ศึกยาว !!! ระหว่าง กทม. VS ทีโอที ... ผู้โชคร้าย คือ True

ไขความจริง 2 ด้าน เมื่อกทม. ได้รับนโนบายจากรัฐบาลให้นำสายสื่อสารลงดิน จนล่าสุดมีข่าวว่า "บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด" เป็นผู้ยื่นเอกสารประมูลเพียงรายเดียวจากเอกชนทั้งหมด 25 ราย ทำให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มึนว่า "ทำไมกทม. ไม่ใช้ท่อของทีโอที หากคิดว่าราคาสูงไป ก็สามารถมาเจรจาต่อรองกันได้ ถึงแม้ว่าจะกำหนดราคาไว้ที่ 9,650 บาท" โครงการนี้เป็นโครงการอภิมหาโปรเจคใหญ่ของเมืองหลวง จนทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นโครงการที่มีผลประโยชน์ให้ใครหรือเปล่า ทำไมไม่มาร่วมกันทำเพื่อชาติ

สงครามการเมืองระดับชาติก็ยังไม่ได้ข้อสรุป สงครามการเมืองระดับท้องถิ่นในกรุงเทพก็เริ่มมาคุ !!! จนทำให้ทุกฝ่ายต่างพยายามเข้ามารื้อปัญหาเรื้อรังของกรุงเทพฯ แต่ด้วยกทม. เองไม่มีเงินลงทุนในการจัดการโครงการกว่า 25,000 ล้านบาท เลยใช้แผน "ยืมเงินเพื่อน" จากเอกชน (บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ให้เข้ามาทำสัมปทาน 30 ปี ทำให้กทม. แทบจะไม่ต้องหาเงินมาลงทุนเลย จนทำให้บริษัท ทีโอที ที่เป็นวิสาหกิจของรัฐ ที่คิดว่ายังไงโครงการนี้ก็เป็นของหวานต้องได้แน่นอน มาหัวหมุนกับแผนลงทุนของกทม. ในการจับเสือมือเปล่าครั้งนี้

จนมีช่าวลือว่า มี "ใบสั่ง" จากพรรคการเมืองเคยใหญ่พรรคหนึ่ง ที่เคยผูกขาดฐานเสียงกทม. มาตลอด แต่ล่าสุดเพิ่งถูกประชาชนคนกรุง "ตบหน้า" ไม่เลือกว่าที่ ส.ส.เขตของพรรคแม้แต่คนเดียว! เพราะในอีกไม่กี่เดือนก็จะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. แล้ว ในการกรุยทางเพื่อรักษาฐานที่มั่นสุดท้ายในพื้นที่กทม. เอาไว้

ถึงแม้โครงการปรับทัศนียภาพของประเทศด้วยการนำสายสื่อสารลงท่อร้อยสายหรือลงใต้ดินนั้น กรุงเทพมหานครได้รับมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนม.ค. 2562 ให้เป็นผู้ดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารไม่ให้รกรุงรังด้วยการนำลงท่อใต้ดินให้หมดทั้ง 2,450 กิโลเมตรในกทม. ถูกหลายฝ่ายกล่าวถึงเพราะไม่เข้าใจโมเดลการบริหารจัดการของกทม.ที่มอบหมายให้วิสาหกิจอย่าง บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกดำเนินการ ด้วยการใช้โมเดล 'ยืมเงินเพื่อน" โดยให้บริษัทที่ชนะการประมูลอย่าง ทรู อินเตอร์เน็ต นำเงินไปจ่ายให้กับผู้รับเหมา 3 รายแทน

ส่วนบริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต ที่ถูกหลายฝ่ายตั้งคำว่า "ผูกขาด" สายสื่อสารของประเทศ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุผลที่เข้าร่วมประมูลว่า "ทรูมีลูกค้าส่วนใหญ่ในกทม. หากต้องลงทุนเช่าสายจากผู้ให้บริการรายอื่นจะยิ่งทำให้มีต้นทุนสูงขึ้นไปอีก  ดังนั้น การลงทุนเอง มีความคุ้มค่ากว่า แถมยังจะได้ค่าเช่าจากผู้ใช้บริการรายอื่นๆ อีกด้วย" ส่วนที่ได้เพียงบริษัทเดียว ก็เนื่องจาก "ไม่มีบริษัทอื่น เข้าไปยื่นข้อเสนอคัดเลือกให้กทม." จนทำให้บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต ได้เพียงแค่บริษัทดียว

ผู้ให้บริการท่อร้อยสายเดิมในเขตกทม. อย่าง ทีโอที "งง" ไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ ทำไมกทม.จึงใช้การดำเนินการในรูปแบบนี้ เพราะทีโอทีเองก็มีท่อร้อยสายให้บริการทั่วกรุงเทพแล้วกว่า 2,500 กิโลเมตร ทำไมกทม.จึงเปิดให้มีการยื่นซองประมูลอีก พอมารู้ข่าวอีกที "บริษัท ทรู ก็ได้สิทธิ์บริหารจัดการไปเรียบร้อยแล้ว" ทำไมกทม.ถึงไม่ใช้ตัวเลือกเดิมที่มีอยู่แล้วอย่าง ทีโอที ในการให้บริการ หากเห็นว่าค่าเช่าสูงไปก็สามารถมาพูดคุยต่อรองกันได้ เพราะที่ผ่านมา ทีโอที ก็ยังทำร่วมกับการไฟฟ้านครหลวงกว่า 127 กิโลเมตร  หากมาพูดคุยกันก่อนก็สามารถลดราคาให้ถูกลงได้อีก "ทำไมกทม. ต้องทำให้ซับซ้อน เพื่อผลประโยชน์ใคร???"

ส่วนกรรมการกลางอย่าง กสทช. มองว่า "หาก กทม. สามารถทำให้โครงการนี้เสร็จไวขึ้น และสามารถเริ่มโครงการต้นแบบได้ไวก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะหน้าที่ของกสทช. จะควบคุมดูแล และกำหนดราคาเท่านั้น"

จนทำให้สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (นำโดยเอไอเอส-ดีแทค-3บีบี-ทีโอที-กสท.) เดินหน้าร้องเรียนนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างบางส่วน เพราะเป็นต้นทุนที่สูงเกินไป และคัดค้านที่จะให้เอกชนเพียงรายเดียวผูกขาดท่อร้อยสายดังกล่าว เนื่องจากการบริการดังกล่าวเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นของรัฐ ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกรายควรมีโอกาสในการเข้าถึงได้โดยตรง

ก่อนหน้านี้ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ได้ให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจว่า "บริษัทกรุงเทพธนาคมได้ส่งหนังสือเชิญผู้ประกอบการรายใหญ่ 2-3 รายให้เข้าเสนอราคาโครงการนี้ แต่พิจารณาเงื่อนไขการลงทุนแล้ว ประเมินว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะกระทบกับธุรกิจอื่น ๆ ของบริษัท โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านราคาที่จะต้องประกาศเป็นอัตราค่าเช่าที่ผู้ประกอบการรายอื่นต้องจ่ายซึ่งสูงมาก อาจไม่คุ้ม จึงไม่เข้าร่วมเสนอราคา"

หรือว่า "มหานครไร้สาย" อาจจะเป็นเพียงความฝันของคนกรุงเทพฯ

ที่จะต้องลุ้นกันต่อไปว่า เมื่อไหร่จะสำเร็จได้จริง