ความบาดหมาง เกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ

📌 คิมจองอึนส่งสานเตือนในวันปีใหม่ถึงสหรัฐฯ
“ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี” ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบ 📌

💥 ในทางปฏิบัติ 
เกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ ถือว่าอยู่ในฐานะ ‘คู่สงคราม’ 
เพราะไม่เคยมีข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัน

[‘สงครามเกาหลี’ สิ้นสุดลงเมื่อเกือบ 70 ปีที่แล้ว
หลังจากสู้รบกันตั้งแต่ปี 1950-1953

เกาหลีเหนือที่มีจีน & โซเวียตหนุนหลัง
และเกาหลีใต้ที่มีสหรัฐฯ ให้การสนับสนุน 
ได้ทำข้อตกลง Truce สงบศึกกัน
ไม่เคยมีการประกาศว่าผู้ใดแพ้หรือชนะสงคราม]

**สหรัฐฯ มีข้อตกลงทางทหารกับเกาหลีใต้
คือถ้าเกาหลีใต้ถูกบุก/ถูกโจมตี/ถูกคุกคาม
สหรัฐฯ จะต้องมาช่วยรบ

.

💥 เมื่อโลกเข้าสู่ยุคสงครามเย็น
มหาอำนาจต่างสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์เพื่อคานอำนาจกัน
และความตึงเครียดก็เพิ่มขึ้นไปอีก
เมื่อ John F. Kennedy กล่าวสุนทรพจน์ 
โดยมีประโยคหนึ่งที่บอกว่า

“Those who foolishly sought power 
by riding the back of the tiger ended up inside.”
“พวกที่แสวงหาอำนาจอย่างโง่เขลาด้วยการขี่หลังเสือ
ก็จะพบจุดจบด้วยการถูกเสือกิน”

Kennedy เปรียบเทียบฝ่ายคอมมิวนิสต์
เหมือนเสือที่เป็นอันตรายและเป็นภัยคุกคามนั่นเอง

หลังจากนั้น..
การแข่งขันกันพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ก็ยิ่งดุเดือดขึ้นเป็นทวีคูณ

.

💥 ทำไมต้องมีอาวุธนิวเคลียร์?
ก็ถ้าคุณมีอาวุธนิวเคลียร์ คุณก็อุ่นใจได้
ว่าฝั่งตรงข้ามจะไม่กล้าถล่มใส่คุณยังไงล่ะ

มันเป็นแนวคิดที่เรียกว่า MAD
หรือ Mutually Assured Destruction “แนวคิดตายคู่”
>> แกยิงมา ฉันยิงตอบ 
เละเป็นโจ๊กแน่นอนทั้งคู่

พูดง่าย ๆ คือ มันเป็น ‘ดุลยภาพในการต่อรอง’

ถ้าหากเกาหลีเหนือ
ไม่แสดงอานุภาพนิวเคลียร์ของตัวเอง
สหรัฐฯ อาจจะส่งหน่วยรบเข้าไปเก็บน้องคิมเมื่อไหร่ก็ได้
หรือไม่ก็นำกำลังทหารบุกประเทศ
แบบเดียวกับที่ทำกับอิรัก (ซัมดัม) และลิเบีย (กัดดาฟี)
จนภูมิภาคนั้นมีแต่สงครามจนถึงปัจจุบัน

.

💥 โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
เดินหน้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เกินกว่าที่สหรัฐฯ เคยคาดการณ์ไว้มากกกกกกก 😱 😱
แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ ก็ยังยอมรับว่า
ขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือ
สามารถยิงมาไกลได้ถึงสหรัฐฯ จริง

ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ 
ไม่เชื่อว่า เกาหลีเหนือต้องการเริ่มสงคราม
เพราะสิ่งที่ต้องแลกมามันไม่คุ้มกันซักนิด
.

🌟 ส่วนตัวมองว่า 
เกาหลีเหนือเพียงแค่ต้องการให้สหรัฐฯ 
ยอมรับเขาในฐานะ ‘ประเทศที่เท่าเทียม’
และจะไม่เข้ามาจุ้นจ้านวุ่นวายกับระบอบการเมืองของเขา
ซึ่งมันทำได้โดยไม่ต้องจ่ายราคาแพงอะไรเลย 🌟

.

💥 เกาหลีเหนือโดนคว่ำบาตรอย่างหนัก
แม้กระทั่งพี่ใหญ่อย่างจีน ก็ถูกสหรัฐฯ กดดัน
จนต้องคว่ำบาตรเกาหลีเหนือไปด้วย

[การที่เกาหลีเหนือมีนิวเคลียร์
ก็น่าจะทำให้จีนร้อน ๆ หนาว ๆ อยู่นะ
จุดทดสอบนิวเคลียร์ก็อยู่ใกล้จีนเลย
เกิดผิดพลาด ตู้มเดียว จีนก็เละไปด้วยเหมือนกัน 5555

ขณะเดียวกัน จีนก็ไม่ชอบใจนักหรอก
ที่เมกาไปติดตั้ง THAAD ที่เกาหลีใต้
เพราะมันทำให้จีนเสียอำนาจในการต่อรองทางการทหาร
อีกทั้งระบบเรดาร์ อาจจะมาสอดแนมจีนได้อีก]

.

💥 เมื่อส่งออกและนำเข้าได้น้อยลงจนรายได้หดหาย
สุดท้าย เกาหลีเหนือก็ต้องพึ่งวิธีทางการทูต
จนนำมาสู่เรื่องราวต่อไปนี้

.

⚡️ 27 เมษายน 2018
เกิดสิ่งที่คิมน้อยเรียกว่า 
A New History and An Era of Peace
“ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ & ยุคแห่งสันติภาพ”

นั่นคือ ทั่วทั้งโลกได้เห็นภาพสุดประทับใจ
ระหว่างคิมน้อยกับปธน. Moon Jae-In แห่งเกาหลีใต้
จับมือกัน กอดกันหวานชื่น แลกรอยยิ้มที่จริงใจให้แก่กัน
*ปาดน้ำตา*
ผู้นำของสองเกาหลี ได้ให้คำมั่นว่า
จะหยุดการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน
และเปลี่ยนจาก ข้อตกลงสงบศึกชั่วคราว
ให้เป็น สันติภาพถาวรในคาบสมุทรเกาหลี

Trump ออกมาแสดงความยินดี
กับการปรองดองของสองชาติ
(จริง ๆ ก็ชาติเดียวกันอ่ะแหละ
เชื้อชาติเดียวกัน ภาษาที่ใช้ก็เหมือนกัน
แค่แยกกันปกครองคนละระบอบ)

และก็ไม่ต้องแปลกใจ ที่ได้เห็น Trump 
เคลมความดีความชอบนี้เข้าตัวเองตามเคย 55555

.

⚡️ และหลังจากที่ผลัดกันด่ากันไปมาออกทีวี
ในที่สุด Trump กับ Kim ก็ได้มาจับมือกันหวานชื่น
ณ งานประชุมสุดยอดผู้นำ ซึ่งจัดที่ประเทศสิงคโปร์
วันที่ 12 มิถุนายน 2018

มีการเซ็นเอกสารกันดิบดี
โดยที่ข้อตกลงของสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ
ครอบคลุม 4 ประเด็นหลักดังนี้

1) สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ จะสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่

2) สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ จะพยายามร่วมกัน
สร้างสันติที่ยั่งยืนในคาบสมุทรเกาหลี

3) เกาหลีเหนือจะเดินหน้าตาม 
“Panmunjom Declaration ปฏิญญาปันมุนจอม”
นั่นคือการทำให้คาบสมุทรเกาหลี
ปลอดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์

4) สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ จะร่วมกันค้นหาร่างของเชลยศึก
รวมถึงทหารที่สูญหายขณะปฏิบัติหน้าที่
และส่งคืนร่างของผู้ที่ระบุตัวตนได้แล้ว

.

⭐️ เหมือนจะมี Happy Ending ใช่มั้ย?
ตัดภาพมายังปัจจุบัน
สหรัฐฯ ก็ยังไม่ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ⭐️

.

💥 ในวันปีใหม่ที่ผ่านมา 
น้องคิมมี่จึงได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์ว่า
“ถ้าหากสหรัฐฯ ไม่รักษาสัญญา
ที่ได้ให้ไว้ต่อหน้าประชาชนโลก
และยังคงมาตรการคว่ำบาตรหรือกดดันเรา
เราก็อาจจะต้องเลือกเส้นทางอื่น
เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ”

อีกทั้งยังบอกด้วยว่า
ตัวเขาเอง พร้อมที่จะเจรจากับ Trump อีกครั้ง

สิ่งที่น้องคิมของเรา เรียกร้องจากสหรัฐฯ
คือ
- เลิกจัดซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้
- ไม่ส่งยุทโธปกรณ์ไปให้เกาหลีใต้อีก 
- คาบสมุทรเกาหลีจะต้องปราศจาก THAAD
รวมถึงเรือดำน้ำและเครื่องบินรบต่าง ๆ
เพราะนั่นถือเป็นภัยคุกคามต่อเกาหลีเหนือ

.

💥 ปัญหาคือ Trump จะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
ใช้วิธีต่อรอง กดดัน เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
ตามสไตล์นักธุรกิจของเขา

ในขณะที่สหรัฐฯ ต้องการให้เกาหลีเหนือ
กำจัดอาวุธนิวเคลียร์ที่มีทั้งหมด
และทำลายสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์ให้สิ้นซาก

เกาหลีเหนือเอง ก็ต้องการหลักประกัน
ในเรื่องเศรษฐกิจและความมั่งคงภายในประเทศ
ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวที่เกาหลีเหนือ
พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มากว่า 10 ปี

แต่สหรัฐฯ กลับไม่มีทีท่าว่าจะให้เกาหลีเหนือได้
แล้วแบบนี้มันจะตกลงกันได้ยังไงล่ะ???

น้องคิมไม่ใช่คนโง่ ที่จะยอมถอยอยู่ฝ่ายเดียว
เขานำประเทศตั้งแต่อายุยังน้อย
และเดินเกมการเมืองได้อย่างฉลาด

คิมน้อยคงเห็นในสิ่งที่อเมริกาทำกับอิหร่าน
และที่ทำกับทายาท Huawei แล้ว

ก็คิดดูสิ ขนาดพี่ใหญ่ Xi Jinping ที่มีอำนาจต่อรองมากกว่า
ยังโดนขนาดนี้…
คิมน้อยรู้ดีว่า
อาวุธนิวเคลียร์ คือไพ่ตายใบสุดท้ายของเกาหลีเหนือ

.

💥 จริง ๆ พี่ Putin แห่งรัสเซีย อ่านขาดมาก่อนแล้ว
Putin เคยพูดไว้ว่า

“North Koreans would rather eat grass 
than suspend a nuclear weapons program.”
หมายความว่า เกาหลีเหนือนั้นยอมกินหญ้า
ดีกว่าจะระงับโครงการนิวเคลียร์

= เกาหลีเหนือยอมทุ่มเงินทุกอย่าง
เพื่อพัฒนานิวเคลียร์ไว้ต่อรองกับสหรัฐฯ
(ซึ่งถือเป็นประเทศศัตรูตัวฉกาจ)
แม้คนในประเทศจะต้องกินแกลบก็ตาม

เรื่องประสบการณ์ เรื่องไหวพริบเนี่ย
ต้องยกให้พี่ Putin จริง ๆ 
*งานอวยก็มาค่ะ ☺️*
พี่ปูตินเคยทำงานเป็น KGB ในช่วงสงครามเย็น
เคยทำงานอยู่ศูนย์กลางข่าวกรองของรัสเซีย
เพราะฉะนั้น การอ่านเกม การวิเคราะห์ฝ่ายตรงข้าม
ยังไงพี่ปูตินก็เหนือกว่าใครเพื่อน ฮี่ ๆ ๆ ๆ

.

💚 ช่วง เพิ่มคลังศัพท์กับรินริน 💚

- Korean peninsula คาบสมุทรเกาหลี

- Ballistic missile ขีปนาวุธทิ้งตัว

- Summit การประชุมสุดยอดผู้นำ

- Demilitarized Zone (DMZ) เขตปลอดทหาร

- Hostile activities การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์

- Military drills การฝึกซ้อมทางการทหาร 
(ซ้อมกองทัพ ซ้อมการใช้อาวุธ ฯลฯ)

- Nuclear umbrella ร่มนิวเคลียร์
คือการที่ประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ 
ให้คำมั่นสัญญาที่จะคุ้มครองพันธมิตรที่ไร้อาวุธนิวเคลียร์ 
(เหมือนสหรัฐฯ กับ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นอ่ะ)

- Denuclearization การปลด/ลด อาวุธนิวเคลียร์

- Prisoner of war (POW) เชลยศึก

- Missing in action (MIA) ทหารที่สูญหายขณะปฏิบัติหน้าที่

- Sanction การคว่ำบาตร

- (n.)/(v.) Pledge คำมั่นสัญญา (ที่เป็นทางการ)

- Terminal High Altitude Area Defense (THAAD) 
ระบบป้องกันขีปนาวุธ