อ้างทำเพื่อชาติ!! “เทือก” ยอมรับ พรรคตัวเอง อาจจะไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี แม้แต่กระทรวงเดียว!
10 มิ.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีหมายเลขดำ อ.1073/2562 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นจำเลย ในฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328
กรณีเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2562 นายวัชระได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กล่าวหานายสุเทพว่าแทรกแซงการเลือกหัวหน้าพรรค ปชป. และเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเงิน ทั้งที่นายสุเทพได้ก่อตั้งพรรคใหม่แล้ว กลับหาว่าไปแทรกแซงพรรคเดิม ซึ่งผิดกฎหมาย ทำให้นายสุเทพเกิดความเสียหาย
ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณาคดีวันนี้ นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ เปิดเผยว่า วันนี้ทนายความของนายวัชระ จำเลย ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีออกไป เนื่องจากติดว่าความที่ศาลอื่น โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้เลื่อนไต่สวนมูลฟ้องไปเป็นวันที่ 9 ก.ย. นี้ เวลา 13.00 น.
ด้านนายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งรัฐบาลในขณะนี้ที่มีการถกเถียงเพื่อแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันว่า ไม่รู้สึกเป็นห่วงเรื่องการถกเถียงการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรี ตนเคยเป็นผู้จัดการรัฐบาล เคยตั้งรัฐบาลมาก่อน การตั้งรัฐบาลที่มีหลายพรรคการเมืองก็ต้องพูดคุยกันมากเป็นธรรมดา ว่าแต่ละพรรคควรมีที่นั่งในคณะรัฐมนตรีกี่คน และใครมีความสนใจที่จะไปดูแลบริหารงานกระทรวงใด ใครมีนโยบายอย่างไร เป็นเรื่องต้องใช้เวลาพอสมควรในการพูดคุยกัน กรณีนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา
ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ทั้งคู่ ไม่ค่อยยอม นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนั้นอาจเป็นเพียงข่าว เราไม่รู้ว่าที่เขาคุยกันจริงๆ คืออะไร ตนก็ดูข่าวเหมือนต่างคนต่างคาดการณ์กันไปเลยมาทำเป็นข่าว เรื่องจริงอาจไม่เป็นแบบนี้ก็ได้
ถามว่าการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นอำนาจของใครและควรเป็นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า โดยวิธีปฏิบัติ ต้องตกลงกันก่อนว่าแต่ละพรรคควรมีรัฐมนตรีกี่คน ต่อมาจะเป็นเรื่องที่พรรคใดจะมาดูแลงานกระทรวงใด และแต่ละพรรคที่ส่งตัวบุคคลมาเป็นรัฐมนตรีมีใครบ้าง ผู้ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลคือนายกรัฐมนตรีจะดูว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร
ถามว่าพรรคที่นายสุเทพช่วยเดินหาเสียง จะได้เก้าอี้รัฐมนตรีกี่ที่นั่ง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับใคร เพราะว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยเป็นพรรคเล็ก มีส.ส.เพียง 5 คน เราก็ประกาศตั้งแต่ตอนหาเสียงว่าสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะฉะนั้นเราไม่มีเงื่อนไขอะไร แม้จะไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรีก็ยังสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เหมือนเดิม เพราะเราคิดถึงเรื่องชาติบ้านเมืองเป็นหลัก เราเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ เพื่อจะพาบ้านเมืองฝ่าฟันช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไปได้
แหล่งที่มา: https://www.khaosocial.net