หุ่นยนต์บริการกว่า 90% แต่ใช่ว่าจะไม่มี เพราะ Flyzoo Hotel ยังต้องพึ่งพนักงานในการทำหน้าที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การทำความสะอาด และการทำอาหาร เพราะในตอนนี้พบว่าบางฟีเจอร์ในโรงแรม ยังต้องปรับปรุงเพิ่มเติม เพราะในบางบริการจะทำงานแค่กับผู้ที่มีบัตรประชาชนจีนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม Flyzoo Hotel ก็ถือว่าเป็นโรงแรมที่ล้ำสมัยสุดๆ ในยุคสมัยนี้
- โรงแรมอัตโนมัติSmart LYZ Hotel ประเทศจีน
Smart LYZ บอกว่าตัวเองเป็นโรงแรมอัตโนมัติแบบ 100% แห่งแรกในประเทศจีน เปิดตัวในเมืองเชิงตู ประเทศจีน ในเดือนมกราคมปี 2018 หลังจากนั้นได้เปิดโรงแรมเพิ่มอีก 2 แห่งในเมืองเชินเจิ้น และมีแผนจะเปิดบริการเพิ่มอีก 50 แห่งเพื่อครอบคลุมทุกมณฑลของประเทศจีน การให้บริการภายในไม่ต่างจากโรงแรม Flyzoo Hotel ของ Alibaba มากนัก โดยผู้เข้าพักสามารถจองห้องผ่านทางเว็บไซต์ Smart LYZ's Wechat และเมื่อมาถึงโรงแรมสามารถเช็คอินได้ที่ตู้บริการ พร้อมยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า จากนั้นจะได้รับพาสเวิร์ดสำหรับเข้าห้องพัก และมีหุ่นยนต์นำทางไปยังห้องพักอีกด้วย ภายในห้องพักสามารถใช้แอปพลิเคชันในการติดต่อสอบถาม และรับบริการรูมเซอร์วิสได้ เมื่อต้องการเช็คเอาท์ก็แค่กดปุ่มในแอปพลิเคชันเป็นอันเสร็จ
เทคโนโลยีทุกวันนี้สามารถเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ และยังสามารถช่วยให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น เช่น ช่วยให้กระบวนการเช็คอินสั้นลง ไม่ต้องปวดหัวเตรียมเอกสารยุ่งยากในการยืนยันตัวตน ลดภาระของผู้เข้าพัก และพนักงานบริการลง แต่ไม่ได้หมายความว่าโรงแรมจะไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์อีกต่อไป เพราะในกรณีฉุกเฉิน หรือ ในงานที่ต้องการความละเอียด พิถีพิถัน เช่น การทำอาหาร หรือ การทำความสะอาดห้องพักทุกซอกทุกมุม มนุษย์ก็ยังคงทำงานนี้อยู่ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ โรงแรมในอนาคตคงมีความจำเป็นต้องมีพนักงานลดลงเช่นกัน
ถึงแม้ในปัจจุบันโรงแรมในประเทศไทยของเราอาจจะยังไม่มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเหมือนกับประเทศจีนและญี่ปุ่น ดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่โรงแรมของไทยเรามีพนักงานที่เป็นมนุษย์ที่คอยให้การต้อนรับและคอยดูแลลูกค้า นักท่องเที่ยว ให้มีความสะดวกสบาย เป็นอย่างดี
โรงแรมส่วนใหญ่เน้นการบริการที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือแม้กระทั่งภาพลักษณ์ บรรยากาศภายในโรงแรม เน้นการออกแบบที่สวยงามน่าสนใจเพื่อดึงดูด ลูกค้าให้อยากมาใช้บริการ แน่นอนว่าลูกค้าทุกคนย่อมต้องการที่พักผ่อนและผ่อนคลายที่เมื่อเจอแล้วรู้สึกอยากกลับมาอีก
การพัฒนาโรงแรมเพื่อให้มีความพร้อมอยู่เสมอก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งการการทำธุรกิจโรงแรม สำหรับผู้ที่สนใจทำธุรกิจโรงแรมสามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ https://www.trebs.ac.th/th/24/RE164
ที่มา : https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=119
Tag : โรงแรมในอนาคต , หุ่นยนต์ทำงานแทนคน, ธุรกิจโรงแรมในอนาคต , การพัฒนาโรงแรม , ธุรกิจโรงแรม , เทรนโรงแรมในอนาคต